จากการเกิดพายุสีม่วงที่ดงหลวงไปแล้วนั้น ในช่วงเดียวกันยังเกิดน้ำท่วมในฤดูแล้งขึ้นอีกดงหลวงเช่นกัน ดูที่ เรื่องเล่าจากดงหลวง 64 พายุสีม่วงหมุนที่ดงหลวง
กรณีผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยดงหลวงได้รับการพิจารณาชดเชยข้อตกลงที่ทำกับรัฐบาลว่าจะจัดสรรที่ดินให้แต่ไม่สามารถจัดให้ได้ การเจรจาสรุปลงที่มอบเงินชดเชยให้ทุกครอบครัวที่มีชื่อลงนามเป็นผู้เดือดร้อนในสมัยที่ออกมาจากป่าใหม่ๆ
เป็นที่รู้กันว่าการลงชื่อครั้งนั้นไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นจริงขึ้นมาได้ และพี่น้องไทโซ่ทั้งอำเภอ ซึ่งมี 4 ตำบลนั้นไม่ได้มีเอกภาพทั้งหมด บางกลุ่มก็เคลื่อนไหวอีกรูปแบบหนึ่งเพื่อเรียกร้องสิทธิต่างๆตามความเห็นในสมัยเมื่อ 20 กว่าปีมานั้น การแบ่งแยกออกเป็นกลุ่มดังกล่าว จึงมีผลในปัจจุบันมากทีเดียวกล่าวคือ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะได้รับการตอบสนองความต้องการมาในรูปเงินชดเชย และการลงชื่อเป็นผู้เดือดร้อนในสมัยนั้นก็ไม่ทั่วถ้วน มีคนจำนวนมากที่ไม่ได้ลงรายชื่อ ชาวบ้านบอกว่า ก็เพราะ มีหลายเหตุผล เช่น มีที่ดินแล้วก็ไม่ต้องไปร้องเรียนเอาที่ดินเพิ่มอีก บ้างก็คิดว่าเรียกร้องไปก็ไม่น่าที่จะสำเร็จ และไม่สนใจจะตั้งหน้าตั้งตาเริ่มชีวิตใหม่อย่างอิสระเสียที
เมื่อรัฐบาลชุดนี้อนุมัติเงินก้อนใหญ่จัดสรรมาชดเชยให้ทุกคนที่มีรายชื่อในการร้องเรียนเมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมานั้น ความลักลั่น ก็เกิดขึ้นทันที คือ
ข้อเท็จจริงนี้อยู่ในสำนึกของสหายไทโซ่เขตตำบลดงหลวงทั้งหมดที่ได้รับเงินชดเชย ผู้บันทึกทราบมาก่อนแล้วว่าที่ตำบลกกตูมมีปัญหานี้ขึ้นมาเช่นกัน และหาทางออกไม่ได้ ร่ำๆจะเดินขบวนไปเรียกร้องเพิ่มเติม โดยเฉพาะผู้นำหมู่บ้านที่สนิทสนมกับท่าน “บิ๊กแอ๊ด” แต่ลูกบ้านหลายคนไม่ได้ ซึ่งต่างก็ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันมา เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายร่วมกันมา มาบัดนี้จะแตกแยกกันเพราะเงินจำนวนนี้เสียแล้วหรือ???
ที่ตำบลดงหลวง ปัญหาเช่นเดียวกันถูกขจัดหายไปหมดสิ้น โดยสหายทั้งหมดที่ได้รับเงินชดเชยต่างนำมาเฉลี่ยให้กับ ผู้ที่ไม่มีชื่อ ผู้ที่เคยเป็นครอบครัวส่งเสบียงอาหารให้สมัยออกป่ากัน เฉลี่ยให้กับอดีตผู้นำทหารป่า ยามแก่เฒ่าในวันนี้
นี่คือน้ำที่ท่วมดงหลวงในฤดูแล้งปีนี้ นี่คือน้ำใจของสหายร่วมรบที่หลั่งไหลลงรดแผ่นดินแม่จนท่วมพื้นที่ตำบลดงหลวงแห่งนี้ ให้พี่น้องได้อิ่มเอิบกับน้ำใจที่ไหลเข้าหากัน สะท้อนถึงความจริงใจ เสมอต้นเสมอปลาย แม้เวลาผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว สำนึกต่อกันไม่เหือดหาย
นี่คือความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากกว่าคำพูดที่จะอธิบายออกมา และนี่คือแรงเกาะเกี่ยวทางสังคมที่เป็นทุนที่สำคัญยิ่ง ใครจะทุ่มเทเงินทองมาเป็นแสนเป็นล้าน หรือหลายๆล้านก็ไม่อาจสร้างมันขึ้นมาได้ ช่างตรงข้ามกับไทโซ่ที่ตำบลพังแดงเสียจริงๆ
“ ไทยโซ่เหมือนกัน แต่ ต่างกัน “
สวัสดีค่ะพี่บางทราย
เบิร์ดมายิ้ม...มปากถึงหูให้ค่ะ..เพราะนี่แหละค่ะที่เบิร์ดถามเมื่อบันทึกที่แล้วว่าพายุเงิน..มีข้อดีอะไรบ้างหนอ ?...พี่บางทรายน่ารักและเก่งมากเลยค่ะที่เห็นข้อดีของพายุเงินนี้..น้ำ(ใจ )ท่วมดงหลวงในหน้าแล้งในขณะที่น้ำต่างๆแห้งขอดนี่..อิ่มใจจัง
ว่าแต่มีคนเย้าพี่บางทรายอยู่ในบันทึกเบิร์ดแน่ะค่ะ ^ ^
คุณบางทรายไปเยี่ยมเราที่บล็อกRiverLife เลยตามมาเยี่ยมทำความรู้จักกันที่นี่บ้าง ชื่นชมในความมุ่งมั่นทำงานกับชุมชนมายาวนาน จบม.ช.รหัสอะไรคะ ตัวเอง 18ค่ะ
การทำงานกับชุมชนนี่ต้องทำด้วยใจที่ละเอียดปราณีต แต่แข็งแกร่งจึงจะไปสู่เป้าหมายได้
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ผ่านอยุธยาเมื่อไหร่ขอเชิญแวะได้ทุกเมื่อนะคะ