จิตแพทย์ กับ ว่าที่ผู้ทุพพลภาพ


ทีนี้ผมก็กลายเป็น " ผู้ทุพพลภาพถาวร " (disable person) เต็มขั้นแล้วครับ
คราวนี้ผมก็จะได้กล่าวถึง อาจารย์หมอท่านหนึ่ง ซึ่งท่านเป็น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช ที่เข้าร่วมตรวจสอบ วินิจฉัย อาการของคุณหมอประกิตเผ่า ที่กำลังโด่งดังช่วงเวลาที่ผ่านมา

อาจารย์หมอ ศ.พญ. นงพงา ลิ้มสุวรรณ
หัวหน้าภาควิชาจิตเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี

ผมได้พบกับอาจารย์ หลังจากที่ผมมาอยู่ห้องพิเศษได้ 1 สัปดาห์ เพราะดูๆ แล้วเรื่องที่ผมดำรงตำแหน่ง " ว่าที่ผู้ทุกพภาพถาวร " จะดูเข้มข้นขึ้นทุกขณะ เป็นการพบกันครั้งแรกครับ เข้าหัวข้อได้พอดีครับ

" จิตแพทย์ กับ ว่าที่ผู้ทุพพลภาพ "

อาจารย์เริ่มพูดคุยด้วยการแนะนำตัว (แค่นี้ผมก็รู้สึกแปล่งๆ หมายถึง เริ่มสะกิดใจแล้วครับ) ตามด้วยเรื่องทั่วๆ ไป และเรื่องทัศนคติของผม อาจารย์อยูไม่นาน สักพักก็กลับ อาจารย์บอกว่า " พุธหน้าจะมาอีกครั้ง "

ผมเริ่มเก็บข้อมูลอย่างจริงจัง ว่าผมเป็นอะไรกันแน่

ถึงตรงนี้ ผมต้องเอ่ยถึง หัวหน้างานของผม " พี่นุช " พี่นุชเป็นผู้จัดการของผมเองที่บริษัท Berli Jucker ไม่น่าเชื่อครับ เพราะพี่นุช เป็นคนบอกความจริงให้ผมทราบเอง ไม่ใช่คุณแม่ผม ไม่ใช่แฟนผม หรือคุณหมอ ซึ่งก็เหมาะสมกับบุคคลิกของพี่นุชอยู่แล้ว ประกอบกับ พี่เค้ารู้จักนิสัยผมดี อีกคนเช่นกัน

จากความสงสัย จากเรื่องแปลกๆ จากกริยาท่าทาง จากการวิเคราะห์ และจากอะไรๆ อีกหลายอย่าง จนสุดท้ายจากปาก หรือ คำพูดของพี่นุชเอง

" ต๋อง พี่จำเป็นต้องพูดนะ ยังไงก็หนีความจริงไม่พ้น ตกลงว่าหมอ ลงความเห็นว่า แกจะเดินไม่ได้ แกทุกพลภาพ จริงๆ แม่แกไม่กล้าพูด พี่จึงต้องพูดเอง ที่ต้องพูดเพราะมันเกี่ยวข้องกับการที่ ต๋องต้องตัดสินใจว่าจะใช้สิทธิ์อะไร ระหว่าง สิทธิ์กองทุนเงินทดแทน หรือ สิทธิ์ประกันสังคม "

ผมจำคำพูดนุชได้ ไม่ละเอียดหรอกครับ แต่คงประมาณนี้ครับ

ทีนี้ผมก็กลายเป็น " ผู้ทุพพลภาพถาวร " (disable person) เต็มขั้นแล้วครับ คืนนั้นดูทุกคนจะไม่ค่อยกล้าพูดคุยกับผมอะไรมากนัก เพราะผมก็เงียบๆ ด้วย ก็คิดครับ คิดหลายเรื่อง คิดเยอะ คิด คิด คิด...........

ไม่ทันไรก็ครบอาทิตย์ ผมได้พบกับอาจารย์หมอนงพงา อีกครั้ง คราวนี้การสนทนากันค่อนข้างตรงประเด็น ผมตอบอาจารย์โดยรวมว่า

" เมื่อรู้ว่าเป็นก็เสียใจ แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องคิดต่อไปข้างหน้าว่า ผมเจ็บป่วยถึงระดับไหน ดีที่สุดเมื่อหายแล้วร่างกายจะเหลือเท่าไหร่ วิธีการดูแลตนเองต้องทำอย่างไร มีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยด้วยโรคอะไรบ้าง "

อาจารย์เข้ามาพูดคุยไม่นาน ดูแล้วอาจารย์พอใจกับการสนทนา แล้วอาจารย์ก็กลับ

ไม่นานคุณแม่ผมก้เข้ามา บอกผมว่าอาจารย์หมอไม่มาแล้ว แกลงความเห็นว่า " ลูกมีสุขภาพจิตดีมาก ไม่เป็นอะไร ลูกรับได้ที่เป็นแบบนี้ "

ถ้าเป็นเรื่องนี้ แน่นอนครับ ผมเตรียมตัวมาอย่างดีเยี่ยมก่อนแปลงสถานะอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อต้องแปลงร่างเป็น " ยอดมนุษย์ ทุพพลภาพ " จึงใช้เวลาทำใจไม่นาน

แต่เรื่องสำคัญ ที่ต่อมาจะเป็นหนังเรื่องยาวของผม ก็คือ " การติดเชื้อ " ครับ ผมจำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะ เพื่อหยุดเชื้อแบคทีเรีย " สูโดโมแนส " (ไม่รู้สะกดถูกหรือเปล่า ส่วนภาษาอังกฤษ จำไม่ได้)

แต่คราวหน้าผมจะยังไม่ได้พูดถึง การติดเชื้อหรอกครับ ผมอยากคุยถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งสำหรับทุกๆ คน คือเรื่อง " ประกันสังคม " ก่อน เพราะเป็นเรื่องที่เป็นปัจจัยหนึ่งเหมือนกัน ที่ทำให้อาการเจ็บป่วยของผม แทนที่จะเป็น " หนังโรง 2-3 ชั่วโมง " แล้วจบ ดันกลายเป็น " หนังซีรี่ย์ 20 ตอนจบ " ไปได้

ครับ งั้นตอนนี้ แค่นี้ก่อนนะครับ


ขอบคุณมากครับ

ปรีดา ลิ้มนนทกุล
mobile : 089-6910225
Tel. & Fax.: 02-9232724
email : [email protected]
คำสำคัญ (Tags): #ผู้ทุพพลภาพ
หมายเลขบันทึก: 90694เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2007 01:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
ดูคุณเป็นคนเข้มแข็งมาก ๆ และมองโลกในแง่ดี และพร้อมจะหาคำตอบทุกเมื่อ เมื่อสงสัย

" ผู้ทุพพลภาพถาวร " (disable person)

ผมไม่ค่อยชอบคำนี้เลยครับ disability หรือ disable เนี่ย ผมเห็นหลายคน มีความสามารถ ability ทำอะไรได้ดีกว่า คนอื่นอีกหลายคนด้วยซ้ำ

เชื้อโรค Pseudomonas คุณปรีดาเก็บมาถูกต้องค่ะ "สูโดโมแนส" เวลาเพาะเชื้อในห้องแล็บ เชื้อนี้ทั้งสีสวยและกลิ่นแรงเลยล่ะค่ะ

เห็นด้วยกับคุณ  หมอจิ้น ค่ะว่า disable person นี่ฟังดูไม่เหมาะสม อยากให้เป็น limited physical ability อะไรแบบนั้นจะสื่อสารได้ดีกว่าเยอะค่ะ ความ able กับ disable นี่ฟังดูรวมๆสมองไปด้วย ซึ่งไม่ยุติธรรมค่ะ คนอย่างคุณปรีดานี่แหละค่ะที่พิสูจน์ความ "เต็มร้อย" ได้กว่าคน able เยอะแยะ

มาตามอ่านค่ะ...บันทึกนี้สพท้อนความเข้มแข็งมากๆค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท