เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าพูดถึงเรื่องของทาน..... การให้ ทานแก่ผู้ปราศจาค ราคะโทสะ โมหะ ก็ย่อให้ผลดี ให้ผลมากกว่า
นาทั้งหลาย มีหญ้าเป็นโทษ
หมู่สัตว์นี้ก็มี ราคะ โทสะ โมหะ และความอยากเป็นโทษ
ฉะนั้นแล ทานที่ให้ แก่ผู้ปราศจาค ราคะ โทสะ โมหะ และความอยาก จึงมีผลมาก......
ศัตรู ของข้าวในนานั้น คือวัชพืช หรือต้นหน้า นั้นเอง ที่จะคอย รบกวนการเจริญเติบโตของข้าวในนา นี่เหละ นาข้าว จึงมีหญ้าเป็นโทษ ถ้ามีหญ้าเกิดขึ้นในนาข้าว ก็จะ เป็นโทษอย่างยิ่ง
เหล่ามนุษย์ก็เช่นเดียวกัน มี ราคะโทสะ โมหะ ความอยากเป็นโทษ ไม่ต่างอะไรกับข้าวในนาที่มีหญ้าเป็นโทษ กิเลสตันหาเหล่า นี้ เป็นตัวคอยฉุดรั้ง ชีวิตของมนุษย์ ไม่ต่างอะไรกับหญ้าที่ ฉุดรั้งการเจริญเติบโตของต้นข้าวในนา
เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าพูดถึงเรื่องของทาน..... การให้ ทานแก่ผู้ปราศจาค ราคะโทสะ โมหะ ก็ย่อให้ผลดี ให้ผลมากกว่า ผู้มีสิ่งเหล่านี้ ไม่ต่างอะไรกับการที่ เราหว่าน ปุ๋ย รดน้ำ ให้แก่ นาข้าวที่ปราศจาคหญ้า นาข้าวนั้นแล ย่อมเจริญเติบโตดีว่า ........และให้ผลที่ดีกว่าเช่นกัน
ท่านอื่นคิดเช่นไรกับพุทธพจน์นี้ครับ ......ช่วนกันตีความ.....