13 กุมภาพันธ์ 2550
วันนี้รู้สึกผิดมากที่ฝ่ายทันตกรรมเข้าคิวทำฟันปลอมไว้หนึ่งปีเต็ม ๆ ปรากฎว่าผู้ป่วยก็ยังรอคอยอยู่ สาเหตุที่รู้สึกผิดเพราะผู้ป่วยมีฟันเหลืออยู่เพียงขากรรไกรละ 4 ซี่ และอยู่คนละข้าง ดังนั้น เวลากัดฟันก็จะชนกับเหงือก ทำให้เจ็บเวลาเคี้ยวอาหาร เป็นการเข้าคิวที่ไม่ได้นึกถึงผลเสียที่จะเกิดกับผู้ป่วย แต่ตอนเข้าคิวก็คงคิดว่าอาจจะไม่นานมาก ผู้ป่วยมีประวัติเป็นโรคกระเพาะอาหารมาก่อนด้วย และปัจจุบันก็ยังมีอาการของโรคกระเพาะอาหารปรากฎอยู่
ผู้ป่วยใช้สิทธิประกันสังคม ซึ่งหากได้รับการรักษาในปีที่ผ่านมาก็จะเบิกได้หมด แต่ตอนนี้ก็จะเบิกได้เพียงบางส่วน ที่รู้สึกเศร้ามากก็คือผู้ป่วยบอกว่าผมไม่ค่อยมีเงิน คงจะจ่ายได้ในวันที่เบิกเงินเดือน ฉันตอบว่าไม่เป็นไร มีเมื่อไรก็ค่อยให้ นำมาจ่ายให้โรงพยาบาล ……. ก่อน แล้วจึงไปขอเบิกกลับจากประกันสังคม
ฉันถามว่าทำไมอดทนรอคอยได้นานมากขนาดนี้ เขาบอกว่า เขาเคยโทรศัพท์มาถามแล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่าเหลืออีก 3 หน้ากระดาษจึงจะถึงคิว เขาก็รอ และไม่ได้ถามอีกเพราะเกรงใจ
ผู้ป่วยมีอาชีพเป็นยามบริษัทแห่งหนึ่ง ฉันเลยถามว่า เขาทราบหรือเปล่าว่าสิทธิของผู้ป่วยประกันสังคมในเรื่องการทำฟันมีอะไรบ้าง เขาบอกว่า ไม่ทราบ นี่ก็เป็นจุดสำคัญ คือ ผู้ป่วยไม่สนใจเรียนรู้สิทธิของตนเองว่ามีอะไรบ้าง
ฉันจึงคิดว่าเราควรมีแนวทางที่กรุณาในการเข้าคิวทำฟันปลอม ดังนี้
1. คนไข้ที่มีฟันเหลือน้อยกว่า 5 ซี่ และไม่สามารถสบฟันบนและฟันล่างได้ ควรทำให้เป็นคิวเร่งด่วน
2. การเข้าคิวควรผ่านการพิจารณาจากทันตแพทย์ที่รับผิดชอบทำฟันปลอมโดยตรง เพื่อประเมินสภาพในช่องปาก และความเร่งด่วนของการได้รับบริการ
3. ควรบอกทางเลือกอื่น ๆ ให้ผู้ป่วยได้เลือก กรณีที่ต้องการทำฟันเร่งด่วน เพื่อจะได้ไม่ต้องรอนาน ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ
4. ควรติดประกาศสิทธิประโยชน์ของผู้ป่วยแต่ละประเภทเพื่อผู้ป่วยจะได้ทราบสิทธิประโยชน์ของเขา
เมื่อวานได้ใส่ฟันให้ผู้ป่วยแล้ว เรื่องเศร้าก็คือว่าเขากู้เงินมาด้วย (น่าจะบอกฉันก่อนหน้าที่จะเก็บเงินหมดแล้ว) อัตราดอกเบี้ยร้อยละยี่สิบต่อเดือน ฉันถึงกับน้ำตาตก เลยถือโอกาสบริจาคเงินให้เขาจำนวนหนึ่ง เผื่อจะช่วยเขาได้บ้าง
ก็ตั้งใจว่าผู้ป่วยน่าจะได้รับบริการที่ดีขึ้นกว่าเดิมค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกเศร้าตามไปด้วยจริงๆค่ะ และขออนุโมทนากับสิ่งที่คุณหมอหลองได้ทำไป และที่จะทำต่อไป เพื่อให้มีคนต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้ลดลงค่ะ
ชื่นชมในสิ่งดีๆที่คุณหมอหลองทำไปนี้เป็นอย่างยิ่งค่ะ และขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟัง เพื่อให้ได้รู้กันกว้างขวางเผื่อจะได้ช่วยให้คนอื่นๆลำบากน้อยลงนะคะ
ขอลอกความเห็นของคุณโอ๋ทั้งยวงเลยนะคะ
คนด้อยโอกาสที่พบ ส่วนมากจะขี้เกรงใจ ไม่เหมือนคนมีโอกาสทั้งหลาย
โชคดีเหลือเกินที่ได้รับรู้เรื่องนี้และรู้ว่ายังมีคุณหมอ ที่ใส่ใจกับความด้อยโอกาสนั้น
น่าจะมีกล่องบริจาคเรื่องค่าใช้จ่ายในการทำฟันสำหรับ ผู้ป่วยแบบนี้นะคะ ร้อยละยี่สิบต่อเดือน ไม่ใช่น้อยเลย ;(
เป็นกำลังใจให้ค่ะ