คำถามนี้เป็นของอาจารย์นายแพทย์สมชาย วัฒนอาภรณ์ชัย ผู้อาวุโสของภาควิชารังสีวิทยา หลังจากได้รับฟังชีวิตและประสบการณ์ใน G2K โดยตัวจริงเสียงจริง คือ อาจารย์จันทวรรณ กับ คุณโอ๋ อโณทัย เพื่อนบ้านจากภาคพยาธิวิทยา
ใช่ครับ เมื่อวานนี้ ภาควิชารังสีวิทยาได้มีโอกาสต้อนรับอาจารย์จันกับคุณโอ๋๋ มาเล่าประสบการณ์ ให้คนในภาคฯฟัง ต่อเนื่องจาก กิจกรรมนี้เมื่อสองเดิือนก่อน อาจารย์จันบอกว่าจะหนีบอาจารย์ธวัชชัยมาด้วย จึงนับว่าเป็นโชคดีของภาควิชารังสีจริงๆ ที่จะได้เห็นตัวเป็นๆของผู้ให้กำเนิด G2K ทั้งสองคน ผมเองก็ชวนอาจารย์สกล นกไฟของเรา เจ้าของรางวัลสุดคะนึงคนล่าสุด จากหน่วย palliative care ของโรงพยาบาลมาด้วย ส่วนคุณเสรีก็บอกพี่จุด จุฑารัตน์มาร่วมอีกคน กิจกรรมครั้งนี้ จึงเหมือนเป็นการพบปะสมาชิก G2K ทั้งในและนอกภาคฯแบบตัวเป็นๆ ประเภทเพิ่งเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก ผมสังเกตว่า มีการเข้าไปสัมผัสตัวกันด้วย แบบว่าอยากแตะต้องตัวจริงๆ สิ่งนี้แหละครับ ทำให้ผมแว็บความรู้สึกอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับคำถามของอาจารย์สมชายข้างบน
อาจารย์จันไม่ได้ตอบคำถามนี้ของอาจารย์สมชาย แต่พี่โอ๋และผมเป็นคนบอกความในใจ เรื่อง การเสพติด..มันเหมือนอะไรที่ต้องทำในแต่ละวัน เช้าขึ้นมาก็คิดถึง เที่ยงก็แอบดู ตกเย็นก็นั่งแช่ ก่อนนอนขอเข้าไปดูอีกทีจะได้หลับฝันดีอะไรทำนองนั้น แต่จนถึงทุกวันนี้ ผมมั่นใจว่าผมบริหารเวลาได้ดีขึ้น เวลาส่วนใหญ่ของผมใน G2K จึงเป็นเวลาที่ผมเคยนอนแช่อยู่หน้าจอทีวี ประเภทนอนอืดเป็นงูหลาม ไม่ยอมลุกไปไหน สามารถเลิกนิสัยเสียแบบนั้นได้อย่างไม่คาดฝัน
..นั่นคือเรื่องเดิมๆที่ผมคิดว่า ผมผ่านมาได้แล้ว
แต่ในระหว่างที่ผมฟังอาจารย์จันกับคุณโอ๋ผลัดกันพูดแบบ Duo ชนิดกลมกล่อมราวกาแฟกับ coffeemate ในโฆษณา ผมคิดถึงข้อจำกัดอีกข้อหนึ่งของ G2K ก่อนหน้าที่อาจารย์สมชายจะถามคำถามนั้นเป็นตอนสุดท้าย คงต้องย้ำนะครับว่าเป็นข้อจำกัด ไม่ใช่ ข้อเสีย
ผมคิดว่า G2K ขาดสัมผัส ปฏิสัมพันธ์ในลักษณะคนกับคน มันทำให้ผมคิดถึง การเรียนการสอนในคอมพิวเตอร์ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องทักษะการสื่อสำร แต่ไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนจริงๆ เป็นต้น ผมจึงเห็นคุณโอ๋ตรงรี่เข้าไปหาอาจารย์จันเพื่อแตะต้องตัวกันทันทีเมื่อพบกัน ผมเองรู้สึกว่าอาจารย์จันและอาจารย์ธวัชชัยดู..เปล่งปลั่ง กว่าที่เห็นเป็นรูปยิ้มสวย กับยืนยิ้มเผล่กอดเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ ตามลำดับ เสียงทักทายว่าผมดูหน้าอ่อนกว่าในจอ ก็สะท้อนมาอีกแล้ว (แต่ชอบนะครับ) ใช่ครับ เพราะการพบหน้ากัน..เราได้สัมผัสตัวจริงเสียงจริงของแต่ละคน คนที่มีชีวิต..ชีวา
ผมนั่งฟังอาจารย์จันกับคุณโอ๋พูดอย่างตั้งใจ สิ่งที่ผมได้รับมันมากมายมหาศาล เกิดขึ้นรวดเร็วมาก เร็วกว่าการสื่อสารใน G2K อย่างแน่นอนโดยเฉพาะผมที่นอกจากจะคิดช้าแล้วยังพิมพ์ดีดช้าอีกด้วย
ผมเคยคิดที่จะใช้ G2K เป็นส่วนหนึ่งของ CoP ในภาควิชา ผมไม่ได้เปลี่ยนใจแต่ระวังมากขึ้น
- G2K อาจเป็นส่วนเสริมสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในหน่วยงาน เพื่อพังทะลายข้อจำกัด ของเวลาที่ไม่ตรงกันได้
- G2K สามารถเปิดเครือข่ายที่อยู่ห่างไกลออกไปได้โดยง่าย นั้นคือคุณูปการที่ไม่มีทางทำได้ถ้าไม่มีเทคโนโลยีนี้
- แต่ G2K ไม่สามารถมาทดแทนการได้พบหน้า ประชุมสุมหัวกันแบบหน้าปะหน้า ตาต่อตา (แต่คงไม่ถึงฟันต่อฟันนะครับ) ของคนในหน่วยงานได้เลย
ต้องขอโทษนะอาจารย์จันกับอาจารย์ธวัชชัยนะครับ ที่ผมเคยแอบคิดมิดีมิร้ายกับอาจารย์ว่า อาจารย์สองท่านคงคุยกันผ่านคอมพิวเตอร์แหงเลย แล้วสมมุติฐานข้อนี้ของผมก็ผิดมหันต์ เมื่อรับทราบข่าวดีเรื่องนี้
อย่างที่เรียนแล้ว นี่ไม่ใช่ข้อเสียเลย เพียงแต่เป็นข้อจำกัดหนึ่งที่เราพึงคิดถึง สัมผัสของคนกับคน มีความหมายลึกซึ้งเกินกว่าสัมผัสผ่านคีย์บอร์ดแน่นอน
ครับ แลกเปลี่ยนกันใน G2K แล้ว เราน่าจะเจอะเจอหน้ากันแบบตัวเป็นๆบ้าง แบบที่ลูกๆหลานๆครูบาจะได้เจอกันที่อิสานต้นเดือนหน้านี้แหละครับ มันได้แรง..
สุดท้ายต้องขอขอบคุณอาจารย์จันทวรรณ คุณโอ๋ อาจารย์ธวัชชัย สำหรับความรู้และประสบการณ์ที่ถ่ายทอดออกมาอย่างมีชีวิตชีวา เสียดายที่เวลาเรามีจำกัดและเจ้าหน้าที่หลายคนมีภาระต้องทำงานดูแลผู้ปวยต่อ จึงอยู่ฟังไม่จบ ต้องขอบคุณพี่จุดกับอาจารย์สกลที่ครั้งนี้ไม่ได้พูดเลยสักคำ แต่แค่มาปรากฏกายให้เห็นตัวเป็นๆ ก็มีความหมายล้ำลึกเกิดบรรยายแล้วสำหรับภาควิชารังสีวิทยา หวังว่า เราน่าจะได้เจอกันทั้งในและนอก G2K บ่อยขึ้นครับ
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย นาย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี ใน Happy Work
ต้องมี G2K codefest หรือ Hackathon บ้างหรือเปล่า? จะได้เห็นตัว :-P