ในโลกของการแข่งขัน การเปรียบเทียบตนเองกับบุคคลอื่น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอ ๆ ไม่เว้นแม้แต่ในการทำงาน...
เรามักจะต้องการความยุติธรรมในการทำงาน โดยการที่จะรู้ว่าตนเองได้รับความยุติธรรมหรือไม่ เราจะเปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกันหรือไกล้เคียงกัน...
ผมนึกถึงทฤษฎีแรงจูงใจทฤษฎีหนึ่งที่น่าสนใจเลยนำมาเสนอในบันทึกนี้ครับ...
ทฤษฎีความเสมอภาค "Equity Theory" ของ JS Adams (1965) เป็นทฤษฎีที่ว่าด้วยความยุติธรรมในองค์การ พนักงานมักทุ่มเทกำลังความสามารถของตนในการทำงานโดยเปรียบเทียบกับผลตอบแทนที่ตนเองได้รับจากองค์การ...
Adams ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับความพอใจของพนักงานว่า อัตราระหว่างสิ่งที่เขาได้รับจากงาน (Output) กับสิ่งที่เขาอุทิศให้กับการทำงาน (Input) มีความเหมาะสมกันหรือไม่ โดยใช้การรับรู้ของตนประเมินศักยภาพในการทำงานของตนกับค่าตอบแทนที่ได้รับจากองค์การ...
ซึ่งหากเปรียบเทียบแล้ว รู้สึกว่าตนเองได้รับความยุติธรรมก็จะเกิดความพอใจและแรงจูงใจในการทำงาน...
ดังนั้นองค์การจึงควรตระหนักและให้ความสำคัญในประเด็นนี้ เพราะมีผลกระทบโดยตรงทั้งต่อความสำเร็จขององค์การและความสุขในการทำงานของพนักงานด้วย...
สวัสดีค่ะ คุณ Direct
เห็นจริงด้วยนะคะ....ถ้าทุกองค์กรทำได้อย่างนั้น
แต่รู้สึกว่าในความเป็นจริง..ค่อนข้างทำได้ยากนะคะ..
หากเราโชคดีได้อยู่ในองค์กรที่ตระหนักในเรื่องนี้ก็ดีไป
แต่หากเราโชคร้าย..สิ่งที่เราทำไป...ทุ่มเทไปก็คิดซะว่าเราได้เสียสละ..เวลาและแรงงานไปเพื่อการพิสูจน์ตัวเอง..ผลพลอยได้ก็คือ..ความสุขของทุกคนในองค์กร อย่างน้อยก็ความสุขของคนที่ได้รับประโยชน์ของเรานั่นหล่ะ...ทำให้เขามีความสุข เราก็ควรจะมีความสุข..ทำดี คิดดี พูดดี ก็ต้องได้ดี ส่วนใครทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น..ไม่ใช่หน้าที่ของเราแล้ว..(อันนี้..ใช้ปลอบใจตนเองประจำค่ะ..จริงจังไปไหมคะเนี่ย..)
....การทุ่มเทกับการทำงานเป็นสิ่งที่ดี..แต่ต้องไม่ลืมว่า..ชีวิตยังมีเรื่องที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมาย...จริงมั๊ยคะ..
ใช่ครับ...คุณครูแอ๋ว ...
ความยุติธรรมไม่มีในโลก สิ่งที่เราทำได้ก็คิดเสียว่าทำเพื่อเสียสละ...
และที่สำคัญชีวิตคนเรามีเรื่องที่สำคัญอื่น ๆ อีกไม่เฉพาะแค่เรื่องงาน...
ขอบคุณมากครับ...
ครับ...คุณเอกชน ...
ขอบคุณมากครับ...
ขอบคุณสำหรับบทความค่ะ
ขออนุญาตนำไปเป็นส่วนหนึ่งของรายงานได้ไหมคะ
ครับ...คุณ สุลาวัลย์
ยินดีครับผม...