ศาสตร์ลี้ลับด้านความขลัง (สำนักเขาอ้อ)


อำนาจเหนือธรรมชาติ

     สัวสดีครับ นี่เป็นการเขียนบทความครั้งแรกของผม กำลังศึกษาถึงวิธีการและรูปแบบในการนำเสนอ อาจมีผิดพลาดไม่ตรงกับวัตถุประสงค์หรือเจตนาของเจ้าของเว็บในส่วนไหน กรุณาท่านที่มีความรู้ช่วยแนะนำหรือให้ความกระจ่าง เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้องด้วยครับ ขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ครับ

     หากกล่าวถึงศาสตร์ลี้ลับด้านความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ การมีอำนาจเหนือธรรมชาติ ไม่อาจลืมที่จะนึกถึงเวทย์มนต์คาถา และพิธีกรรมต่างๆ ที่ใช้ในการสร้างวัตถุสิ่งของที่บางครั้งอาจไม่มีค่าใดๆเลย ให้กับกลายมามีค่าสูงขึ้น ซึ่งบางครั้งถึงขนาดที่ต้องยอมเสียเงินเสียทองในการได้มาครอบครองเอาไว้กับตัวเอง มันช่างเป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับผู้ที่มีความเชื่อ ด้วยเหตุที่ผมเองเป็นคนพัทลุงโดยกำเนิด และก่อนหน้านี้ประมาณครึ่งปีผมเกิดความสนใจในด้านวัตถุมงคล ผมไม่เคยรู้เลยว่าที่บ้านของผมพอจะมีพระเครื่องอยู่จำนวนหนึ่ง นั่นคือจุดเริ่มต้นของผมครับที่ทำให้อยากศึกษาถึงเรื่องราวและที่มาของสิ่งเหล่านั้น ประกอบกับปัจจุบันผมได้มีโอกาสพบกับเด็กหนุ่มรุ่นเดียวกัน ซึ่งเขามีความสนใจในสิ่งนี้เช่นกัน แต่เขาได้ศึกษามาเป็นเวลาหลายปี ถือได้ว่าประสบการณ์และความรู้อยู่ในระดับที่ให้คำปรึกษากับผมได้อย่างดีทีเดียว

     ก่อนนี้ผมไม่เคยรู้เลยว่าสำนักเขาอ้อคืออะไร ได้ยินผ่านหูก็เฉยๆ ไม่สนใจอะไร แต่พอผมเริ่มศึกษาในสิ่งที่อยากรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล ทำให้ผมมองสิ่งใกล้ตัวก่อนที่จะมองที่อื่น นี่แหละครับทำให้ผมได้มีโอกาสศึกษาถึงตำนานอันลี้ลับและมีความโด่งดังที่สุดทางด้านไสยเวทย์แห่งประเทศสยาม ถ้าจะกล่าวถึงสำนักเขาอ้อ ในครั้งนี้คงบอกกล่าวได้ไม่มากนะครับ ผมขอเกริ่นเพียงเลาๆเอาไว้ก่อนนะครับ เนื่องจากเอกสารการอ้างอิงผมจำไม่ได้เพราะเก็บไว้ที่บ้าน สำนักเขาอ้อเป็นสำนักที่โด่งดังอยู่ 2 ด้าน ครับ นั่นคือ

     1.ทางด้านไสยเวทย์ที่มีความเข้มขลังในด้านความอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม 2.ทางด้านการรักษาโรค สำนักเขาอ้อตั้งอยู่ที่ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้ก่อกำเนิดขึ้นเมื่อราว พ.ศ.300 โดยพรามณ์กลุ่มหนึ่ง ได้มาอาศัยอยู่ในถ้ำ เข้ามาเพื่อต้องการเผยแพร่ศาสนา และได้นำศาสตร์ความรู้ทั้ง

     2 ด้านที่กล่าวมาใช้ในการดำเนินชีวิตด้วย แต่เหตุการณ์ไม่เป็นไปดั่งที่คิด ประชาชนในละแวกนั้นยังคงมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า และกลุ่มพรามณ์เริ่มมีอายุมากขึ้น จึงทำให้ลงความเห็นกันว่าน่าจะถ่ายทอดวิชาความรู้ทั้งหมดให้กับใครไว้ เพื่ออย่างน้อยวิชาที่นำติดตัวมาจะไม่สูญหาย จึงตัดสินใจนิมนต์พระเข้ามาอยู่ที่สำนักเขาอ้อเพื่อถ่ายทอดวิชาทั้งหมดให้ จนในที่สุดวิชาดังกล่าวได้สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

     หมายเหตุ สาเหตุที่ทำให้ผมสนใจและศึกษาเรื่องราวของสำนักเขาอ้อเป็นพิเศษมีอีก 2 สาเหตุ คือ

     1.วันหนึ่งผมบังเอิญเดินไปพบหนังสือฉบับหนึ่งจั่วหัวฉบับว่า ขุนพันธรักษ์ราชเดช เลยเปิดอ่านดู จับประเด็นสำคัญได้ว่าท่านเป็นศิษย์คนสำคัญของเขาอ้อ

     2.ผมมาทราบทีหลังว่าตาของผมเองก็เป็นศิษย์สำนักเขาอ้อ แม่เคยเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆว่า คุณตาชอบไปแช่ว่านยาที่เขาอ้อ ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่เข้าใจเพราะยังเล็กมากครับ

    นี่แหละครับทำให้ยิ่งเกิดความสนใจที่จะศึกษามากยิ่งขึ้น ส่วนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวของเขาอ้อ ผมมีโอกาสได้ซื้อเก็บไว้หลายเล่ม แต่เป็นสิ่งที่แปลกมากครับ หนังสือที่ผมได้มาเกือบทุกเล่ม ได้มาจากการวางขายเลหลัง (ลดราคาครับพี่น้อง) นั่นคงบ่งบอกถึงอะไรได้หลายๆอย่างครับ อาจเพราะคนไม่สนใจทำให้หนังสือขายไม่ได้ หรือคนไม่รู้ที่ถึงความสำคัญก็อาจเป็นได้ แล้วแต่จะพิจารณาครับ การเขียนครั้งนี้ผมต้องขออภัยที่ไม่มีเอกสารมาอ้างอิง ไว้คราวต่อไปไม่พลาดแน่ครับ แล้วจะนำรายละเอียดมาฝากเป็นตอนๆครับ อาจมีการวิเคราะห์ถึงความสัมพันธ์ระหว่างสำนักเขาอ้อและหลวงพ่อทวดที่ประชาชนนับถือกันทั้งประเทศด้วยครับ

ด้วยความเคารพ

 แสงตะวัน

หมายเลขบันทึก: 89015เขียนเมื่อ 7 เมษายน 2007 17:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 20:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขอต้อนรับสู่โลก GotoKnow ค่ะคุณแสงตะวัน เขียนได้เก่งและเป็นกันเองดีมากเลยค่ะ

ขออนุญาตแนะนำว่าตรงส่วนที่เป็น"เกี่ยวกับบล็อก"ที่ด้านข้างนี้ ควรแก้ไขผ่านทางเมนู"แก้ไขบล็อก"ใน"แผงควบคุม" แล้วตัดให้เหลือแค่บอกว่า บล็อกนี้คุณแสงตะวันจะเขียนบันทึกเรื่องเกี่ยวกับอะไรน่ะค่ะ รายละเอียดต่างๆนำมาเป็นบันทึกแต่ละบันทึก เช่นเดียวกับในบันทึกนี้ ยอดเยี่ยมแล้วค่ะ ถ้ามีเวลาจะแวะมาให้กำลังใจกันอีกค่ะ ชอบสำนวนนะคะ

     อ่านแล้วชอบมาก คุณแสงตะวัน (นามแฝง) เขียนได้ดีมาก

อยากอ่านต่อหาเวลามาเขียนให้อ่านใหม่น่ะครับ ชวนติดตามดี

แล้วจะมาอ่านอีก

สวัสดีครับ คูณ ยุทธศักดิ์  (เขียนชื่อผิดขออภัยนะครับ)

     ยินดีที่ได้รู้จักครับ ขอบคุณสำหรับคำชม ขอเป็นกำลังใจให้คุณด้วยนะครับ  แล้วจะเขียนตอนต่อไปเรื่อยๆครับ แต่ช่วงนี้ขอตัวทำงานวิจัยให้เสร็จก่อนนะครับ

                                       แสงตะวัน 

สวัสดีครับ

         ผมก็ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องสำนักเขาอ้อ มาบ้างเหมือนกัน  แต่ก็ยังไม่กระจางครับ  วันนี้ก็เข้ามาอ่านบทความของคุณ  ก็ได้ความรู้เกี่ยวกับประวัติขึ้นมาบ้าง

          คราวหน้าให้เอาเรื่องของสำนักนี้มาลงอีกนะครับ  แล้วผมจะมาติดตามอ่านครับผม

สวัสดีครับ คุณวาทิน

     ยินดีที่ได้รู้จักครับ  ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน จริงๆแล้วรายละเอียดที่เขียนไว้มันนิดเดียวครับ ผมจะพยายามรีบเขียนมาให้อ่านนะครับ

                                 แสงตะวัน

 

ขอสอบถามค่ะ การที่คาถาบอกว่าสวด 108 คาบ (หายใจเข้าออก 1 ครั้ง คือ 1 คาบใช่ไหมคะ) ช่วยอธิบายให้ด้วยนะคะถ้าท่านมีความรู้ด้านนี้ ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท