จารุวัจน์ شافعى
ผศ.ดร. จารุวัจน์ ชาฟีอีย์ สองเมือง

เพิ่มทักษะทางภาษาให้ลูก


มีพ่อแม่หลายคนเป็นห่วงเกี่ยวกับการพูดของลูก บางคนตั้งข้อสังเกตุเวลาเห็นลูกคนอื่นพูดได้แล้ว ในขณะที่ลูกของตนยังไม่ยอมพูดเลย ต้องขอบอกว่าอันนี้เป็นเรื่องธรรมชาติครับ เด็กแต่ละคนมีพัฒนาการที่ไม่เท่ากัน และอาจมีความแตกต่างกันบ้าง ไม่จำเป็นเป็นไปตามกำหนดการแบบตายตัวเสียทีเดียว

แต่โดยบทบาทของพ่อแม่ที่ควรมีต่อพัฒนาการของลูกคือ การกระตุ้นให้มีพัฒนาที่ต่อเนื่อง การกระตุ้นก็ด้วยการเล่นนั่นแหละครับ เล่นอะไรก็ได้ที่ช่วยให้เกิดพัฒนาด้านนั้นๆ  เช่น ถ้าต้องการให้เขาเดินได้เร็ว ก็กระตุ้นให้เขาเดิน ประคองบ้างเพื่อให้ความอบอุ่น

การพูดก็ถือเป็นทักษะหนึ่งครับที่จะพ่อแม่ควรมีส่วนในการกระตุ้นพัฒนาการ ง่ายๆ ครับ แค่ชวนคุย การเล่นที่เน้นการพูดคุย ถ้าพ่อแม่คุยน้อยก็ทำให้ลูกพูดได้ช้าครับ

ออ. การที่พ่อแม่ไม่คุยกับลูก แต่คุยกับคนอื่น แล้วลูกนั่งฟังอยู่ ก็ถือว่าเป็นการกระตุ้นให้เกินการคุยเหมือนกันนะครับ อันนี้พ่อแม่ต้องระวังครับ เพราะนอกจากจะสร้างวัฒนธรรมทางภาษาให้กับลูกแล้ว บางทีอาจสร้างนิสัยชอบพูดนินทาให้กับลูกได้ด้วยครับ ตามสำนวนไทยที่ว่า ดูนางให้ดูแม่ครับ

พ่อแม่บางคนชอบพูดเลียนแบบลูกครับ เช่น เวลาลูกพูดผิด พ่อแม่ก็พูดตามลูก ดูเหมือนจะน่ารักครับ แต่จริงๆ ไม่ดีเท่าไรครับ ควรพูดให้เป็นตัวอย่างครับ เพราะลูกดูคุณอยู่

สำหรับผม เนื่องจากแนวคิดเบื้องต้นในการเลี้ยงลูก คือระบบสองภาษา ดังนั้นผมจึงจะพูดภาษาไทยกับลูก ในขณะที่แม่จะเป็นคนพูดภาษามลายู จะเห็นได้ชัดครับ ช่วงใดที่ผมมีเวลาเล่นและคุยกับลูกมากกว่าแม่ ลูกจะพูดไทยมากกว่ามลายูครับ แต่โดยปกติเขาจะพูดมลายูครับ เนื่องจากเวลาส่วนใหญ่อยู่กับแม่ และสภาพแวดล้อมก็เป็นมลายูอยู่แล้ว

เวลาลูกพูดมลายูกับผม ผมก็จะพูดไทยกลับไปครับ บางทีก็ต้องสองภาษาในบางคำศัพท์ที่เขาไม่เคยพูดกับผมด้วยภาษาไทย เพื่อเป็นการเพิ่มศัพท์ครับ

ออ. อย่าโกรธนะครับ ถ้าคุณใช้วิธีการสองภาษาอย่างผม แล้วลูกไม่ยอมพูดภาษาที่ต้องการกับคุณ เพราะเขายังไม่เข้าใจครับว่า ภาษาที่เขาเรียนต่างกันอย่างไร เขาเข้าใจแค่ว่า อันนี้เรียกว่าอะไร ซึ่งก็หมายถึง ของหนึ่งสิ่งมีสองชื่อครับ ดังนั้นการเลือกใช้ภาษาจึงต้องเป็นการกระตุ้นจากคุณเอง

อีกประเด็นหนึ่งครับที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิด นั่นคือ รถหัดเดิน (รถที่ใส่เด็กลงไป แล้วก็ไปมาได้โดยการแกว่งเท้า) ทำให้เด็กเดินได้เร็วขึ้น เพราะเท่าที่ผมจำได้จากการอ่านงานวิจัย พบว่า รถหัดเดินไม่ได้ช่วยให้เด็กเดินได้เร็วขึ้นหรอกครับ เพราะมันไม่ได้กระตุ้นเด็กในการเดินเลย เพราะไม่ได้ฝึกอะไรเลย เด็กไม่ได้พยุงตัวเอง ไม่ได้หัดย่างเลย แถมจากรายงานวิจัยพบว่ามีอุบัติเหตุที่เกิดกับเจ้ารถหัดเดินมากเหมือนกัน ในความจริงการจะให้ลูกหัดเดิน ก็คือ ให้เดินครับ

แต่ผมก็ใช้รถหัดเดินนะครับ เนื่องจากคุณแม่เหนื่อยกับการอุ้มและเลี้ยงลูก จึงใช้เจ้ารถคันนี้เป็นอุปกรณ์เลี้ยงลูกแทนเท่านั้นเอง

 

 

คำสำคัญ (Tags): #ฝึกพูด
หมายเลขบันทึก: 90444เขียนเมื่อ 15 เมษายน 2007 10:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
ลูกคนเล็กหรือ น่ารักจัง เหมือนพ่อ(หรือไม่)

อันนี้ลูกคนแรกครับ เป็นภาพในอดีต

ทำไมไม่หาแฟนอีกคนมาช่วยเลี้ยงลูกละครับ

ชีิวิตพอเพียงครับ หนึ่งก็พอแล้ว
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท