ทำตัวให้เป็นคนไม่มีฉลาก(label) เป็นอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ ไม่ยึดติดกับต้องเป็นโน้น เป็นนี้ แล้วถึงจะดี จะมีค่า จะเท่
ฉลากสามารถอาจให้อำนาจในการกระทำและมันก็สามาถที่จะถ่วงเราได้เหมือนกัน (Labels can empower us to act, or they can keep us stuck)
ให้หัดเป็นคน multidisciplinary เป็นอะไร ทักษะใหนๆ ก็ได้มารวมกัน ถ้ามัน work คิดว่าเราอะไรมารวมกันก็ได้ สังเกตสังคมฝรั่ง มันเอาอะไรมารวมกันก็ได้แล้วก็เกิดสิ่งใหม่ ของใหม่ ภาษาใหม่ อาชีพใหม่ หลักสูตรใหม่
อย่าไปยึดติดกับฉลาก เราเป็นมนุษย์เหมือนกันเราทำได้ทุกอย่าง อย่าปิดตนเองด้วยฉลาก หรือพื้นฐานทางการศึกษา
( จาก Jan 31, 2004)
ขอขอบคุณอาจารย์ณรินทร์...
บางที...
เรื่องการมี label ของมนุษย์นี้ ดิฉันเรียกมันตามแบบไทยๆ ว่าหัวโขนค่ะ แต่ถ้าเป็นภาษาทางพระ เขาว่าเป็น สมมติบัญญัติ ค่ะ
คนเรามักมีอัตตา ยึดติดสิ่งที่เราบัญญัติขึ้น เช่น ดิฉันเป็นอาจารย์ ก็อาจจะยึดมั่นถือมั่นกับ label นี้ จนเป็นผู้เรียนไม่เป็นก็ได้
ต้องเจริญสติเสมอค่ะ ว่าหลายๆ อย่างในชีวิตเป็น สมมติ ไม่หลงไปกับสมมติ หรือ label ทั้งหลายค่ะ ; )
คนเรามักจะตอบคำถาม Could you please introduce yourself? ด้วย ฉลาก "อาชีพ"
ฉลากแบบนี้ คงจะจริงอย่างที่คุณ ณรินทร์ว่า ให้มันเป็นสิ่งที่เรา"ทำ" มากกว่า สิ่งที่เรา"เป็น"
อยากมาช่วยกันเตือนตัวเองบ่อยๆว่า ฉลากอีกแบบก็ควรมีอยู่ในใจในหัวเราให้บ่อยๆเวลามีคนมาถามว่า "คุณคือใคร"
ก็คือฉลากความเป็นลูก หรือเป็นพ่อแม่ เป็นพี่้เป็นน้อง และที่สำคัญคือ เป็นสมาชิกของสังคม
ขยายความหมายของ "ฉลาก" แบบนี้น่าจะพอโอเค รึเปล่าค่ะ
อาจารย์มัทนาครับ
ใช่แล้วครับ เราต้องเข้าใจเสียใหม่ว่า "job is not your identify" ครับ เราก็คือเรา งานเป็นสิ่งที่เรา ทำ"I do"ไม่ใช่สิ่งที่เรา เป็น "I'm" เรา เป็น ตัวเราเอง ถ้าเราคิดว่าเรา เป็น เราจะเสียใจมากถ้าเราไม่ เป็น ในตำแหน่งนั้นๆ หรือ เช่นนั้นแล้ว