1. กระบวนทัศน์ในการวางแผนและการทำงานของทั้งระดับบุคคลและองค์กรที่ไม่สอดคล้องกัน
2. การให้ความสนใจและตีความหมายของเป้าหมายระดับชาติที่แตกต่างกัน
3. การทำงานต่างระดับความคิด แผนงาน และการปฏิบัติงาน
4. ช่องว่างของระบบการทำงานระหว่างหน่วยงาน
5. ช่องว่างของการทำงานระดับกอง และกลุ่มงาน
6. ช่องว่างการทำงานระดับบุคคล
7. การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทำให้เกิด “สุญญากาศ” ทางการพัฒนานโยบาย และเกิดอาการ “แท้ง” หรือ “เป็นหมัน” หรือ “พิการ”ในด้านการดำเนินงานได้บ่อยๆ
8. ระดับผู้บริหารขาด “ข้อมูล” ที่ถูกต้อง แต่มักใช้ความรู้สึก “ส่วนตัว” ในการตัดสินใจด้านต่างๆ
9. ระดับปฏิบัติไม่มีโอกาสร่วมสร้างนโยบาย ไม่มี “ช่องว่าง” และโอกาส ที่จะคิดแก้ไขเชิงนโยบาย
แนวทางในการแก้ไขปัญหาก็คือ
· การสร้างความหลากหลายในการพัฒนา ให้มากช่องทางที่สุด เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงก็จะพลาดเพียงบางส่วน
· การพัฒนา “เอกสาร” ที่สามารถ “แปลงเป็นข้อมูลได้ง่าย” ทั้งในระดับผู้บริหาร และระดับปฏิบัติ (แบบสั้นและได้ใจความมากและครบถ้วน)
· พัฒนาเครือข่ายการทำงานในทุกระดับ และครอบคลุมทุกประเภท
· พัฒนาต้นแบบในหลายระดับ หลายประเภท และหลายรูปแบบ ที่สามารถสื่อให้เข้าใจได้ง่ายและรวดเร็ว
· ทำงานกับนักปฏิบัติ “ตัวจริง”
· อาจใช้หลักการ “สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา” ของท่านหมอประเวศ วสี ที่ใช้การปฏิบัติที่เป็นจริง การขยายเครือข่าย และการเชื่อมโยงกับฝ่ายแผนและนโยบาย แบบหมุนเวียนเป็นวงจร เร็วขึ้นและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ที่ประชุมก็ยังได้เสนอแนะประเด็นต่างๆอีกมากมาย ที่จะช่วยให้การทำงานพัฒนานโยบายเป็นจริงได้ และถ้ามีลูกค้ามากพอ ก็จะนำมาเสนอในโอกาสต่อไปครับเครือข่ายเป็นเรื่องสำคัญมากครับ
เราต้องการพลังจากหลากหลายครับจึงจะทำงานได้ แต่ไม่ต้องมากคนก็ได้ ขอให้มีคุณภาพเป็นหลักครับ