วัฒนธรรมความเกรงใจ


ผลของการพยายามเอาใจ(ทุก)คน

ถึงเวลาในการรับการประเมินอีกแล้ว  ในการทำงานตลอดเวลา 17 ปีของการเป็นลูกจ้างต้องรับการประเมินทุก 3 เดือนถึงเวลาไม่แน่ใจว่าจะได้อยู่หรือไป   เริ่มทำมาตั้งแต่ลูกคนโตขึ้นอนุบาลจนกระทั้งเข้ามหาวิทยาลัยปีที่ 3 ซึ่งคิดว่าก็อีกประมาณ 1 ปีก็จบ ก็ยังเป็นลูกจ้างเหมือนเดิมหากถูกออกจากงานลูกก็คงเรียนไม่จบทีนี้แหละจะทำอย่างไรก็คิดแบบนี้ทุกครั้งนะที่มีการประเมิน ก็เป็นคนที่ไม่สามารถเอาใจคนอื่นได้ทำไม่เป็นคิดอะไรก็พูดตามที่คิดอาจไม่ถูกหูของคนอื่นๆ  คิดอีกอย่างตอนที่มีโอกาสหางานไม่ไปสอบเพราะคิดว่าที่ทำอยู่ดีแล้ว ชอบงานแบบนี้มาดูอีกทีเป็นว่าเลยเวลามาแล้ว   เวลาเป็นสิ่งที่ผ่านแล้วผ่านเลยแต่ก็ยังแปลกที่หลายๆคนใช้เวลาไปกับการดูเวลา ซึ่งเวลาเป็นเรื่องของธรรมชาติที่เราไม่สามารถรีไซเคิลได้  นึกถึงขณะที่ทำงานมองดูหลายๆคน  บางคนอาจยอมเอาใจทุกคนทั้งๆที่รู้ผลลัพธ์ว่าจะออกมาแบบใหนก็ยังทำเลยทำให้เกิดเป็นวัฒนธรรมความเกรงใจ ซึ่งจริงๆแล้วเป็นดาบสองคม หากเราเกรงใจคนอื่นมากเกินไปอาจทำให้งาน ครอบครัว  หรือกิจกรรมอื่นๆที่เป็นภาระกิจจำเป็นเสียหายได้ แต่ถ้ามองอีกด้านหนึ่ง ความเกรงใจสามารถทำให้เราอยู่ร่วมกับคนในสังคม   เป็นไปด้วยการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันเราสามารถสร้างสรรค์ให้งานออกมาดีได้  หรืออาจทำให้เกิดการถอยหลังลงคลองได้เช่นกันใจของคนเราเหมือนเครื่องยนต์ เราต้องทำความสะอาดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องสม่ำเสมอ ถึงจะทำให้เครื่องยนต์นั้นวิ่งต่อไปได้       จากการศึกษาอาชีพที่มีการให้บริการหลายๆอาชีพ จะไม่ค่อยมีอาชีพใหนที่ประสบความสำเร็จจากการพยายามเอาใจคนอื่นได้ เพราะแต่ละคนมีความต้องการที่ไม่เหมือนกันจึงทำให้เกิดความอยากลำบากไม่มีที่สิ้นสุด เช่นเสื้อผ้า น้ำหอม หนังสือ หรืออื่นๆที่ผลิตออกมาต้องเอาใจคนหลายรูปแบบ  อย่างการเข้าร่วมกิจกรรมบางอย่างที่เราไม่ชอบ ทำไม่ได้แต่ความจำเป็นบังคับ อย่างที่ว่ากินเหล้าเพราะต้องเข้าสังคมไม่ไช้เพราะชอบ คนที่ไม่ชอบแต่ต้องทำให้กลายเป็นว่าต้องเข้าสังคมทุกวัน ถ้ากินอย่างอื่นเข้าสังคมได้ไหม    อันนี้ก็แล้วแต่บุคคล   มนุษย์เรานั้นมีมากมายหลายหมื่นล้านคน  เราไม่สามารถเอาใจใครได้ทุกคนหรือคนส่วนใหญ่ได้  ทว่าการไม่พยายามเอาใจทุกคน ไม่ได้หมายความว่าให้เอาแต่ใจตนเองฝ่ายเดียว    ความจริงใจ  ยอมรับความแตกต่างของคนอื่นและหาทางอยู่กับคนอื่นได้อย่างกลมกลืนจะเกิดความสำเร็จในการทำงาน  แต่ตั้งอยู่บนความเพียรพยายาม ความอึด  ความทรหด อดทน และทนอด การไม่ยอมแพ้  ชีวิตคนเรานั้นก็เหมือนดาวหาง มาวูบเดียว ไปวูบเดียว สามารถเพิ่มเติมเชื้อไฟให้คนได้ไฝ่ฝัน สว่างทั่วฟ้าทว่าวูบเดียว  แต่บางครั้งคนเรานั้นมักคิดว่าจะปล่อยให้มันดับไปเลยโดยที่ไม่คิดจะจุดมันให้สว่าง ก็แล้วแต่บุคคลหรือตัวเราเอง

หมายเลขบันทึก: 85196เขียนเมื่อ 20 มีนาคม 2007 12:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะครูตุ๊กตา  อ่านบทความแล้วรู้สึกอะไรบางอย่างแต่บอกไม่ได้ แต่การทำงานต้องอาศัยสติเข้าใจการทำงานเพราะเราอยู่ในสถานะเดียวกัน  ก็คงเป็นผ้าขี้ริ้วที่มีประโยชน์เพราะเราไม่ใช่ผ้าขี้ริ้วที่ไร้ค่า

" สติมาปัญญาเกิด  ปัญญาเตลิดปัญหามี " 

ยินดีมากค่ะที่เข้ามาทักทาย     ก็พยายามคิดนะว่า คุณค่าของคนก็เช่นคุณค่าของดอกไม้   มิได้อยู่ที่ระยะเวลาของความสด    แต่อยู่ที่ความทรงจำระหว่างที่มันยังสด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท