ความสุขที่พอเพียง..อย่างที่คุณพอใจ


ความสุขที่พอเพียง

       โลกใบนี้ ไม่เล็ก..ไม่ใหญ่ แต่มีหลายเผ่าพันธุ์ที่ร่วมชะตากรรมกันอย่างมากมาย มีน้ำที่มีสีมีความเข้มข้นรสชาดที่แตกต่างกันออกไป มีพันธุ์ไม้นานาชนิดมีสัตว์มากมายหลายสายพันธุ์ มีความแตกต่างของอากาศ รวมถึงความแตกต่างของมวลหมู่มนุษย์ของแต่ละชาติพันธ์ มีความแตกต่าง ข้าพเจ้าคงไม่ต้องสาธยายถึงสิ่งอื่น ๆ เพราะเพียงแต่มนุษย์อันได้ชื่อว่าผู้ประเสริฐ ผู้ที่มีความคิด มีเหตุผล ก็ยังเต็มไปด้วยความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเพศ วัย ความเชื่อของแต่ละบุคคลรวมถึงความสามารถความต้องการและความจำเป็นของคนแต่ละคนที่แตกต่างกัน ข้าพเจ้าพยายามถามตัวเองว่าบนโลกใบเดียวกันนี้จะมีความพอดีอยู่ตรงไหน ไม่มีคำตอบจากคำถาม ที่หากมองในส่วนจำเป็นต่อการใช้ชีวิต ข้าพเจ้าก็กลับมาคิดว่า สภาพแวดล้อม สิ่งแวดล้อมย่อมมีความจำเป็นต่อชีวิตของมนุษย์เพราะหากมองย้อนดูถึงความแตกต่างจากองค์ประกอบในทุก ๆ ด้านแล้วก็ย่อมเกิดจากสภาพแวดล้อมไม่ว่าส่วนต้ว สังคมหรือโลกก็ตามจะมีสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยหนึ่งทีอยู่ร่วมกันตลอดเวลา  ดังนั้นการออกแบบในเรื่องของสิ่งแวดล้อมเพื่อให้มนุษย์เราอยู่ร่วมกันได้มันก็มีเหตุจำกัดมากมายเช่นกันแน่นอนที่สุด แบบต่างๆ เหล่านั้นก็ไม่ใช่สิ่งสมบูรณ์ที่สุดเสมอไปแต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาที่ไม่ทางแก้เลยทีเดียวเช่นกัน

       ข้าพเจ้าขอย่อส่วนลงมาในอณูที่เล็กลงอีก ก็ดี อตัวตนของมนุษย์ที่แต่ละคนเรานั้นก็ยังคงมากมายด้วยปัญหาและความยุ่งยากในแต่ละวันนับตั้งแต่ตื่นนอน ลืมตาก็มีปัญหาให้เราต้องคิด เซลล์สมองจะต้องทำงานทันทีและโดยเฉพาะสังคมปัจจุบันซึ่งถือว่าเป็นยุคของ "วัตถุนิยม" ที่ทำให้มนุษย์เราต้องแสวงหา แข่งขันต่อสู้ ดิ้นรน เพื่อหาบางสิ่งบางอย่างมาต่อเติมหรือเติมเต็มให้กับชีวิต ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าสิ่งที่แสวงหานั้นจะทำให้เป็นสุขที่แท้จริงหรือไม่ ข้าพเจ้าเลยอดคิดไม่ได้ว่าเครื่องมือวัตถุต่าง ๆ ที่มนุษย์เราไขว่คว้าหากันมานั้นมันก่อให้เกิดความสุขหรือเพื่อการสนองตอบกับการแข่งขันกันทางสังคมเช่นบางบ้านมีรถยนต์จอดไว้ที่บ้านนับสิบคันทั้งครอบครัวนั้นมีสมาชิกเพียง 4 คน ตัวอย่างที่ยกมาไม่ได้ว่าใครทั้งนั้น แต่สิ่งนั้นมันเกินความจำเป็นหรือไม่ บางครั้งนั่งคุยกับคนนั้นมีคนโน้นมีตัวเองก็จำเป็นจะต้องมีแม้นสิ่งนั้นจะ เกินตัว ก็ยังหาซื้อมา ขอเพียงให้ได้คุยกับกลุ่มเพื่อน ๆ ว่าฉันก็มี ไม่มีเงินก็รูดบัตรหรือขอสินเชื่อมาผ่อน นำสิ่งของต่าง ๆ มากกองไว้ในบ้านเพื่ออวดศักดิ์ดากับสังคม ทั้ง ๆ ที่ของเหล่านั้นไม่มีความจำเป็นเลย แต่ในขณะเดียวกันเงินให้บัญชีธนาคารมีแต่ความว่างเปล่า ซึ่งหากครอบครัวใดที่มุ่งแข่งขันกัน สังคมในลักษณะนี้ สักวันหนึ่ง คำว่าครอบครัวที่มีความหมายลึกซึ้งกินใจทั้งในเรื่องของความผูกพัน ความเข้าใจ ความรัก ความหว่งหาอาทร ความอบอุ่น สายใยครอบครัวก็อาจจะขาดสะบั้นลงได้เช่นกัน ที่สำคัญสายใยครอบครัวนี้เราไม่สามารถที่จะหาซื้อได้แม้นมีเงินมากมายเพียงใดก็ตาม เราไม่สามารถรูดบัตร หรือขอสินเชื่อเพื่อมาผ่อนได้ นั่นหรือคือสิ่งที่ตัวท่านต้องการ

       ความไม่แน่นอนในโลกสังคมปัจจุบันก็ยังคงนับได้ว่ามันคือสิ่งที่ไม่แน่นอน เพราะโลกเรายังคงก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา  มนุษย์ในฐานะส่วนหนึ่งของโลก ที่ต้องอยู่ภายใต้กฎธรรมชาติ เราจะต้องออกแบบชีวิตอย่างไรจึงจะพอเพียงพอดี และมีความสุขอย่างที่คุณพอใจ นั่นก็คือสิ่งที่คุณต้องคิดเพื่อการออกแบบชีวิตของตัวคุณเองว่าจุดพอดี พอใจ และจุดที่คุณมีความสุข มันอยู่ตรงไหน   การเข้าใจถึงคุณค่าของชีวิตจะเป็นสิ่งที่จะผลักให้ใจกับกายของมนูษย์เราเชื่อมสัมพันธ์ ก่อเกิดความมั่นใจ ไม่จำเป็นต้องแข่งกับสังคม รู้จักสงบ ไม่ฟุ้งเฟ้อ ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่จำเป็นต้องทันสมัย ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ตกเป็นทาสของเงิน  ไม่ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหา ไม่ตกเป็นทาสของวัตถุ ไม่ก่อหนี้ ใช้เท่าที่จำเป็น ใช้เท่าที่มีอยู่ ไม่ยึดติด ก็สามารถที่จะเข้าใจถึงความพอเพียงอย่างน้อยก็สามารถลดความขัดแย้งลงได้ภายในสังคม ก็ย่อมก่อให้เกิดความสงบสุข ความสันติสุขได้

       ทีนี้เราก็จะขอกลับมาพูดถึงความรู้ด้านการประกอบอาชีพกันบ้าง ก็อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าต่างพื้นที่ย่อมมีความแตกต่าง ดังนั้นอาชีพก็ย่อมแตกต่างเราจะทำอย่างไรกับคำว่าความพอดี...ความพอเพียง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะเริ่มจากทุนที่ตัวเองมีอยู่นั่นก็คือ ร่างกาย พละกำลัง สมอง นำมาประกอบกับท้องถิ่นที่ที่อาศัยอยู่เราต้องมีความรุ้ท้องถิ่นเราไม่จำเป็นต้องตามใคร แข่งกับใคร เราคิดด้วยตัวเราเองได้ แล้วก็เริ่มต้นจากทุนที่ไม่ต้องแสวงหาจากที่ใดก็คือตัวเรา พร้อมกันนั้นก็ต้องถามถึงความพอใจของตัวเองด้วยว่าบนเส้นทางที่เดินนั้นปลายทางคือจุดหมายที่ทำให้เราพอใจหรือไม่ เมื่อมีคำตอบ เราต้องมีความตั้งใจทำที่สำคัญเราต้องทำอย่างเต็มที่ เพราะผลดที่จะออกมาไม่ว่าจะเป็นอย่างไรมันก็คือความพอใจของเรา นั่นก็หมายถึงความสุขที่เราจะได้รับ ดังคำพูดที่เรามักจะได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า พอใจในสิ่งที่มี...พอใจในสิ่งที่ได้ ได้ที่นี้ก็ขอเพิ่มเติมอีกว่า เราต้องพอใจ ในสิ่งที่มีที่ได้ตามควรแก่ความสามารถ หรือการกระทำและฐานะความเป็นอยู่ หากเราสามารถยึดแนวทางเหล่านี้ได้ก็จะเป็นภูมิคุ้มกันในตัวเราอย่างดีต่อการที่มีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายในมันน่าจะเป็นเส้นทางเดินของชีวิตที่ทำให้คุณพอใจกับความสุขที่ยั่งยืน เป็น "ความสุขอย่างพอเพียง"

หมายเลขบันทึก: 87113เขียนเมื่อ 28 มีนาคม 2007 16:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:58 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

หากมนุษย์เรา..รู้จักคำว่าพอ โลกใบนี้คงน่าอยู่มาก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท