ความจริงที่ใคร ๆก็ถามมา


เรื่องเล่าของช่างทอผ้า

เหอๆ  หลายคราวแล้วที่โดนคำถามเมื่อเจอเพื่อนพ้องพี่น้องชาวขอนแก่นที่รู้จักเมื่ออ่านบล็อกแล้วมักถามคำถามว่า พี่ออต บ้านอยู่ไหนทำไมทอผ้าเป็น หรือไม่ก็ถามว่า  ถามจริงเถอะทอผ้าเป็นจริง ๆเหรอ หรือไม่ก็ บ้านอยู่ไหนทำไมทอผ้าได้

เรื่องนี้เจอถามมาบ่อยจริง อย่างนี้ล่ะครับ หน้าตาไม่อีสานแต่ออกไปทางไทเมืองกรุง เมื่อมาเขียนเรื่องนี้ออกไปก็เหมือนจะโกหก(อิอิอิ)โกเจ็ดเขาไป วันนี้เอางานผ้าไหมไปส่งที่โรงแรมก็เจอเจ้าของโรงแรมถามเช่นกัน

เอาเป็นว่านี่ไม่ใช่เผยความลับอย่างที่เล่น ๆ กันเพื่อสร้างมิตรภาพใน G2k นะครับแต่มาเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟัง ถือว่าเป็นหน้าประวัติก็แล้วกันนะครับ

ผมเกิดในบ้านนอกบ้านนา เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเมืองพล เดิมบ้านนี้ตั้งไม่เกินสองร้อยปีถือว่าเป็นบ้านใหม่ มีครัวเรือนไม่ถึงสองร้อย ดังนั้นอาจบอกว่าเป็นชุมชนเล็ก ๆ ก็ได้ครับ  หากเดินทางจากขอนแก่นด้วยรถยนต์เราจะใช้เวลาราวชั่วโมงบนเส้นทาง ขอนแก่น-บ้านไผ่-เมืองพล

ชุมชนแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างที่ราบและที่ดอน  ดังนั้นพี่น้องที่นี่จึงเป็นชาวนาและชาวสวน เรามีบึงน้ำติดหมู่บ้านสองแห่งและมีป่าชุมชนสองแห่ง ส่วนใหญ่ก็อาชีพทำนากันหลังฤดูทำนาก็ออกไปรับจ้างนอกหมู่บ้านและทำงานหัตถกรรม

งานหัตถกรรมที่ทำอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันคือการทอผ้า ผ้าทอที่นี่งดงามครับเป็นผ้าทอจากไหมด้วยเทคนิคมัดหมี่ คนทอที่นี่หลายคนเป็นช่างทอคือทองดงามมาก ดังนั้นคนที่นี่จึงมีอาชีพเสริมที่สร้างรายได้มากกว่าการทำนาเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว นำมาจุนเจือครอบครัว ส่งเสียนลูกหลานให้เรียนหนังสือ

ผมเป็นอีกหนึ่งผลผลิตของการทอผ้าส่งลูกเรียนของครอบครัว โดยทั้งพ่อและแม่สามารถทอผ้าเป็นทั้งคู่ และผมเองก็แวดล้อมไปด้วยช่างฝีมือหลายคนที่ผมแอบจดจำและลองทำจนพอมีวิชาติดตัวและพอที่จะทอผ้าได้

ตอนนี้ใคร ๆ ก็รู้ว่าเศรษฐกิจย่ำแย่โดยเฉพาะสินค้าจากหมู่บ้าน ราคาถูกประหนึ่งได้ฟรี ราคาผ้าทอก็เช่นกันเมื่อหักลบกลบหนี้ผไม่รวมค่าแรง)ก็ได้กำไรนิดหน่อยทั้งที่ใช้เวลาร่วมเดือนต่อกี่หูกหนึ่ง

ตอนนี้ผมเลยเปลี่ยนมาเป็นผู้ช่วยช่างทอ คือช่วยออกแบบลายผ้าใหม่ ๆ และช่วยเอาผ้าของช่างทอมาขาย โดยมีช่างทอที่ผมพอช่วยได้ห้าครอบครัว แต่ที่เหลือยังมีอีกหลายคนที่อยากให้ผมเป็นผู้ช่วย

นี่เป็นที่มาของชีวิตผมที่เกี่ยวข้องกับการทอผ้า ที่พอเล่าให้ฟังครับ

หมายเลขบันทึก: 81437เขียนเมื่อ 1 มีนาคม 2007 18:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

เข้ามาทักทายค่ะ เห็นว่าทอผ้าตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ-คุณแม่แล้วใช่มะคะ เก่งจัง แถวนี้ไม่ค่อยมีผ้าทอแบบที่คุณออต  ทอค่ะ มีแต่ผ้อทอเกาะยอ ว่างๆก็แวะลงมาเที่ยวบ้างนะคะ จะได้เอาผ้าทอของฝั่งทางโน้นมาขายแถวนี้บ้าง...อิอิ

