The Never-Ending Story


เหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ที่มีปัญหา ก็เพราะคน รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใน consequences of action นี้แหละ

สามสี่วันนี้ ถูกส่งมาเก็บตัว (ไม่ได้ถูก "สั่งเก็บ" ตัวนะครับ) ที่ระยองเพื่อออกข้อสอบ basic sciences ให้แพทย์ประจำบ้านศัลยศาสตร์ รวมทั้งเขียนร่าง syllabus basic sciences ฉบับปรับปรุงใหม่ เพื่อปรับตามมาตรฐานของโลกในปัจจุบัน

ระยองนี่จะมาปีละครั้งได้ (ก็งานนี้แหละครับ) ถนนหนทางดีขึ้นเยอะ ตอนนี้ซ่อมมากน้อย มีทางเบี่ยงยุบยับ แถมยังใกล้เช็งเม้ง รถรามากมายมหาศาล ผมไปไม่ถึงหาดแม่รำพึงที่เคยมาตอนยังเป็นเด็กเตรียมอุดม มาหยุดแค่หาดแสงจันทร์ ซึ่งทะเลจะค่อนข้างไม่ใช่ swimmer-friendly เท่าไร ไม่เป็นไร เราเน้นห้องประชุมมากกว่า (ยกเว้นเด็กๆก็เฮฮาลงไปในสระว่ายน้ำตามระเบียบ)

ตอนออกข้อสอบไม่เท่าไร เพราะมืออาชีพทั้งนั้น ตั้งหน้าตั้งตาทำไปทีละข้อๆ ช่วยกันเนื่องจากมีแค่ 6-7 คน ก็เลยไม่ต้องแบ่งห้อง ทำเสร็จเราก็รู้สึกว่าปีนี้น่าจะค่อนข้างง่ายกว่าปีก่อนๆ (ก็รู้สึกอย่างนี้ทุกปี จนปีที่แล้วตกมากที่สุดเป็นประวัติการณ์)

พอถึงตอนปรับหลักสูตรนี่สิ น่าสนใจ

 คือว่าเรามี model หลักสูตรเยอะครับ ของอังกฤษอย่างเดียวก็มีหลากหลายราชวิทยาลัยให้เลือก แล้วก็มีของแคนาดา ของอเมริกันก็มี ปัญหาก็คือ เราจะเอามาแค่ไหนจากเขา และจะเอามาแค่ไหนจากเรา

เราก็เอาโจทย์ ก็คือ "ตุ๊กตาศัลยแพทย์" ตั้ง ไปวางไว้บนโต๊ะ debate กันใหญ่ว่าตุ๊กตานี้ผอมไป อ้วนไป หัวโตไป หัวเล็กไป กระโหลกหนาไป กล้ามใหญ่ไป ฯลฯ (เป็น analogy นะครับ เดี๋ยวจะนึกว่ากรรมการเป็นบ้าไปแล้ว) ก่อนที่สรุปเป็น draft ร่างออกมา เพื่อเอาไปให้อนุกรรมการสอบชุดใหญ่ approve อีกที (ไม่ต้องห่วงครับมีหลายขั้นตอนที่จะต้องผ่าน ไม่คลอดออกมาลวกๆแน่นอน)

แล้วก็ต้องมาแตะ "ยาขม" ก็คือ เขียนๆไปแล้วเด็กของเราจะเรียนได้หรือ (รวมทั้งผู้ใหญ่ของเราจะสอนได้หรือ) แต่ก็เสนอคุยกันว่า เรากำลังพูดถึง adult learner กันอยู่ มัวแต่ไปเรียกเขาว่า "เด็กๆ" เลยคิดไปว่ากำลังเขียนหลักสูตรประถม Adult learner นั้นมีทีเด็ดอยู่ก็คือ self-directed learning เป็นกระบวนการเรียนที่สำคัญมากๆ เราไม่ต้องสอนทุกอย่าง แต่ make sure ว่ามี resource ที่ดี มีทิศทางที่ถูกต้อง และแผนที่การเรียนที่ชัดเจน ก็พอ

ผมคิดว่าประเด็น adult learner และ self-directed learning นี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และเป็นเรื่องที่สำคัญ เราคิดว่าพวกเราเป็นเด็กอยู่ลึกๆหรือไม่ เราจึงมี weak point ในกลุ่มของ responsibility หรือความรับผิดชอบ accountability การรับผลแห่งการกระทำ เพราะดูๆไป เราไม่ได้ฝึกให้เด็ก (จริงๆ) เผชิญหน้ากับ consequences of action มากมายสักเท่าไรเลย แต่เด็กของเราเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเรียกร้อง "สิทธิ" แต่นึกไม่ค่อยออกเท่าไรถึง "หน้าที่" ทั้งๆที่อย่างหลังนี้น่าจะมาก่อนอย่างแรก และสิ่งแรกที่ครูทำ ก็คือทำอย่างไรให้เด็กไม่ตก หรือไม่ผ่านประเมินโดยไม่รู้ตัวเสมอ จนบางทีก็มีการผ่านทั้งๆที่ไม่สมควรจะผ่าน เป็นสถานการณ์ที่ "ล่อแหลม" มากๆ

เหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ที่มีปัญหา ก็เพราะคน รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใน consequences of action นี้แหละ ไม่ว่าจะในระดับห้องเรียน ชุมชน สามจังหวัดภาคใต้ ตะวันออกกลาง อิรัค ฯลฯ

เป็น The Never-Ending Story จริงๆ

 

คำสำคัญ (Tags): #adult learner#mature#responsibility
หมายเลขบันทึก: 86693เขียนเมื่อ 27 มีนาคม 2007 08:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขออนุญาตแลกเปลี่ยนนะคะอาจารย์

ดิฉันเห็นด้วยเป็นอย่างมากเลยค่ะ ที่อาจารย์บอกว่าเด็กกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเรียกร้องสิทธิ แต่ไม่เข้าใจหน้าที่ของตน

ดิฉันก็พบกรณีอย่างนี้มากค่ะ ทั้งในระดับ ป.ตรี และ ป.โท

บางทีก็คิดเหมือนกันค่ะว่า consequence ของเราที่ช่วยเหลือเด็กบางคนที่อยู่ในสภาวะล่อแหลมไป จะเป็นประโยชน์หรือเป็นโทษต่อสังคมกันแน่

จริงอย่างที่อาจารย์ว่าเรื่องนี้เป็น never ending story ค่ะ จบไม่ลงเหมือนกันค่ะ

ขอแหย่หน่อย ในเรื่องspider man ภาคแรก พระเอกปล่อยให้โจรผ่านตัวเองไป ทั้งที่สามารถจะป้องกันได้ แต่ไม่ทำเพราะไม่ใช่หน้าที่ของตน และต้องการล้างแค้น

สุดท้ายต้องเสียคนที่ตัวเองรักไป

โจร พระเอก ใครเลวร้ายกว่ากัน

กรณีที่กำลังพูดถึง อาจแย่กว่าหรือเปล่าหนอ เมื่อสามารถทำได้ไยไม่ทำ  โดยที่ทั้งๆที่รู้ผลลัพธ์แล้วจากการไม่ทำ

อุเบกขา 

ประเด็นตอนนี้คือ "ทำได้" นั้น มันไม่ใช่ทำได้จริงๆครับ

 บอร์ด basic science มีชื่อเล่นว่า "บอร์ดเล็ก" เพราะเล็กจริงๆ ทั้งจำนวนคนและ authority แถมยังต้องพยายามรักษา status เพื่องานอื่นที่สำคัญไม่น้อยกว่ากันไปพลางๆ

อย่างนี้กระมังที่เรียกว่า "อับจนหนทาง"?

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท