จะอดทนไป...ถึงไหนกัน!!! (วิถีที่เป็นไป)


เสียงพระท่านดังขึ้นเบาๆช้าๆ ในศาลาโล่ง ที่เย็นสบาย ทุกอย่างรอบข้างผมดูช้าลงไป ผ่อนคลาย สบายที่สุด

ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต มีแต่ปัจจุบัน ให้รู้จักอยู่กับปัจจุบัน แล้วใจจะสุข

เสียงพระท่านดังขึ้นเบาๆช้าๆ ในศาลาโล่ง ที่เย็นสบาย ทุกอย่างรอบข้างผมดูช้าลงไป ผ่อนคลาย สบายที่สุด

ผมนั่งในท่าสบาย หลับตา...ดูจิตตนเอง ใจจอจ่อกับลมหายใจ เข้าและออก

"เป็นเช่นนั้นเอง" ภาพจาก ลานนาโฟโต้คลับ

...............................

ผมตื่นเวลา หกโมงเช้า หลังจากที่เมื่อคืนท้องร่วง และเป็นไข้ แต่ยังรู้สึกกระปรี้กระเปร่า เนื่องจากได้พักผ่อนนั่นเอง อีกจุดหมายหนึ่งทำให้ผมมุ่งมั่น คือ การที่ผมจะได้ไปวัด ทำบุญในช่วงเช้า ก่อนที่ผมจะเข้าประชุมในช่วง ๑๐ โมง (ผมเป็นผู้นำการประชุม จริงๆต้องไปเตรียมการประชุมก่อน) แต่เนื่องจากเป็นการประชุมที่ยืดหยุ่น ผมจึงสบายใจมาก

เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดทำงานเตรียมตัวไปทำงานเต็มที่ ขับรถแวะตลาดซื้อดอกไม้ พี่อึ่งอ๊อบบอกว่าได้ซื้อของถวายไปแล้ว ให้ซื้อดอกไม้เพิ่มเติมและขับรถไปรอจุดที่นัดหมาย

แล้วเราก็มาถึงที่วัด (ชื่อวัด สันป่าสักวรอุไรวราราม) เพียงไม่กี่นาที บรรยากาศในวัดร่วมรื่น ด้วยสวนปาล์ม หนาทึบ ดูเย็นสบาย และดูสดชื่นมากในเช้าวันนี้

ผมนั่งกราบพระพุทธรูปที่อยู่ตรงหน้า เห็นหลายๆท่านที่มาก่อน แต่ละท่านดูสงบเสงี่ยม และเงียบ พระทั้ง ๔ องค์ท่านดูเงียบ นั่งบนอาสนะ ญาติโยมจะคุยกันก็เพียงกระซิบเบาๆ ...บรรยากาศดูสงบเหลือเกิน

ได้เวลา...หลังจากที่นมัสการพระรัตนตรัยแล้ว ...เราทั้งหมดในศาลาค่อยๆ นั่งสมาธิและหลับตา ผมได้ยินเสียงพระท่านเล่าธรรมะผ่านไมค์ แต่เสียงนั้นดูเยือกเย็น ไพเราะเสนาะโสตมาก นั่งนับลมหายใจตัวเอง ได้ยินเสียงหัวใจของตนเองที่เต้นเป็นจังหวะ

ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต มีแต่ปัจจุบัน ให้รู้จักอยู่กับปัจจุบัน แล้วใจจะสุข

เสียงพระท่านดังขึ้นเบาๆช้าๆ ในศาลาโล่ง ที่เย็นสบาย ทุกอย่างรอบข้างผมดูช้าลงไป ผ่อนคลาย สบายที่สุด

........

ถึงเวลาฉันแล้ว...พระท่านให้ไปอุ้มบาตร ผมมีโอกาสที่ดี ที่ได้อุ้มบาตรท่านเจ้าอาวาส พร้อมเดินไปที่จุดอาหาร รอพระท่านเดินมา และอุ้มบาตรตามท่านขณะท่านตักอาหาร ข้าว ของหวาน ผลไม้ทุกอย่างคลุกลงไปในบาตร ...ที่นี่พระท่านฉันมื้อเดียว และเป็นอาหารมังสวิรัส

จากนั้นผมอุ้มบาตรตามท่านไป พร้อมถวายบาตรแด่พระเจ้าอาวาส ท่านยื่นนมกล่องและขนม ให้ผม

ผมรับด้วยความปิติยินดี...และมีความสุขมาก(ความรู้สึกในขณะนั้นอิ่มเอมมาก)

……………….. <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ช่างเป็นเช้าที่พิเศษสุดของผมจริงๆ ซึ่งก็ต่างจากวิถีชีวิตของตนเองที่จ่อมจมกับความรู้สึกที่ไม่ดีเมื่อเวลาที่ผ่านมาเมื่อคืน ที่พร่ำบอกตนเอง ว่า “จะอดทนกันไป…ถึงไหนกัน”</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>…………….. <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมเหลือบดูนาฬิกา…ใกล้ถึงเวลา ๑๐.๐๐ น. ที่ผมนัดประชุมคณะนักวิจัย เกือบ ๒๐ ท่าน จากหลายๆจังหวัดในภาคเหนือ …ต้องรีบไปทำภารกิจแล้วสิครับ…ผมต้องไปทำหน้าที่ผู้นำการประชุมให้ทัน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>……………. <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ขับรถไปที่ประชุมด้วยความสบายใจ มองนมกล่องและขนมที่พระท่านให้ผมมา …แม้ไม่ได้ทาน แต่ก็อิ่มจนตื้อไปหมด</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ถึงที่ประชุม…สมาชิกก็รอจนครบแล้ว..</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผม Morning talk  เรื่อง ที่ผมไปพบเจอตอนเช้าวันนี้…และผมบอกกับทุกคนว่า วันนี้ผมเอาบุญมากฝากทุกคนครับ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมเห็นแววตาสดใส และรอยยิ้มละไมจากสมาชิกทุกคน…..</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><h5 style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">“เมื่อคุณยิ้ม โลกก็พร้อมจะยิ้มให้กับคุณ” (จริงๆด้วยครับ)</h5>

หมายเลขบันทึก: 86038เขียนเมื่อ 24 มีนาคม 2007 06:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)
  • จ้ะ   ตื่นขึ้นมายิ้ม  ^__*  ดีใจที่ได้อ่านเรื่องดีดี
  • ดีใจที่น้องเอกยิ้มได้อีกแล้ว...และอีกต่อๆไปนะคะ
  • ขออนุโมทนาบุญด้วยคนนะคะน้องเอก

พี่  

P

ผมดีใจมากครับ....

รู้สึกว่าตนเองมีทุนมาก...หลังจากที่ได้ไปวัดที่พี่อึ่งอ๊อบพาไป

หลังจากประชุมเสร็จค่ำๆ ผมตัดสินใจขับรถกลับคนเดียว จากเชียงใหม่ถึงแม่ฮ่องสอน ที่ต้องผจณอีกหลายพันโค้ง จากค่ำสู่คืน เพราะผมมีภาระกิจที่ต้องประชุมต่อยาวจนถึงวันจันทร์ (หลายๆประเด็นงาน)

เพื่อนนักวิจัย หลายท่านทักท้วงว่า ไม่ควร เพราะผมยังไม่ได้พักผ่อนเท่าไหร่เลย(หลังจากที่ป่วยในคืนที่ผ่านมา)

แต่ผมกลับมีความสุขมากครับ ต่อให้ขับรถไปมา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน สักสองรอบผมก็ทำได้

ก็ใจเป็นสุข ใจมีพลัง นี่ครับ

ตอนเกือบสองทุ่ม พี่อึ่งอ๊อบโทรมา ตอนนั้น ผมพาตัวเองไปอยู่ที่เมืองปายแล้วครับ

คุณแม่ผม ท่านทำอาหารที่เป็นมื้ออร่อยที่สุดในรอบเดือนที่ผมไม่ได้กลับบ้าน

อร่อยมาก ...ครับ

ชีวิตของผมในสามวันนี้ (เสาร์ อาทิตย์ จันทร์)

ที่เมืองปาย เช้านี้อากาศเย็นมากๆครับ....

เช้านี้ผมต้องไปพบกับพี่ รอน (แห่ง รพ.ปาย) และ น้องหมอสุพัฒน์ เพื่อพูดคุยประเด็น การพัฒนาเด็ก ที่ unicef ให้งบประมาณเริ่มต้นมา ...การออกแบบการประชุมในวันจันทร์

ต่อจากนั้น ผมก็จะเดินทางต่อไปยังบ้านจีนรุ่งอรุณ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน (หมู่บ้านนี้ผมเป็นที่ปรึกษางานวิจัยอยู่ครับ) เพื่อเข้าร่วมเวที วิจัยแม่ฮ่องสอน เวทีนี้ ได้เดินป่า ขี่ม้า และเที่ยวน้ำตก พร้อมกับนั่งคุยถอดบทเรียนกันในหมู่บ้าน

กิจกรรมที่ดีๆเหล่านี้ ผมจะทยอยนำมาเล่าให้ทุกท่านฟังครับ

ใช่ค่ะ น้องเอก  พี่หนิงก็เป็นค่ะ เพราะที่แห่งนี้คือ บ้าน  ^__*

หิ่งห้อยบินกลับมาเยี่ยมแล้วหลังจากหายไปกับงานเกือบเดือน  ธรรมะคือหน้าที่ เป็นคำสอนของท่านพุทธทาส ที่พีนำมาใช้พิจรณาอยู่เสมอ  พยามฝึกจิตให้อยู่กับปัจจุบันและตรงนี้ละเห็นธรรม..ไตรลักษณ์ค่ะ ทุกอย่างเกิดขึ้น แปรเปลี่ยน และไม่มีอะไร เรายึดอะไรไม่ได้ เราทำดีที่สุดแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ (ธรรมะคือธรรมชาติ) พยามฝึกจิตให้พิจรณาแบบนี้บ่อยๆ ใจจะรู้สึกสบาย เบา แม้งานจะหนักอุปสรรคจะมาก อนุโมทนากับสิ่งที่อาจารย์เห็น และเข้าใจ  โชคดีค่ะ

แค่ความรู้สึกอิ่มเอมใจในเช้าวันหนึ่ง...

ก็เติมพลังในการทำงานไปได้อีกนานครับ...

เพิ่มพลังใจ พลังกายในการทำงานกันต่อไปครับ...

ผมรีบมาก....

แต่ก็แวะมาดูว่าอาการเป็นไงบ้าง

...

ขอให้แข็งแรง  มีวันดี ๆ ของชีวิต นะครับ

หวังว่าคุณเอก คงสบายดีและแข็งแรงเต็มที่แล้วนะค่ะ...เพราะอิ่มบุญ ที่ได้ไปวัดมา ... คนอ่านก็รู้สึก อิ่มบุญตามไปด้วยค่ะ.....รออ่านเรื่องราวจากเมืองปายค่ะ....อยากไปเที่ยวปายมาก.....ยิ้ม ยิ้ม
  • ใจเราสงบ.....ก็มีสุขได้ในทุุกที่ค่ะ...
  • ถ้าิ่จิตสงบได้ตลอดเวลายิ่งดี...นั่นหมายถึงเข้าใจในความเป็นมนุษย์(ที่วุ่นวายและแตกต่าง)....ก็จะไม่ไหวตามมัน....
  • สงบสุขด้านความคิดมี...ความสุขใจก็ตามมาค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ
  • อ่านชื่อวัด สันป่าสักวรอุไรวราราม
  • ทำให้ผมนึกถึง อาจารย์เก่าของผม และ มช. ครับ

อ.หิ่งห้อย

P

เห็นแสงวาววับ ที่มีพลังของหิ่งห้อย ความเหนื่อยอ่อน ที่มีพลันมีกำลังใจขึ้นมาทันที

ผมขอแบ่งบุญที่ผมไปรับมาให้อาจารย์ด้วยครับ

วันสองวันผมมีกิจกรรมประชุม + ขับรถ  ตลอดเวลา และคิดว่ามีสิ่งดีๆจะมาเล่าสู่กันฟังอีกเพียบครับ

ขอบคุณครับ

P

ขอบคุณกำลังใจครับ...วันเวลาที่ดีขอให้จดจำและสร้างพลังใจในการเดินต่อ ผมร่วมให้กำลังใจด้วยคนนะครับ

P

พี่อิ่งอ๊อบ ครับ

ช่วงนี้งานผมมากเสียจนลืมเครียดเลยครับ ประชุมแต่ละจุดไกลกัน ขับรถจนมึนเลยครับ

แต่ยังไง ก็มีพลังใจเกินร้อยครับ

P

แม้จะมีเวลาน้อย แต่ยังมีเวลามาแวะดูใจผม 555 ต้องขอขอบคุณมากๆครับ

ผมสบายมากครับ...ตอนนี้ขับรถไป ฮัมเพลงไปด้วยแล้ว (เพลงหมอลำ)

ขอบคุณครับผม

P

อ.แป๋วครับ หากผู้อ่านรู้สึกดี และอิ่มเอมตาม ผมยินดีมากเลยนะครับ

รออีกวันสองวัน มีเรื่องเมืองปายเพียบแน่นอนครับ

P

กายกับใจสัมพันธ์กันจริงๆครับ...ผมสบายใจ พลังกายก็มาเต็มร้อยครับ

สิ่งสำคัญที่สุดคือการฝึกใจนะครับ...หากเราฝึกใจให่เข้มแข็งได้ ...ก็คิดว่า อย่างอื่นเรื่องเล็กๆครับ

ขอบคุณพี่ติ๋วครับ

P

ขอบคุณอาจารย์เอกมากๆนะครับ คุยกันก็ได้รู้จักตัวตนกันและกันมากขึ้น...ดีใจที่ได้รู้จักนะครับ

อนุโมทนาบุญด้วยครับ

P
อ.Panda

อาจารย์ครับ 

เท่าที่ผมฟังจากพี่อิ่งอ๊อบ พี่ก็บอกว่าเป็นวัดที่ อาจารย์ท่านหนึ่งใน มช. เป็นผู้สร้างวัดนี้(เจ้าภาพ)

น่าจะเป็น ท่านอาจารย์ของ อ.panda จริงๆด้วยครับ

 

แวะมา ส่งกำลังใจ ให้ 2เข่งนะครับ

.

ยามเหนื่อย ขอให้

หายเหนื่อย และ เหนี่อยหาย ครับ 

คนวิจัยเหมือนกันจ๊า

จะอดทนไป...ถึงไหนกัน!!!

ได้ยินคำนี้แล้วเลยย้อนดูตัว เราไม่ได้สิ้นซึ่งคำว่า ศักยภาพ และ คุณภาพ  จาก อดทน เป็น ทนอด ก้าวเข้าทำงานแล้วห้วงความคิดหนึ่งก็กรูเข้า อยากกลับบ้านแล้วซิ   ทำไมเป็นแบบนั้น พอได้อ่านของพี่หมอเอก แล้วก็ทบทวนตัวเองอยู่นาน นั่งประชุมด้วยกัน ก็เลยตัดสินใจว่า เราควรจะลาจากที่ทำงานแห่งนี้ซะที

กลับไปหาปิยมิตร ที่อุดมคติและจิตวิญญาณเหมือน ๆกัน เป็นกำลังใจที่ดี อย่างสุดซึ้งแล้วล่ะ

สู้ต่อไปด้วยกัน ให้ถึงฝั่งฝันกันนะค่ะ

น้องนักวิจัย (คนวิจัยเหมือนกันจ๊า ) ผมว่าศักยภาพเราขนาดไหนก็รู้อยู่กับตนตัว....

ไม่รู้สิครับ ผมคิดแนวข้าง ตลอด ...ผมมองว่าเวลามันเหลือไม่มากครับ อยากทำงานที่ผมชอบจริงๆและ งานนั้นมีคุณค่า มีเพื่อร่วมงานที่ดี(อาจจะเลือกยาก)

แต่มีทางเลือกครับ...ผมมีทางเลือกมากมาย จริงๆงานก็รายล้อม ก็ดูๆที่เหมาะสมกับตัวเอง เหมาะสมกับอุดมการณ์ตัวเองครับ

ในตอนเช้าที่ห้องประชุม ที่ผมคุยเรื่อง การทำบุญ เช้านี้, ชีวิตของผมที่ผ่านมา ผมเพียงถอดบทเรียนว่า ผมเจออะไรมา และปรับตัวอย่างไรให้บรรดานักวิจัยทุกท่านฟังเป็น small talk สนุกสนานครับ

หากไม่มีความสุข หากไม่ใช่ทางเดินของเรา มันไม่ใช่ๆๆ ก็ควรต้องทบทวนนะครับ น้องนักวิจัย

ปิยมิตรที่รอคอยเรามากมายครับ พร้อมให้กำลังใจกันและกันอยู่แล้วครับ

                                                                พี่เอก

น้องนักวิจัยครับ...(ต่อ) 

ผมเองก็ยอมรับว่า ความสุขที่จริงๆนั้น อยู่กับตนตัว ไม่ได้อยู่ที่ใครอื่น  หลายคนให้อดทน ผมก็มองว่า ไม่ใช่วิถีที่ต้องทนเพราะมันเสียเวลา...เวลาเหลือน้อยอย่างที่ผมเคยบอกทุกครั้ง

และผมก็เชื่อว่า หากมีทางเลือก คงไม่มีใครอยากอยู่กับสิ่งที่บั่นทอนความเป็นมนุษย์ และไร้ซึ่งความสุขจากการอยู่ร่วมกันฉันท์มนุษย์

มีทางเลือกก็ควรเลือกทางที่ดีกว่า...เดินเข้าสู่ศูนย์กลางของชีวิต และจักรวาลแห่งเรา

คงไม่ต้องหวั่นกลัวใดๆครับ

(ฝากให้น้องนักวิจัย...นะครับ)

เห็นจั่วหัวข้อไว้ งงๆ เลยวิ่งเข้ามาดู

เลยสะดุดกึ๊ก อ๋อ...พาไปเข้าวัดนี่หน่า

เปลี่ยนมาทำตัวสำรวมแทบไม่ทัน แหมๆ วิ่งกระหืดกระหอบมาเลยเนี่ย

...

 

สาธุ สาธุ

บันทึกนี้ละมุนละมัยจัง

 

บายจ้า

^___^

สำรวมๆหน่อยครับคุณผู้หญิง 555

คุณ แนนนี่ นั่นเอง
P
IS

 

ที่ Aus มีวัดไทยหลายแห่งด้วยใช่มั้ยครับ...อยากรู้จังว่าบรรยากาศเป็นยังไงบ้าง

บันทึก ณ เวลานี้ (วันนี้) อารมณ์ละไมพอสมควรครับเลยบันทึกออกมาแบบละมุนแบบที่เห็ฯ

ขอบคุณครับผม

พี่เอกครับ

ผมเองก็รักมากสำหรับรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วย ความสุข เมื่อเห็นใครต่อใครยิ้มเราเองก็มีความสุขไปด้วย ไม่ว่าใครคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม  ตรงกันข้ามหากใครไม่มีรอยยิ้ม ขาดความสุนทรีย์ ก็(คง)ไม่มีใครอยากเข้าใกล้แน่นอน

ไม่อยากบอกเลยว่าเหตุการณ์อย่างนี้คล้ายกับผมจังเลย (ตอนทำบุญหน่ะ) วันนั้นเป็นวันเกิดครบรอบ 26 ปี ( 5 มีนาคม) ผมตื่นเช้ามาเก็บกวาด รดน้ำต้นไม้ หน้าสำนักงานมูลนิธิร่วมพัฒนาพิจิตร รอพระบิณฑบาตรมา ช่วงระหว่างรอผมก็ได้สนทนากับป้าคนหนึ่งซึ่งเปิดร้านถ่ายเอกสารอยู่หน้าสำนักงานมูลนิธิฯ ป้าถามว่าทำไมจึงทำบุญเหรอ มีอะไรพิเศษ ผมก็ร่ายยาวให้ป้าฟัง จากนั้นป้าก็ถามต่อว่า แล้วบวชหรือยังหล่ะ? ผมตอบด้วยความขัดเขินนิดหน่อย ....ยังครับ.... พร้อมกับอธิบายสาเหตุด้วยว่า ที่ยังไม่บวชเพราะเป็นความเชื่อส่วนตัวที่ว่า ทุกวันนี้ก็พยายามทำตัวเป็นพระในร่างฆราวาสอยู่ คือ "คิดดี พูดดี ทำดี" ทำตรงนี้ให้ได้ก็ดียิ่งกว่าบวชด้วยซ้ำ  อีกทั้งผมเห็นคนที่บวช (ให้บิดา มารดา ญาติพี่น้อง) แล้ว 7 - 10 วัน ก็สึกออกมา กลับทำตัวไม่ได้ให้ชีวิตตัวเองหรือสังคมดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย แถมซ้ำร้าย (เลวร้าย) ลงกว่าเดิมเสียอีก (แล้วไปบวชหาวิมานอะไรวะ!!!!) สิ้นเปลืองเงินทองพ่อแม่เปล่าๆ      หลังจากคุยกับป้าได้สักพักก็ใส่บาตรร่วมกัน พอดี นมกล่องที่ผมนำมาใส่บาตรเหลือ 2 กล่อง ก็เลยยื่นให้ป้า 1 กล่อง ด้วยความเต็มใจ ก้อเป็นความสุขเล็กๆเช่นกันครับ

 

(ถ้าเรามีความสุข คนรอบข้างก็มีความสุขไปด้วย)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท