เราคงเคยได้เรียนหรือได้ยินกันมาบ้างว่า อริยสัจ ๔ คือทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
ดิฉันก็เคยท่องจำมาเมื่อสมัยเด็กๆ โดยแต่ก่อนก็จำได้ว่า สมุทัยก็คือเหตุแห่งทุกข์ และมรรคมีองค์ ๘ คือหนทางไปสู่ความดับทุกข์ ส่วนนิโรธนั้นจำไม่ได้เลยว่าคืออะไร (พอเขียนถึงตรงนี้ก็ขำตัวเองว่า แต่ก่อนมีความรู้บ้างแต่ขาดปัญญามากๆ 555)
จนกระทั่งอาจารย์ศิริศักดิ์ มอบหนังสือ หลวงปู่ฝากไว้* ให้อ่านเวลาว่างเพราะเป็นหนังสือสอนธรรมสั้นๆ ไม่ต้องใช้เวลาอ่านนาน เข้าใจง่ายและเป็นเรื่องสั้นๆ เป็นตอนๆ
วันนี้ได้เวียนกลับไปอ่านหนังสือเล่มนี้อีก เมื่ออ่านมาถึงในเรื่อง "การปรารภธรรมเรื่องอริยสัจ ๔" ที่หลวงปู่ดูลย์ได้กล่าวไว้ตั้งแต่วันเข้าพรรษา ปี ๒๔๙๙ ว่า
จิตที่ส่งออกนอก |
เป็นสมุทัย |
ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก |
เป็นทุกข์ |
จิตเห็นจิต |
เป็นมรรค |
ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิต |
เป็นนิโรธ |
จากการอ่านนี้ ทำให้เกิดความปรารถนาที่จะแลกเปลี่ยนและมอบเรื่องนี้กับ blogger ทั้งหลายเพราะรู้สึกว่าหลวงปู่ดูลย์ ได้สรุปเรื่องอริยสัจ ๔ ไว้ได้ดีเหลือเกิน สั้น กระชับ ได้ใจความ
ดิฉันอ่านที่ท่านสรุปไว้แล้ว ทำให้เข้าใจอริยสัจ ๔ ถ่องแท้มากขึ้น นำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ เช่น
ดิฉันปฏิบัติได้แค่นี้ก็รู้สึกโล่งแล้ว เพราะ รู้ปัญหา เห็นปัญหา แต่ไม่เป็นปัญหาค่ะ
หนังสืออ้างอิง
*หลวงปู่ฝากไว้ บันทึกคติธรรมและธรรมเทศนา ของพระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล) ที่รวบรวมโดยพระโพธินันทมุนี
ธรรมะสวัสดีครับ
ดิฉันเคยอ่านของท่านสันตินันต์นิดหน่อยตอน browse เจอใน web และก็ได้หนังสือ "ประทีปส่องธรรม" ของพระอาจารย์ปราโมชย์ มาจากเพื่อนอาจารย์ที่จุฬาฯ เป็นหนังสือที่ดีมากๆ ค่ะ และอ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา ก็เป็นอาจารย์ที่อยู่ที่ สจพ.นี่แหละค่ะ ดีจริงๆ ใช่ไหมคะ ที่มีพระอาจารย์และเพื่อนร่วมทางปฏิบัติธรรม
สวัสดีครับอาจารย์
ธรรมะสวัสดีครับ
สวัสดีค่ะคุณ ทีน่า
ใช่เลยค่ะ การยึดมั่น ถือมั่น ว่าสิ่งที่เราคิดนั้นถูกต้องเสมอเป็นเรื่องอันตรายยิ่ง เราเพียงแต่ต้องเข้าใจว่าแต่ละคนมีหนทางของตน อย่างที่คุณทีน่าว่าไว้เลยค่ะ
ยินดีต้อนรับค่ะ ; ) อาจารย์ มัทนา
สวัสดีครับอาจารย์กมลวัลย์
สวัสดีค่ะ
![]() |
เอ...ฟังอาการแล้วไม่ค่อยดีเลยนะคะ... เคยเป็นตอนเรียน ป.เอกเหมือนกันค่ะ ตอนนั้นรู้สึกเซ็งๆ เหมือนไร้เป้าหมาย ต้องหาอะไรที่ break routine ทำค่ะ การอ่านหนังสือก็เป็นสิ่งดีนะคะ จริงๆ แล้วเข้ามาใน GTK บ้าง ถึงไม่ได้เขียนให้ข้อคิดเห็น แต่อ่านไปเรื่อยๆ ก็อาจจะช่วยนะคะ ไปอ่านเรื่องขำๆ ของ ดร.บัญชาก็สนุกดีค่ะ อ่านหนังสือที่คุณธรรมาวุธ ให้ไว้ในข้อคิดเห็นข้างต้นก็ดีนะคะ
ตอนที่หายจากอาการอย่างนี้ เมื่อครั้งโน้น..มักจะมีอะไรมากระตุ้นให้รู้สึกอยากทำต่อค่ะ เหมือนกับเกิด inspiration ขึ้นมาน่ะค่ะ
พยายามเจริญสตินะคะ มีทุกข์ก็ดูให้เห็นทุกข์ เห็นเหตุแห่งทุกข์ ถ้ามีอาการเบื่อก็ดูให้เห็นความเบื่ออันนี้ แล้วพิจารณาดูสาเหตุ แล้วดูว่าจะแก้ที่เหตุได้อย่างไร บางทีถ้าความคิดวนไปวนมา ก็มองให้เห็นว่าความคิดวกวนอยู่กับเรื่องอะไร อาจอ่านหนังสือเพื่อตัดความคิด อาจพิจารณากายเพื่อตัดความคิด เช่น ถ้าเดินก็ให้พิจารณาการย่างเท้าเดิน ถ้าเขียนให้ก็พิจารณามือที่กำลังเขียน หรือออกไปข้างนอก ออกกำลัง สูดอากาศบริสุทธิ์ เพื่อตัดกระบวนความคิดค่ะ
บางที ลองตัดใจเขียนบันทึกว่าเรากำลังเบื่อลงใน GTK สักบันทึกหนึ่ง อาจจะดีขึ้นก็ได้นะคะ จะได้โต้ตอบกับสมาชิกต่างๆ ด้วย
ลองดูนะคะ ทำอะไรก็ได้ น่าจะดีขึ้นค่ะ เอาใจช่วยนะคะ ^ ^
บันทึกไว้เป็น Follow-up
จากหนังสือ "สำหรับผู้เห็นปัญญา นิกายเซน" ของ รศ.ดร.บุรัญชัย จงกลนี