2 วิธีป้องกันนิ่วในไต


อาจารย์จอห์น คาวานาฟ แห่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเซาธ์แมนเชสเตอร์กล่าวว่า แต่ละปี... ผู้ชายมีโอกาสเกิดนิ่วในไตร้อยละ 8 ผู้หญิงโชคดีหน่อย เพราะมีโอกาสเกิดนิ่วในไตร้อยละ 4

Hiker

วารสารสรรสาระ (Reader’s Digest) ฉบับเดือนพฤษจิกายน 2549 มีคำแนะนำในการป้องกันโรคนิ่ว ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

อาจารย์จอห์น คาวานาฟ แห่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเซาธ์แมนเชสเตอร์กล่าวว่า แต่ละปี... ผู้ชายมีโอกาสเกิดนิ่วในไตร้อยละ 8 ผู้หญิงโชคดีหน่อย เพราะมีโอกาสเกิดนิ่วในไตร้อยละ 4

กล่าวกันว่า นิ่วเป็นโรค "ของผู้ชาย" มากกว่าเป็นโรค "ของผู้หญิง" นั่นคือ ผู้ชายเป็นนิ่วมากกว่าผู้หญิง

ข่าวดีคือ นิ่วส่วนหนึ่งหลุดออกมาได้... ถ้าดื่มน้ำพอทุกวัน

ภาวะขาดน้ำเป็นสาเหตุหลักของนิ่วในไต นอกจากนั้นสารประจุลบบางชนิดในพืชผักมีส่วนทำให้นิ่วตกตะกอนได้ง่ายขึ้น

วิธีป้องกันนิ่วในไตง่ายๆ 2 วิธีได้แก่

  1. ดื่มน้ำให้พอทุกวัน... ตื่นนอนขึ้นมา ให้บ้วนปากก่อน แล้วดื่มน้ำตามทันที วิธีสังเกตง่ายๆ ว่า เราดื่มน้ำพอทั้งวันคือ ให้ดื่มน้ำก่อนหิวเสมอ และให้ดื่มน้ำมากจนปัสสาวะมีสีเหลืองจาง หรือมองไม่เห็นสี
  2. พืชผักบางอย่าง... "น้อยไว้ละดี" โดยเฉพาะผักโขม (เข้าใจว่า น่าจะหมายถึงปวยเล้ง หรือ spinach) ถั่วลิสง และชอกโกแลต

 

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดี ไม่มีนิ่ว และไม่ต้องพบเห็นคนหน้าหนิ้วคิ้วขมวดมาทำให้เสียอารมณ์ครับ...

    แหล่งที่มา:    

  • ขอขอบพระคุณ > อย่าเสี่ยงกับโรคนิ่ว. สรรสาระ Reader’s Digest ฉบับภาษาไทย. ปี 6. ฉบับ 11. พฤษจิกายน 2549. หน้า 163.
  • ขอขอบพระคุณ > อาจารย์สุภา เกียรติก้องแก้ว นักโภชนาการ ศูนย์มะเร็งลำปาง > เอื้อเฟื้อตารางเกณฑ์โรคอ้วน-น้ำหนักเกินในคนไทย.
  • ขอขอบพระคุณ > โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี + อาจารย์เทวินทร์ IT + พต.ศรัณย์ มกรพฤฒิพงษ์ โร > สนับสนุนทางเทคนิค + อินเตอร์เน็ต.
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์. จัดทำ > ๒ เมษายน ๒๕๕๐.
  • เชิญอ่านบ้านสาระที่นี่... > [ Click - Click ]
หมายเลขบันทึก: 89318เขียนเมื่อ 9 เมษายน 2007 17:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
แวะมาอ่านครับ ท่านอ.หมอ ผมคงต้องดื่มน้ำมากๆแล้วครับ ทุกวันนี้ดื่มไม่ถึง 8 แก้ว ต่อวัน

ขอขอบคุณ... คุณ Nes~Za และท่านผู้อ่านทุกท่าน

  • ขอแสดงความยินดีที่ตั้งใจจะดื่มน้ำ...
  • ทางเลือกมีมากมาย เช่น น้ำเปล่า น้ำชา น้ำผักผลไม้ (ถ้ามากเกินจะเสี่ยงต่อการได้รับน้ำตาลเพิ่ม) ฯลฯ...
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท