เรื่องนี้เจอถามมาบ่อยจริง อย่างนี้ล่ะครับ หน้าตาไม่อีสานแต่ออกไปทางไทเมืองกรุง เมื่อมาเขียนเรื่องนี้ออกไปก็เหมือนจะโกหก(อิอิอิ)โกเจ็ดเขาไป วันนี้เอางานผ้าไหมไปส่งที่โรงแรมก็เจอเจ้าของโรงแรมถามเช่นกัน
เอาเป็นว่านี่ไม่ใช่เผยความลับอย่างที่เล่น ๆ กันเพื่อสร้างมิตรภาพใน G2k นะครับแต่มาเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟัง ถือว่าเป็นหน้าประวัติก็แล้วกันนะครับ
ผมเกิดในบ้านนอกบ้านนา เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเมืองพล เดิมบ้านนี้ตั้งไม่เกินสองร้อยปีถือว่าเป็นบ้านใหม่ มีครัวเรือนไม่ถึงสองร้อย ดังนั้นอาจบอกว่าเป็นชุมชนเล็ก ๆ ก็ได้ครับ หากเดินทางจากขอนแก่นด้วยรถยนต์เราจะใช้เวลาราวชั่วโมงบนเส้นทาง ขอนแก่น-บ้านไผ่-เมืองพล
ชุมชนแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างที่ราบและที่ดอน ดังนั้นพี่น้องที่นี่จึงเป็นชาวนาและชาวสวน เรามีบึงน้ำติดหมู่บ้านสองแห่งและมีป่าชุมชนสองแห่ง ส่วนใหญ่ก็อาชีพทำนากันหลังฤดูทำนาก็ออกไปรับจ้างนอกหมู่บ้านและทำงานหัตถกรรม
งานหัตถกรรมที่ทำอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันคือการทอผ้า ผ้าทอที่นี่งดงามครับเป็นผ้าทอจากไหมด้วยเทคนิคมัดหมี่ คนทอที่นี่หลายคนเป็นช่างทอคือทองดงามมาก ดังนั้นคนที่นี่จึงมีอาชีพเสริมที่สร้างรายได้มากกว่าการทำนาเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว นำมาจุนเจือครอบครัว ส่งเสียนลูกหลานให้เรียนหนังสือ
ผมเป็นอีกหนึ่งผลผลิตของการทอผ้าส่งลูกเรียนของครอบครัว โดยทั้งพ่อและแม่สามารถทอผ้าเป็นทั้งคู่ และผมเองก็แวดล้อมไปด้วยช่างฝีมือหลายคนที่ผมแอบจดจำและลองทำจนพอมีวิชาติดตัวและพอที่จะทอผ้าได้
ตอนนี้ใคร ๆ ก็รู้ว่าเศรษฐกิจย่ำแย่โดยเฉพาะสินค้าจากหมู่บ้าน ราคาถูกประหนึ่งได้ฟรี ราคาผ้าทอก็เช่นกันเมื่อหักลบกลบหนี้ผไม่รวมค่าแรง)ก็ได้กำไรนิดหน่อยทั้งที่ใช้เวลาร่วมเดือนต่อกี่หูกหนึ่ง
ตอนนี้ผมเลยเปลี่ยนมาเป็นผู้ช่วยช่างทอ คือช่วยออกแบบลายผ้าใหม่ ๆ และช่วยเอาผ้าของช่างทอมาขาย โดยมีช่างทอที่ผมพอช่วยได้ห้าครอบครัว แต่ที่เหลือยังมีอีกหลายคนที่อยากให้ผมเป็นผู้ช่วย
เข้ามาทักทายค่ะ เห็นว่าทอผ้าตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ-คุณแม่แล้วใช่มะคะ เก่งจัง แถวนี้ไม่ค่อยมีผ้าทอแบบที่คุณออต ทอค่ะ มีแต่ผ้อทอเกาะยอ ว่างๆก็แวะลงมาเที่ยวบ้างนะคะ จะได้เอาผ้าทอของฝั่งทางโน้นมาขายแถวนี้บ้าง...อิอิ
หวัดดี ออต
อ่านประวัติออตแล้วเพลินดี เห็นภาพเลยแหละ......
น ่าสนใจนะ....ถือว่า ออต เป็นคนรุ่นใหม่ที่สืบงาน
ทอผ้าของชุมชน แล้วมีการประยุกต์ให้เหมาะสมกับยุค
สมัยอีก เกิดการเปลี่ยนแปลง....
แต่งานศิลปะแบบนี้ นับวันจะหายไป จริงๆ คนรุ่นออตที่ทอผ้าเป็น ไม่น่าจะมีเหลืออยู่เยอะหรอก...มันเป็นงานที่ใจจริงๆ
อ ย่างที่ออตว่าแหละ ...ราคาถูกประหนึ่งได้ฟรี
( ราคาผ้าทอก็เช่นกันเมื่อหักลบกลบหนี้
ไม่รวมค่าแรง)
ก็ได้กำไรนิดหน่อยทั้งที่ใช้เวลาร่วมเดือนต่อกี่หูกหนึ่ง
บางทีงานแบบนี้ ต้องอนุรักษ์ ทั้งคน ทั้งผลงาน ...
...........................
ดีๆ เขียนดีนะออต
น่าสนใจมากเลย เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคน ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม นะ ที่หมู่บ้านพี่ มีอยู่ เจ้าเดียวเอง...เลี้ยงไหม
เหมือนเลี้ยงลูกเลย ต้องหาอาหารให้ตลอด ...ป้าแกว่านะ เพราะ ชวนไปไหนที แกจะบอกว่า ต้องไปดู ตัวไหมก่อน ....