เมื่อวานนี้ (28 พ.ย.) ผมได้มีโอกาสติดตามคณะอนุกรรมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HR) ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไปดูงานด้าน HR ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ที่บริษัทแห่งนี้ได้มีการบริหารงานโดยใช้หลัก Balanced Scorecard (BSC) ที่เชื่อมโยง Vision/ Mission และ Strategy สู่ Results ที่ต้องการ 3 ด้านด้วยกัน คือ 1. CustomerValue (ลูกค้า) 2. People Value (พนักงาน) และ 3. Shareholder Value (ผู้ถือหุ้น) เป็นหลักการบริหารงานที่มุ่งการสร้างสมดุลระหว่างมุมมองด้านต่างๆ อันได้แก่ 1. Financial Perspective 2. Customer Perspective 3. Internal Process Perspective 4. Learning & Growth Perspective และ 5. Business Environment Perspective (ซึ่งเป็นมุมมองที่เพิ่มเติมขึ้นมาจาก 4 มุมมองตามหลัก BSC ที่ใช้กันทั่วไป)
การนำหลัก BSC มาใช้บริหารบริษัทแห่งนี้ ถือว่าได้ผลที่เป็นรูปธรรมดีมาก เพราะมีการแสดง KPI ไว้ในรูปแบบกราฟฟิค เหมือนกับ Cockpit Chart ที่อยู่ในเครื่องบิน ผู้บริหารสามารถติดตาม Perfornance ของบริษัทผ่านตัวชี้วัดเหล่านี้ มีการสร้างห้องบัญชาการ ลักษณะคล้ายกับ War Room ที่สามารถมองเห็นตัวชี้วัดทั้งหมดได้ สามารถเจาะลึก (drill down) ลงไปได้ถึง 3 ระดับ
ความสำเร็จของการ Implement ระบบการบริหารนี้อยู่ตรงที่ทางบริษัทสามารถบูรณาการเรื่องต่างๆ ได้อย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Strategy, Competency, OD, HRM และ HRD แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เป็นจุดเด่นก็คือ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมีความมุ่งมั่นต่อการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ได้แสดงภาวะผู้นำออกมาอย่างชัดเจน คือ เริ่มการเปลี่ยนแปลงที่ตนเองก่อนเป็นอันดับแรก ทำตัวเป็นแบบอย่าง (Role Model) เพื่อนำการเปลี่ยนแปลง
เรื่องแรงจูงใจ (Motivation) ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมเห็นว่าสำคัญมาก ภาคธุรกิจอาจจะ Motivate ด้วยเรื่องยอดขาด เรื่องกำไร เรื่องโบนัส สำหรับภาคราชการคงต้อง Motivate กันด้วยเรื่องพันธกิจ, Commitment และความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมเป็นหลัก...ทำอย่างไรให้ผู้ใหญ่ของหน่วยงานเห็นภาพใหญ่ เห็นภาพรวมของสังคมไทย เพื่อความขัดแย้งต่างๆ (ภายใน) จะได้หายไปครับ ....คงต้องหันมา "จับเข่า" คุยกัน ...แต่อย่าเผลอ "ฟันศอก" นะครับ