เก่งจังเลยนะค่ะที่ทอผ้าเป็น....ตอนเด็กๆ ก็แอบไปทอผ้าที่บ้านคนข้างบ้านเค้าเผลอค่ะ....ผลคือ เส้นไม่เรียบร้อย ทำให้เค้าต้องแก้ไขค่ะ....แฮะๆๆ
minisock ขอบคุณครับสำหรับมิตรภาพที่เข้ามาทักทาย วันหลังเล่าเรื่องผ้าเกาะยอแลกกันดิครับ เพราะผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องผ้าของที่อื่นเลย แบบว่าไม่ค่อยได้ไปไหนนะครับ
เรียนอาจารย์ paew ตอนเด็ก ๆ เขาจะให้เริ่มทอจากฝ้ายครับเพราะว่าราคาถูกถึงแม้จะไม่เรียบบ้างก็ไม่เป็งไร แต่ถ้าทอไหมเนี่ยต้องมีทักษะระดับหนึ่งเพราะมันทำยาก ราคาแพง คราวหน้าจะเสนอหอศิลป์ให้เปิดหลักสูตรทอผ้าพื้นบ้าน อยากให้อาจารย์มาเรียนจังครับ
ขนาดเป็นผู้ช่วยช่างทอนะครับเนี่ย

เป็นผลผลิตของการทอผ้าส่งลูกเรียนของครอบครัว ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
นายบอนครับ แม่ออตส่งออตเรียนด้วยการทอผ้านี่ล่ะ จึงเป็นแรงส่วนหนึ่งที่อยากช่วยน้อง ๆ ในชุมชนให้ได้มีทุนเรียนหนังสือต่อไป ด้วยการสนับสนุนช่วยเหลือแม่ของเด็ก ๆ ให้ทอผ้าสวย ๆ ทุกครอบครัวที่ออตเป็นผู้ช่วยอยู่ตอนนี้ส่งลูกเรียนหนังสือทุกครอบครัวครับ เป็นความภูมิใจเล็ก ๆของออตเอง
ความภูมิใจเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่นะครับ เพียงการทอผ้าบวกกับหยาดเหงื่อแรงกาย ทำให้หลายคนได้รับรู้เรื่องราวดีๆ ผ่าน blog แห่งนี้อีกมากมาย ต้องขอบคุณ ผ้า ครับ
ขอบคุณนายบอนด้วยครับเป็นความภูมิใจเล็ก ๆจริง ๆ ถ้ามีแรงพอเด็ก ๆ จะต้องทอผ้าช่วยแม่ด้วย จะพยายามตั้งโรงทอให้เด็ก ๆ ให้ได้ครับ

หวัดดี ออต

  อ่านประวัติออตแล้วเพลินดี  เห็นภาพเลยแหละ......

น ่าสนใจนะ....ถือว่า ออต เป็นคนรุ่นใหม่ที่สืบงาน

ทอผ้าของชุมชน แล้วมีการประยุกต์ให้เหมาะสมกับยุค

สมัยอีก เกิดการเปลี่ยนแปลง....

  แต่งานศิลปะแบบนี้ นับวันจะหายไป จริงๆ คนรุ่นออตที่ทอผ้าเป็น ไม่น่าจะมีเหลืออยู่เยอะหรอก...มันเป็นงานที่ใจจริงๆ

อ ย่างที่ออตว่าแหละ ...ราคาถูกประหนึ่งได้ฟรี

ราคาผ้าทอก็เช่นกันเมื่อหักลบกลบหนี้

ไม่รวมค่าแรง)

ก็ได้กำไรนิดหน่อยทั้งที่ใช้เวลาร่วมเดือนต่อกี่หูกหนึ่ง

   บางทีงานแบบนี้ ต้องอนุรักษ์ ทั้งคน ทั้งผลงาน ...

...........................

ดีๆ เขียนดีนะออต  

ขอบคุณพี่หน่อยมากครับ ออตจะพยายามสร้างโรงทอให้คนรุ่นออตและน้อง ๆ สืบสานงานทอผ้าให้ได้ครับ ปีหน้าจะปลูกหม่อนเลี้ยงใหมครับขอบคุณสำหรับแนวคิด อนุรักษ์คน อนุรักษ์งาน มากครับ

น่าสนใจมากเลย เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคน ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม นะ  ที่หมู่บ้านพี่ มีอยู่ เจ้าเดียวเอง...เลี้ยงไหม

เหมือนเลี้ยงลูกเลย ต้องหาอาหารให้ตลอด ...ป้าแกว่านะ เพราะ ชวนไปไหนที แกจะบอกว่า ต้องไปดู ตัวไหมก่อน .... 

พี่หน่อยที่คิดถึง ต้นฤดูฝนออตจะลงต้นหม่อนราวสามงานเอาไว้เลี้ยงตัวหนอนไหม การเลี้ยงนี้ยากมากแม่เคยเลี้ยงและตายยกครัวเลย ช่วงนี้ออตก็ได้ไหมจะชาวบ้านในหมู่บ้านอื่น ๆ มาทอผ้า แต่ที่ชุมชนออตไม่มีคนเลี้ยงแล้วครับ ออตจะเลี้ยงให้ดู อิอิ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท