บ้านนอกเข้ากรุง : รถไฟ


เหตุผลที่เลือกใช้รถไฟในการเดินทางเพราะเชื่อว่าปลอดภัยกว่าการเดินทางด้วยรถทัวร์

ผู้เขียนมีโอกาสไปกรุงเทพฯ อีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ไม่ได้ไปกรุงเทพฯ มาประมาณ 5 ปี และพาหนะในการเดินทางก็เหมือนเดิมนั่นคือ รถไฟ เหตุผลที่เลือกใช้รถไฟในการเดินทางเพราะ เชื่อว่าปลอดภัยกว่าการเดินทางด้วยรถทัวร์ ไม่สามารถเบิกค่าเครื่องบินได้ และผู้เขียนชอบรถไฟอยู่แล้วเป็นทุนเดิม

เนื่องจากเอกสารอนุมัติให้เดินทางจากผู้บังคับบัญชา มาถึงผู้เขียนในวันศุกร์ตอนบ่ายแก่ๆ แล้วผู้เขียนจึงต้องไปซื้อตั๋วในวันเสาร์ตอนเช้า โชคดีที่ยังมีที่นั่งเหลืออยู่ ผู้เขียนจึงได้มีโอกาสเดินทางเข้ากรุง

เลขที่นั่งที่ได้คือหมายเลยสุดท้ายของตู้สุดท้าย รถมาถึงสถานีช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย พอรถออกได้สักพัก พนักงานบริการประจำตู้ก็นำของว่างมาเสริฟ ผู้เขียนจึงเห็นว่าที่นั่งที่ผู้เขียนนั่งนั้นไม่มีโต๊ะพับสำหรับวางอาหารและแก้วน้ำ และที่นั่งที่มีหมายเลยติดกันก็ไม่มีโต๊ะเช่นกัน ดังนั้นทั้งสองคนที่นั่งตรงนี้จึงต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการรับประทานของว่างและอาหาร แถมขอบหน้าต่างก็เอียงไม่สามารถวางแก้วน้ำหรือขวดน้ำได้การรับประทานของว่าง หรืออาหารแต่ละครั้งจึงทุลักทุเลไม่น้อย

พอได้เวลานอนผู้เขียนจึงพบอีกว่า เก้าอี้ที่นั่งอยู่นั้นไม่สามารถปรับเอนได้แม้แต่น้อย แถมยังมีกลิ่นรบกวนจากผ้าม่าน ซึ่งไม่แน่ใจว่าซักครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่

และแล้วก็มาถึงหัวลำโพงในเวลาเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ในฐานะแฟนรถไฟ ผู้เขียนจึงไม่พลาดที่จะแวะดูร่องรอยของอุบัติเหตุ โบกี้โดยสารไหลมาชนแป้นปะทะ ก่อนหน้าที่ผู้เขียนจะมาไม่กี่วัน ก็ยังคงเห็นมีร่องรอยหลงเหลืออยู่เล็กน้อย

จากนั้นก็ได้ไปใช้บริการห้องน้ำ ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาเช้ามืด แต่ผู้คนที่หัวลำโพงก็มีไม่น้อย ทำให้จำนวนห้องน้ำไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้มาใช้บริการ ต้องยืนรออยู่พักใหญ่ๆ

เกิดนึกน้อยใจขึ้นมากระทันหัน รถไฟอยู่คู่คนไทยมามากกว่า 100 ปีแล้ว ห้องน้ำก็ยังมีอยู่เท่าเดิม ในขณะที่สุวรรณภูมิเพิ่งเปิดใช้ได้ไม่กี่วัน ก็ได้รับการอนุมัติให้สร้างห้องน้ำเพิ่มตั้งมากมาย

to be continued 

หมายเลขบันทึก: 89803เขียนเมื่อ 11 เมษายน 2007 20:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

แวะมาทักทายค่ะ

ไม่ค่อยได้นั่งรถไฟ  อ่านบันทึกแล้วมองเห็นคุณภาพการบริการของการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ชัดเจน

มาเยี่ยม...

อ่านแล้วทำให้ผมนึกถึงสมัยที่ผมเคยนั่งรถไฟในอินเดีย...ที่มีคนแน่นเต็มโบกี้เลยครับ...

สวัสดีครับคุณMr. Paemit Bunnjaweht (ไม่มีนามแฝง)

  • ขอบคุณมากนะครับที่ยังอุดหนุนบริการรถไฟอยู่
  • ต้องขออภัยด้วยหากด้านบริการไม่ดี  แต่ต้องขอความเห็นใจรถไฟหน่อยนะครับ ระยะเวลาแค่10 ปีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัวแต่ค่าตั๋วโดยสารไม่ได้ขึ้นเลยครับ
  • ขอบพระคุณอาจารย์วิไลที่แวะมาเยี่ยมครับ

รถไฟเป็นฯสมบัติของชาติที่รัชกาลที่ 5 ท่านทรงพระราชทานมาให้ปวงชนชาวไทย ก็อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ช่วยกันดูแลรักษาและพัฒนาให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปครับ ไม่ใช่ว่าเดิมเป็นอย่างไร ต่อไปก็เป็นอย่างนั้น หวังว่ารัฐบาลนี้และรัฐบาลต่อๆ ไปคงจะหันมาเอาใจใส่รถไฟให้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา

  • ขอบพระคุณอาจารย์อุทัยครับที่แวะมาทักทาย

รถไฟอินเดียที่อาจารย์เคยนั่ง เขาใช้รถจักรไอน้ำหรือเปล่าครับ ผมดูสารคดี National Geographic เรื่องรถไฟไอน้ำในอินเดียแล้วเสียดาย น่าจะมีการอนุรักษ์ไว้บ้าง

ทั้งรถไฟไทยและรถไฟอินเดีย น่าจะเป็นรางคู่(ขาขึ้นและขาล่องสวนกันได้) ตั้งนานแล้ว เมื่อเช้ามีข่าวรถไฟตกรางแถวๆ ประจวบฯ เวลาประมาณตีสอง ถ้ามีรางคู่ก็จะไม่เสียเวลามาก จากข่าวบอกว่า รถจะวิ่งได้เวลาประมาณบ่ายโมง

  • ขอบพระคุณอาจารย์สมนึกครับ ผมจะยังคงนั่งรถไฟต่อไปตราบเท่าที่ยังมีให้นั่งครับ

ผมชอบรถนั่งพัดลมครับ แต่ตัวรถโทรมมาก หลังๆ รู้สึกว่าจะยกเลิกไปแล้วมั๊งครับ ไม่รู้ว่ายังมีในขบวนไหนบ้าง

อย่างไรแล้วก็ขอฝาก ครฟ ช่วยๆ กันดูแลรถไฟที่ผมรัก ให้ยังคงอยู่ต่อไป อย่าได้ตาม รสพ ไปเลย ช่วยกันคนละไม้คนละมือครับ คิดว่ารถไฟเป็นของเราทุกคน  

 

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท