อัตตลักษณ์ กับการพัฒนาคุณภาพองค์กร


มิใช่เป็นไปเพื่อแปรเปลี่ยนตัวเองจนไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่

อัตตลักษณ์ กับการพัฒนาองค์กรคนเราเกิดมาควรมีชีวิตอย่างมีความหมาย อย่างไรเรียกว่ามีความหมาย คงเป็นภาระอย่างหนึ่งในการค้นหาความหมายของชีวิตอัตตลักษณ์ของสิ่งมีชีวิต อาจหาได้จาก การที่รู้ว่าเราเป็นใคร เราอยากเป็นใคร และเราอยู่เพื่ออะไรองค์กรก็เช่นกัน เพื่อจะดำรงตนอยู่ได้อย่างมีความหมาย องค์กรต้องมีอัตตลักษณ์การวัด ประเมิน และ การมีมาตรฐานขององค์กรมีชีวิต ก็เป็นวิธีการหนึ่งในการรักษาอัตตลักษณ์ขององค์กร มิใช่เป็นไปเพื่อแปรเปลี่ยนตัวเองจนไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่างๆของสิ่งมีชีวิตนั้น แม้จะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีแต่ก็ไม่เคยสูญเสียอัตตลักษณ์ของตน เช่น ในขั้วโลกเหนือ หมีขาวเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นโดยการมีขนยาวหนา และมีไขมันสะสมใต้ผิวหนัง นกเพนกวิน ก็เช่นกันแต่ปรับตัวโดนมีหนังพิเศษและมีไขมันมาก แมวน้ำ ก็ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็น โดยมีผิวหนังราบเรียบ และมีไขมันที่เหมาะสม สัตว์ทั้งสามประเภท ในสภาพแวดล้อมเดียวกัน ต่างปรับตัวให้เข้ากับอากาศหนาวเย็นได้เช่นเดียวกัน ชาวเอสกิโม ก็อาศัยในถิ่นแถวนี้เช่นกันก็มีการปรับตัว แต่โดยวิธีที่แตกต่างกัน ไม่มีหมีขาวที่ปรับตัวจนกลายเป็นแมวน้ำ และไม่มีนกเพนกวิน ที่ปรับตัวไปจนเป็นหมีขาว ไม่มีชาวเอสกิโมที่ปรับตัวจนกว่าเป็น นกเพนกวิน ทุกสิ่งยังคงเป็นความเป็นตัวเอง คงไว้ซึ่งอัตตลักษณ์แห่งตนไว้ได้ หมีขาวก็ยังเป็นหมีประเภทหนึ่ง นกเพนกวินเมื่อมองดูก็ยังเป็นนกประเภทหนึ่ง คงจะสับสนน่าดูและหาความหมายของชีวิตไม่ได้ หากวันนี้ เป็นหมีขาว วันรุ่งขึ้นกลายเป็นนกเพนกวิน วันถัดมากลายเป็นแมวน้ำ ที่เหลือของชีวิตยังไม่แน่ว่าจะเป็นอะไร

อัตตลักษณ์….เมื่อผมได้เอ่ยถึงมันบ่อยๆ มันค่อยๆทวีความสำคัญของมัน มากขึ้นเรื่อยๆ บริบทนั้นสำคัญ แต่อัตตลักษณ์ทำให้การตอบสนองต่อบริบทนั้นแตกต่างกันไป ความหลงผิดในการประเมินประการหนึ่งก็คือองค์กรที่อยู่ภายใต้บริบทเดียวกัน ย่อมมีการตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมคล้ายกัน  ดังนั้นจึงอาจใช้ ชุดของการวัด ประเมินและมาตรฐานเดียวกันได้ บริบท และ อัตตลักษณ์องค์กร เป็นผู้เล่นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่พวกเรา พึงสังเกตและใคร่ครวญให้ดี อัตตลักษณ์เดียวกัน ในบริบทที่แตกต่างก็มีการวัด ประเมิน และใช้มาตรฐานที่แตกต่าง บริบทเดียวกัน อัตตลักษณ์แตกต่าง ก็มีการวัด ประเมิน และใช้มาตรฐานที่แตกต่าง  และแม้จะมีบริบทเดียวกัน อัตตลักษณ์เดียวกัน ก็ยังแตกต่างอยู่ดี เพราะหากมีอัตตลักษณ์เดียวกัน คงไม่เรียก อัตตลักษณ์ แล้วกระมัง คำนี้แปลว่าอะไร ให้โยดาวญแปลดีกว่า เพราะภาษาไทย อ่อนแอหากเราพิจารณาเฉพาะบริบท ไม่สนใจอัตตลักษณ์ เราอาจเดินไปบอกแมวน้ำว่า เพื่อการอยู่รอด เธอควรมีขนยาวหนานะ และพัฒนามือให้มีอุ้งเล็บมันใหญ่โตเพื่อเธอจะได้ตะปบเหยื่อทีเดียวอยู่ เธอเชื่อเพราะฉันใช้ชุดการวัด ประเมิน และมาตรฐาน ของหมีขาวนะ หมีขาวเป็นสุดยอดเพชรฆาตของขั้วโลกเหนือเชียวนะ เธอทำอย่างนี้รับรองเธอจะยิ่งใหญ่    ว่าแล้วแมวน้ำก็หาทางมีขนสีขาวยาวหนา และ หาเล็บมาใส่อุ้งมือของตน คิดว่าแมวน้ำตัวนี้ จะรอดเป็นแมวน้ำหมีขาวผู้ยิ่งใหญ่ หรือเป็นสัตว์กระจอกที่หาตัวตนไม่เจอ ตายไปอย่างโง่เขลาหรือเปล่าในอีกด้านหนึ่งของความเป็นจริงปัจจุบัน ขอให้เธอเชื่อนะว่ามาตรฐานที่เอามาให้เธอ นี้ได้ผ่านการขัดเกลามาแล้วสุดยอดฝีมือทั่วแผ่นดินได้รวมตัวกัน สร้างมาโดยเฉพาะ ถ้าทำตามนี้ถือว่าได้มาตรฐาน ไม่ได้ตามนี้ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ต้องเถียงขึ้นชื่อว่าเป็นวิชาชีพแล้ว มันต้องฟังสภาวิชาชีพซิ นี่สภาวิชาชีพพูดนะ และ ก็เราถอดแบบมาจากรพ.ที่ยิ่งใหญ่มีชื่อเสียงมากเลย เธอสงสัยในคุณงามความดีเขาหรือเทียบเคียงกันแล้วดูคุ้นไหมครับ เข้าใจไหมครับ ว่าใครเป็นหมีใหญ่ ใครเป็นแมวน้ำ ใครเป็นนกเพนกวิน และใครเป็นคนเข้าใจอะไรผิด เราจะเชื่อหรือไม่ ก็ตามขึ้นอยู่กับว่า คำถามนี้คุณตอบอย่างไร อะไรคืออัตตลักษณ์ของคุณและเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากก็คือ บางองค์กรพยายามรักษาอัตตลักษณ์ของตน โดยการทำลายอัตตลักษณ์ของตนเอง องค์กรที่คุณก็รู้ว่าใคร(ขอจบแบบ แฮรี่ พอตเตอร์ หน่อยหนังสือใกล้ออกแล้ว)

หมายเลขบันทึก: 86655เขียนเมื่อ 27 มีนาคม 2007 00:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม 2012 10:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

บางองค์กรพยายามรักษาอัตตลักษณ์ของตน โดยการทำลายอัตตลักษณ์ของตนเอง

^^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท