คิดว่าจะเดินกับไม้เท้าตลอดชีวิตซะแล้ว


เราเพิ่มน้ำหนัก เข่าก็รับน้ำหนักมากเกินไป

             ฉันเก็บไม้เท้าที่ได้รับแจกจากโรงพยาบาลไว้ด้วย......หลังผ่าตัดปลี่ยนไต ปลายปี 2546 พอ ต้นปี 47    ฉันก็ปวดเข่าทั้งสองข้างปวดมากแบบเข่าจะ

หลุดจากกันจะปวดเวลาเที่ยงไปถึงบ่าย

          แปลกมาก ความปวด...ช่างยาวนานเหลือเกิน และเป็นแบบนี้ ในเวลาเดียวกันอยู่ 4 วัน ก็ไปหาหมอ      ดู กรดยูริค...ก็ไม่มี 

         จากนั้นมาฉันก็ปวดเข่าทั้งสองข้างมาเรื่อยๆ...เดินขึ้นลงบันไดก็ปวด เจ็บ  เดินไปมาใกล้ๆก็เจ็บ.....หมอ บอกว่า....เข่าเสื่อม....

และให้พยายาม หลีกเลี่ยง อิริยาบถ ที่ทรมานเข่า ...เช่น คุกเข่า นั่งยองๆ

นอนก็ไม่ควรนอนพื้น ลุกยาก.....

        ฉันพยายามปลง อีกแหละ...เอ้า ของจะเสื่อม ก็ต้องเสื่อม ...ฉันก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับความเสื่อม และก็คิดว่า ทุกอย่างจะเสื่อมตามๆกันไปในทั้งตัวฉัน

       ฉันเพียรไปหาหมอตลอดปี 47 ....ไม่ดีขึ้นเลย จนหมอห้องกายภาพที่สุรินทร์ ท่านใจดี อยากให้ฉันดีขึ้น เลยให้  ไม้เท้า มาใช้เดินเป็นเพื่อนฉัน

       การใช้ไม้เท้า  ใหม่ๆ เราจะไม่คุ้น ....มันจะเดินยังไงหว่า จะทิ้งน้ำหนักไปทางไหน ฉันเดินตลกๆอยู่พักหนึ่ง....

จริงๆ  ก็เดินให้มันเป็นธรรมชาตินั่นแหละ ทิ้งน้ำหนักที่ปวด ไปให้ไม้เท้าอีกข้างผยุงตัวเรา  ฉันเพิ่งรู้

       บางครั้งฉันก็อายที่ต้องใช้ ไม้เท้า...มีแต่คนถาม...เป็นอะไร ...ขาหักเหรอ...ทำไมถึงเป็น....

       ฉันมาอ่านเจอในเนท...มีหมอท่านหนึ่ง ท่านเล่าประสบการณ์ใช้ไม้เท้า และข้อดีของไม้เท้าและท่านก็สะสมไม้เท้ามากมาย หลายเวอร์ชั่น ฉันอ่านไปก็เคลิ้ม คิดอยากสะสม ไม้เท้ากายสิทธิ์ ไปด้วย....

        เวลาฉันไปไหนมาไหนกับไม้เท้า คนก็จะดูแลฉันมาก ขึ้นรถโดยสาร เขาก็จะลุกให้ฉันนั่ง เวลาข้ามถนน รถก็จะชะลอ อย่างผิดสังเกต และคอยให้ฉันข้ามถนน

        ฉันเริ่มรู้สึกดีกับไม้เท้า....ไม้เท้าที่ฉันใช้ ต้องเป็นไม้เท้า นำโชค แน่เลย......แหะ แหะ....

         ฉันก็คิดว่า คงได้อยู่กับไม้เท้าไปตลอดชีวิต...ไหนๆจะอยู่ด้วยกันแล้ว ก็ต้องสร้าง ความรักด้วยกันซักหน่อยน่า....

        แต่ตอนปลายปี  ฉันไป ขอนแก่น และพบหมอท่านหนึ่ง ที่ดูเข่าให้ฉัน ท่านพูด ทางออกว่า

  ต้องทำกายภาพน่ะ...แต่ต้องทำต่อเนื่อง ถ้าไม่ต่อเนื่องมันก็ไม่ได้ผล....เหมือนเรา ตักน้ำใส่ตุ่ม    ต้องค่อยๆตักไปเรื่อยๆ....

      ฉันว่า หมอ พูดดี  ตลกดี ทำไมต้องเปรียบเทียบกับตักน้ำใส่ตุ่ม สงสัยหมอเคยตักน้ำแน่เลย ....แต่ฉันก็ฉุกคิดว่า ...ใช่เลย ที่ผ่านมา ฉันทำไม่ต่อเนื่อง ไปนวดเท้า นวดเข่า ประคบบ้าง  ฝังเข็มบ้าง  แต่ทำๆ หยุดๆ....เราต้องให้เวลากับตัวเองบ้าง   ตัดทุกอย่างให้หมด

      ฉันเริ่มเป็น คนไข้ที่ดี...ตั้งใจว่า 1 อาทิตย์ จะให้เวลาตัวเองไป รพ.สุรินทร์และทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง ฉันไปเองคนเดียว นั่งรถโดยสารบ้าง รถองค์กรบ้าง...แล้วแต่วันไหนมี ไม่มี ไม่มีอะไรเป็นอุปสรรค

เพราะฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไป เหมือนไปโรงเรียนทุกวัน....

     แล้วก็เริ่มดีขึ้นนะ ฉันเริ่มเดินไปได้ไกล นานขึ้นกับไม้เท้า แต่ไม่กล้าปล่อยไม้เท้า.....

     ช่วงกลางปี 48 ฉันไปเข้าอบรมเรื่องสุขภาพกับ รุ่นน้องที่จัดในสุรินทร์ อาหารเป็นมังสวิรัติ และสวดมนต์และทำความเข้าใจเรื่องร่างกาย

การทำงานของอวัยวะต่างๆ ที่ต้องดูแล...

      ฉันรู้สึกตัวเบาๆ สบายๆ น้ำหนักลด เข่ากลับมาดีขึ้น....ฉันเริ่ม เก็บ ไม้เท้า...กลับมามั่นใจที่จะเดินลำพังด้วยขา -เท้า ของฉันอีกครั้ง....

แต่ก็ยังปวดเข่าอยู่บ้าง ก็ต้องหลีกเลี่ยง กิจกรรมที่ทรมานเข่า....

      มันก็ หลายๆอย่างนะ ...ฉันว่า เราเพิ่มน้ำหนัก      เข่าก็รับน้ำหนักมากเกินไป ดูแลตัวเอง...ทำใจให้ปรกติ สบายๆ    มันก็ช่วยได้....

แต่ยังไง ฉันก็ขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่ดูแลฉัน...และไม้เท้า....

 

หมายเลขบันทึก: 88620เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2007 07:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ยินดีด้วยค่ะที่สามารถกลับมาเดินโดยไม่ต้องใช้ไม้เท้าได้อีก

มองอีกมุม การที่คุณดอกแก้วต้องใช้ไม้เท้าในระยะหนึ่ง มันเป็นการเปิดมุมมองอีกด้านของชีวิตให้เห็น ชีวิตโดยตัวของมันเองก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์อยู่แล้ว ได้"เห็น"หลายๆด้านของชีวิต ถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่าซึ่งหลายๆคนไม่มีนะคะ

ใจเย็นๆค่ะ จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว

ขอให้ดีขึ้นนะค่ะ อดทนเพื่อสิ่งที่ดี ๆ ต่อไป ขอให้ไปเที่ยวบ้านครูบาให้สนุกนะค่ะ เที่ยวเผื่อด้วยนะค่ะ เห็นด้วยกับคุณเอ๋ค่ะว่า  "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว "

ดีใจด้วยครับที่ไม่ต้องพึ่งพา ไม้เท้า แล้ว

สำหรับคนที่ไม่อยากให้ใครเห็นว่าใช้ไม้เท้า ผมว่าน่าจะลองใช้ไม้เท้ารูปร่ม ที่เป็น ร่มจริงๆ  ดูนะครับ

คุณดอกแก้ว เขียนบันทึกที่บ้านครูบาด้วยนะครับ อยากอ่าน 

P

เอ๋

  คะ แก้ปัญหาด้วยใจ ก่อนกาย ก็ดีนะคะ

  ขอบคุณคะ
 

 

P

Ranee

ขอบคุณคะ เรื่องสุขภาพนี่ละเลย ไม่ได้เลยนะคะ

เดี๋ยวจะอดเที่ยวกับเพื่อนสนุกๆ 

P

นาย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี

    ไม้เท้ารูปร่มหรือคะ...น่าสนใจ เวอร์ชั่นไหนคะ

....................................

     เขียนบันทึกเรื่องครูบา แล้วคะ....อยู่อีก Blog

     ขอบคุณคะ แต่เสียดาย อยู่ไม่จบงาน น่ะคะ

     ดิฉันว่าน่าต้องจัดอีก....คุณหมอมา่ร่วมด้วยนะคะ
 

  • ก็ ร่ม ไงครับ ถ้าไม่อยากถือไม้เท้า
  • อ่านแล้วครับ
  • ผมต้องจัดคิวล่วงหน้านานครับสำหรับการเดินทาง แต่อยากไปครับ
P

นาย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี

  คะ ร่ม พยุงได้เหมือนกันคะ .....

เมื่อคืนที่สุรินทร์ ฝนตกหนักคะ ดีใจ ไม่ต้องลดน้ำต้นไม้

แ ต่ น้องเณร นอนในป่า อพยพกันยกใหญ่เลยคะ

เย็นนี้ก็คงย้ายเข้าป่าเหมือนเดิม

   ช่วงนี้ เนท...เป็นอะไรไม่ทราบ เข้าระบบไม่ได้...เลยไม่ได้ลงบนทึกเลยคะ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท