ชีวิตนั้นยาวนานและไม่ง่ายนักที่เราแต่ละคนดำเนินจนได้มาถึงปัจจุบัน
ถือเป็น achievement ถือเป็นความสำเร็จ ได้หรือไม่? คงแล้วแต่คนกระมัง แต่ถ้า "ได้" ล่ะ? จะดีหรือไม่ดี?
ธรรมเนียมจีนนั้น นิยามของ "ตายดี" ที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างหนึ่งก็คือ "ตายตามอายุขัยอันควร" และ "ตายตามธรรมชาติ" ยิ่งถ้าใครอายุถึง 100 ปีแล้วตายล่ะก็ ทุกคนจะสวมชุดแดง และมีงานเฉลิมฉลองกันยกใหญ่ ไม่มีงานศพ เศร้าเสียใจ
น่าสนใจครับ น่าสนใจที่ว่าต้องรอถึงอายุ 100 ปีด้วยหรือ ในการที่จะเฉลิมฉลองชีวิตที่ผ่านมา?
มองย้อนกลับไป ชีวิตคนแต่ละคนก็ "ได้ทำอะไรมามากมาย" รวมถึงทั้ง "ได้เป็นอะไรมามากมาย" ทั้งได้ทำ และได้เป็น นี่แหละที่ประกอบกันเป็นชีวิตของเราแต่ละคน
ผมเคยดูภาพยนต์เรื่องหนึ่ง เรื่อง Go Towards the Light เป็นเรื่องของเด็ก Hemophilia ที่จะเลือดออกง่ายและหยุดยาก หกล้มนิดหน่อยก็จะมีเลือดออกใหญ่โต เสียเลือดมากๆก็จะต้องให้เลือดชดเชย มีอยู่มาวันหนึ่ง เด็กป่วย ปวดท้องกระเสาะกระแสะและมีท้องเสียมาเป็นอาทิตย์ ในที่สุดก็พาไปหาหมอ หมอก็ break the bad news ว่าเด็กติดเชื่อไวรัส HIV หรือ เอดส์ จากการให้เลือดบ่อยๆ และกำลังจะตาย พ่อแม่ของเด็กก็ต้องพยายามต่อสู้ literally ทั้งอารมณ์ ความคิด อะไรต่อมิอะไรหลายๆอย่าง ในฉากหนึง พ่อมานอนอยู่เตียงเดียวกับลูก แล้วก็กระซิบบอกว่า "พ่อภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นพ่อของลูก"
การเป็นพ่อ การเป็นลูก การเป็นพี่ เป็นน้อง เป็นเพื่อน เป็นครู เป็นลูกศิษย์ เป็น สถานะอันพิเศษ เป็น "ที่ทางของเราแต่ละคน" ที่ได้กำเนิดและใช้ชีวิตมาในโลกนี้ บางทีคนที่มีความหมายต่อเราเพราะสถานะดังกล่าว อาจจะยังไม่ทราบก็ได้ว่า "การเป็น" ของเขานั้น มีค่า มีความหมายต่อเรามากแค่ไหน
เราควรจะบอกเขาไหม?
ก็เป็นบทเรียนที่น่าสนใจจากภาพยนต์เรื่องหนึ่งอีกบทหนึ่งครับ