ราว ๆ สักสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนจะไปตระเวนเที่ยวช่วงเทศกาลอีสเทอร์ ได้มีโอกาสแวะไปเที่ยวปราสาทที่เป็นที่อยู่ของพระราชินีแห่งอังกฤษ ปราสาทแห่งนี้ชื่อว่าปราสาทวินด์เซอร์ (Windsor Castle) หรือใครจะเรียกว่าพระราชวังวินด์เซอร์ก็คงได้เช่นเดียวกัน
“Windsor Castle is an official residence of The Queen and the largest occupied castle in the world. A Royal home and fortress for over 900 years, the Castle remains a working palace today.” (จาก www.royal.gov.uk)
ปราสาทแห่งนี้แม้จะถูกสร้างมาเกือบพันปี แต่ปัจจุบันก็ยังคงถูกใช้เป็นที่พักอาศัยของพระราชินี และยังใช้เป็นสถานที่รับแขกสำคัญอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอีสเทอร์ (ประมาณเดือนมีนาคมและเมษายน)
ข้างในปราสาทมีสองส่วนหลัก ๆ สำหรับเยี่ยมชม คือ State Apartment และ Queen Mary's Dolls' House อาจจะมีการจัดนิทรรศการให้เยี่ยมชมบ้างตามโอกาส ส่วนนอกปราสาทจะมีจุดชมวิวอยู่หลายจุดและยังมีโบสถ์ที่ชื่อว่า St George's Chapel
และนั่นคือข้อมูลอย่างย่อ (ย่อมากกกก) ของปราสาทวินด์เซอร์ ใครสนใจรายละเอียด หาอ่านเพิ่มเติมได้จาก The official website of the British Monarchy
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เริ่มต้นจากที่เคมบริดจ์ นั่งรถไฟไปลอนดอนและเปลี่ยนขึ้นรถไฟอีกขบวนเพื่อไปปราสาท ใช้เวลาบนรถไฟก็ราว ๆ สามชั่วโมงค่ะ โชคดีว่าออกจากบ้านแต่เช้า ไปถึงวินด์เซอร์สาย ๆ คนยังไม่เยอะ มากไม่ต้องต่อคิวยาว ค่าเข้าชมสำหรับนักเรียนตกอยู่ที่ 12.70 ปอนด์ (ประมาณเก้าร้อยบาทค่ะ)
อย่างที่เคยบอกไว้ว่าเที่ยวในอังกฤษต้องวัดดวงกับอากาศค่ะ วันนั้นโชคดีที่อากาศดีมีแดดออก จึงเก็บภาพมาฝาก มาดูกันเลยค่ะ
รูปแรกนี้ถ่ายตอนเดินจากสถานีรถไฟเพื่อไปปราสาท พอลงรถไฟแล้วไม่ต้องดูแผนที่เลยค่ะ เพราะปราสาทใหญ่มาก เห็นมาแต่ไกล เดินไปตามทางที่เห็นปราสาทก็ใช้ได้แล้ว และเทคนิคอีกอย่างสำหรับการเที่ยวในอังกฤษก็คือ เมื่อลงรถไฟแล้วให้เดินตามฝูงชนค่ะ เพราะคนส่วนใหญ่จะเดินมุ่งหน้าเข้าเมืองและส่วนใหญ่อีกเช่นกันที่ตัวเมืองและสถานที่เที่ยวสำคัญจะอยู่ด้วยกันค่ะ
รูปถัดมาเป็นทางเข้าปราสาท อาจดูไม่เหมือนทางเข้านัก แต่ถ้าไม่มาถนนเส้นนี้ อดเข้าแน่ ๆ ค่ะ
พอซื้อตั๋วเข้าไปข้างในแล้วก็จะได้เจอกับเจ้าจุดเด่นของปราสาทนี้ ซึ่งก็คืออาคารที่เป็นลักษณะกลม ๆ มีธงอยู่บนยอดนั่นล่ะค่ะ เพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันบอกว่าถ้ามีการยกธงขึ้นหมายถึงพระราชินีประทับอยู่ที่ปราสาทแห่งนี้ค่ะ (อันนี้ไม่แน่ใจว่าจริงรึเปล่านะคะ)
รูปที่เหลือเป็นรูปบรรยากาศภายนอกโดยทั่ว ๆ ไปของปราสาทค่ะ เลือกมาให้ดูแค่บางส่วน เพราะถ้าลงหมดทุกรูปคาดว่าบันทึกนี้อาจยาวสักสองเมตรครึ่ง :D
เสียดายที่ไม่สามารถถ่ายรูปภายในตัวปราสาทได้ ข้างในปราสาทสวยไม่หยอกค่ะ เป็นการตกแต่งตามสไตล์ของพระราชวังในยุโรป มีรูปวาดบนเพดานจากศิลปินเอกในยุคที่ก่อสร้าง มีการจัดเรียงข้าวของเครื่องใช้ของราชวงศ์ ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องทานอาหาร ห้องสำหรับนั่งจิบชา ห้องอ่านหนังสือ เหล่านี้เป็นต้น อีกรูปคือรูปโบสถ์ที่อยู่ภายในขอบเขตของปราสาทนะคะ (St George’s Chapel) <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">นอกจากปราสาทวินด์เซอร์แล้ว ที่เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ยังมีวิทยาลัยเล็ก ๆ (แต่คนที่เข้าเรียนได้ไม่ใช่เล็ก ๆ) วิทยาลัยแห่งนี้ชื่อว่า Eton College ก่อตั้งขึ้นโดย King Henry VI และคนที่จะเข้าเรียนที่นี่ได้ส่วนมากเป็นลูกหลานผู้หลักผู้ใหญ่ หรือคนในราชวงศ์อังกฤษค่ะ ที่เรารู้จักกันดีก็คือเจ้าชายวิลเลียม (Prince William) นั่นเอง ศิษย์เก่าจากที่นี่ก็ไม่ใช่ย่อย ๆ อย่างน้อย ก็มีสองคนที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ เห็นรึยังคะว่านักเรียนที่นี่ไม่ใช่เล็ก ๆ เลย (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.etoncollege.com/)</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ก่อนกลับบ้านได้ถ่ายรูปปราสาทวินด์เซอร์จากมุมไกล ๆ มาอีกนิดหน่อยค่ะ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>
เจ้าปราสาทกลม ๆ ที่มีธงปักอยู่นี่เป็นลักษณะเด่นของปราสาทวินด์เซอร์ มองเห็นมาแต่ไกลเลยล่ะค่ะ
รูปสุดท้ายแล้ว รูปนี้มีดาราประกอบอยู่ด้วย ฮ่า ๆ ๆ แต่ชอบรูปนี้เป็นการส่วนตัว เพราะดูตัวเองแล้วเหมือนคนหลงทาง วางเป้ลงเอาหลังพิงกำแพงเหมือนไม่รู้ว่าจะไปทางไหนต่อยังไงยังงั้น ได้อารมณ์ของการไปเที่ยวค่ะ ฮ่าๆๆๆ <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> ขอบคุณที่ดูมาจนถึงรูปนี้นะคะ เพราะเรื่องค่อนข้างยาว (อีกแล้ว) รู้สึกเขียนสั้น ๆ ไม่ค่อยได้ พอลงมือเขียนแล้วมักจะติดลมค่ะ :D <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>
สวัสดีค่ะคุณหมอ ณิชนันทน์
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆค่ะ
สวัสดีค่ะครูอ้อย
ณิช
ขอบคุณค่ะที่มีภาพให้ครูอ้อยได้จินตนาการ
เรียนท่าน ณิช
ขอบพระคุณครับ ประหยัดไปหลายตังค์ ไปเยี่ยม ตามBlogท่านแหล่ว
สวัสดีครับคุณน้องณิช
ผมว่าผมต้องเปลี่ยนสรรพนามการเรียกชื่อแล้วล่ะครับ (ดูหลายๆท่านที่เข้ามาทักทายสิครับ) ดูอลังการมากแล้วคนตัวเล็กๆอย่างผม ยังจะเรียกน้องอีกนี่มันดูจะไม่สุภาพนะเนี่ย :P
มาดูรูปครับ ชอบมากเลยครับ อีกอย่างชอบตรงที่คุณน้องณิชบอกว่าไปเที่ยวในอังกฤษต้องวัดดวงกับอากาศ ก็จริงนะครับประเทศอะไรก็ไม่รู้ ตะวันชอบงอน ไม่ค่อยออกมาให้เห็นหน้าเท่าไร
จริงๆแล้วที่ธงกับพระราชินีเป็นของคู่กันนะครับ ไปอยู่ไหน ธงก็ขึ้น ถ้าอยู่บักกิ้งแฮม ธงก็ขึ้นที่นั้น ผมไม่แน่ใจว่า เมืองไทยจะเหมือนกันหรือเปล่า
อีกนิดครับ ที่อเมริกาก็มีเหมือนกันที่ประธานาธิบดีอยู่ที่ทำเนียบข่าวแล้วธงขึ้น แต่ที่นี่ยังมีเพิ่มอีกครับ ที่รัฐสภาหรือ state capital ถ้าประชุมอยู่ก็จะธงขึ้น ถ้าธงขึ้นด้านสส ก็แสดงว่า สส ประชุมอยู่ ถ้าสงขึ้นด้าน สว ก็แสดงว่า สว ประชุมอยู่ (ดีนะครับ คนจะได้รู้ว่า อู้กันหรือเปล่า) :D
ขอบคุณครับสำหรับภาพ ว่างๆไปเที่ยวบ่อยๆนะครับ จะได้รอดู :D
ต้น
สวัสดีอีกครั้งค่ะครูอ้อย
ขอบคุณที่แวะมาชมและร่วมจินตนาการไปกับรูปนะคะ เสียดายมาก ๆ ที่ถ่ายรูปข้างในปราสาทมาไม่ได้ สวยมาก ๆ เลยค่ะ
ณิช
สวัสดีค่ะท่านทูต พลเดช วรฉัตร
เสน่ห์อย่างหนึ่งของภาพถ่ายคือการที่ทำให้เราได้นึกย้อนถึงความหลังนี่ล่ะค่ะ เหมือนเป็นการเรียกความรู้สึกในช่วงนั้น ๆ กลับมาอีกครั้ง ทำให้เรานั่งอมยิ้มอยู่คนเดียวเป็นประจำเลยค่ะ
ณิช
สวัสดีค่ะอาจารย์ มัทนา
เห็นด้วยค่ะดูขลังจริง ๆ ที่เที่ยวส่วนใหญ่ในอังกฤษจะเป็นสไตล์แบบนี้ล่ะค่ะ ปราสาท พระราชวัง โบสถ์ แข่งกันขลัง :D
ณิช
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ JJ
ไปเที่ยวจากบล็อกนี่ประหยัดกว่าไปเที่ยวเองจริง ๆ ด้วยค่ะ อาจจะมีสโลแกนใหม่ได้ว่า "เพียงแค่คลิก ก็เที่ยวไปทั่วโลกได้" ขอบคุณที่แวะมาอีกครั้งนะคะ
ณิช
สวัสดีค่ะพี่ต้น ไปอ่านหนังสือ
ใช่แล้ว ประเทศอะไรกันเนี่ย อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย บ่อยมาก ถึงบ่อยที่สุด อย่าถึงกับให้มีแดดเลยค่ะ แค่วันไหนไปเที่ยวแล้วฝนไม่ตก ก็ดีใจแทบแย่แล้ววววว
ขอบคุณสำหรับเกร็ดความรู้เรื่องธงนะคะ ไม่แน่ใจว่าตอนที่ไปบักกิ้งแฮมมีธงขึ้นรึเปล่า มัวแต่ตื่นตาตื่นใจกับการเปลี่ยนการ์ดอยู่ค่ะ ไปได้เวลาเหมาะมาก คนตรึม
ส่วนที่อเมริกา อาจจะเป็นเพราะเค้าไม่มีระบบกษัตริย์ จึงเอาธงมาใช้กับทำเนียบขาวและรัฐสภาแทน (อันนี้เดาเอานะคะ) ว่าแต่เวลามีการ walk out กันนี้ทำไงค่ะ ต้องรีบเอาธงลงเลยใช่เปล่า ฮ่าๆ
ขอบคุณที่แวะมาค่ะ อยากไปเที่ยวหลาย ๆ ที่เหมือนกัน แต่ปัจจัยจำกัดทั้งเวลาและเงิน เศร้าเลยยยยยย ว่าแต่อย่าเปลี่ยนสรรพนามเรียกชื่อณิชเลยนะคะพี่ ถูกเรียกเป็นอาจารย์ทีไร เขิ๊นเขินค่ะ :D
ณิช
ต้องเรียกอาจารย์ณิชด้วยรึป่าวเนี่ย......
หวัดดีหนูเรย์
อยากมาแล้วเมื่อไหร่จะมาสักทีล่ะเนี่ย จะได้พาไปเที่ยวววววว
โปรแกรมเที่ยวครั้งหน้าคงอีกสักพักเลยแหละ เพราะช่วงนี้งานเยอะอีกแล้ว แต่รูปไปเที่ยวยังมีอีกตรึม ไว้เอาลงมาเล่าเรื่อย ๆ ละกันเด้อ อ้อ แล้วรูปล่าสุดไปพายเรื่อที่เมลล์ไปให้ ได้รับมั้ยเพื่อน
ณิช
หนูเรย์
สวัสดีค่ะคุณบุหงา
ขอบคุณมากค่ะ วันนั้นโชคดที่ีอากาศดี เลยได้ภาพสวย ๆ มาฝาก นี่ถ้าฝนตกล่ะก็แย่เลย *_*
ณิช