วันนี้ช่วงกลางวันไม่ได้ออกไปไหน
แม่จึงได้มอบหมายภาระกิจให้ คือ ให้ช่วยเปลี่ยนท่อน้ำทิ้ง
ภาระงาน คือ เลื่อยท่อพีวีซีให้พอดีกับระยะ แล้วนำมาต่อกัน แค่นี้ก็เสร็จได้ท่อน้ำทิ้งใหม่
เหมือนจะเป็นงานที่ง่าย แต่มันไม่เป็นอย่างที่คิด
ในขั้นตอนการเลื่อย เกิดปัญหา คือ เลื่อยท่อพีวีซีไม่ตรง ลองเลื่อยกี่ครั้งก็ไม่ตรง เราผิดพลาดขั้นตอนไหน ดูวิธีการเลื่อยของตัวเอง ละก็คิด เอ้...ทำไมมันเลื่อยไม่ตรงซะที ลองเลื่อยดู 4- 5 รอบ แม่ก็เริ่มบ่น หมดกันๆ เลื่อยไปเรื่อยๆอย่างนี้ มันจะเหลืออะไร แล้วมันจะได้ท่อน้ำทิ้งไหม? ผมหยุดเลื่อย พร้อมกับโจทย์ที่ค้างคาอยู่ในใจคือ
พอทำท่อน้ำทิ้งเสร็จ ก็ไปที่ห้อง DSS
ช่วงค่ำลงไปทานข้าว สั่งข้าวมันไก่ทอด แม่ค้ายกมาให้พร้อมกับน้ำจิ้มไก่ทอด ผมคิดว่าน้ำจิ้มไก่ทอดต้องหวานมากจากที่เคยทานมา ก็เลยใส่ น้ำจิ้มขาหมูกับไก่ตอนที่มีอยู่บนโต๊ะลงไปแทน พอทานคำแรก โอย! รสชาดไม่เป็นสรรพรส แต่ยังฝืนทานต่อไป ทานไปสักพักก็เริ่มสงสัยว่า ทำไมเขาไม่เอาน้ำจิ้มไก่ทอดวางไว้บนโต๊ะเหมือนกับน้ำจิ้มอื่นๆ เลยลองชิมดู น้ำจิ้มไก่ทอดร้านนี้ไม่เหมือนที่คิดไว้ หวานนิดๆ มีเผ็ดและเปรี้ยวแหลมออกมา แตกต่างจากน้ำจิ้มไก่ทอดที่เคยผ่านลิ้น
ทำให้คิดต่อไปว่า
"เราใช้ความคุ้นเคยในการตัดสินว่าเป็นอย่างไร โดยที่เราไม่ได้ทดลองก่อน"
มันก็เป็นอย่างนี้หล่ะ
อื้มมม....น่าคิดๆ
"เราใช้ความคุ้นเคยในการตัดสินว่าเป็นอย่างไร โดยที่เราไม่ได้ทดลองก่อน"
แต่พี่ขอไปนอนก่อนเด้อ..น้องรัก ไม่งั้นจะเป็นคุณนายสายเสมออีก
ครับ...เริ่มต้นจากเลื่อย แล้วก็เรื่อย ๆ มาจบที่น้ำจิ้มข้าวมันไก่ทอด...
เห็นด้วยครับ...เรามักใช้ประสบการณ์หรือการรับรู้ในอดีตเป็นตัวตัดสินเสมอ ๆ ...
ขอบคุณครับ...
แวะมาทักทายค่ะ
เห็นด้วยค่ะ.....หากเราลองคิดต่าง
ไม่ใช้ความเคยชินตัดสินก็จะเจอในสิ่งที่แปลกใหม่
(รสชาติที่แปลกใหม่) ที่ดีกว่า หรือ อาจจะแย่กว่าในบางครั้งก็ต้องคงต้องลองดู
***ไม่เคยเลื่อยท่อน่ะค่ะ ไม่ทราบคำตดบ
ขอให้หาคำตอบได้เร็วๆนะคะ
"เราใช้ความคุ้นเคยในการตัดสินว่าเป็นอย่างไร โดยที่เราไม่ได้ทดลองก่อน"
เรื่อยๆ ถึงไหนน๊อ ... น่าจะมาเล่า ให้ฟัง(อ่าน)ด้วยว่าในทำอะไรในสวนป่าฯ
ตอนนี้คุณยายและหลานๆ ถึงพัทยา โดยสวัสดิภาพ (จริงๆโดยรถยนต์พี่และรถทัวร์407 อ่ะนะ)