จากการที่ข้าพเจ้าได้เข้าร่วมประชุมสัมมนาทบทวนสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการส่งสัญญากู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และระบบการชำหระหนี้คืนกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาให้แก่บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาของมหาวิทยาลัยเพื่อให้มีความเข้าใจและปฏิบัติงานได้ถูกต้องตรงตามระเบียบ ณ ห้องแนะแนวฯ กองกิจการนิสิต ซึ่งก็มีผู้ประสานงานจากทุกคณะเข้าร่วมด้วยเช่นกัน โดยมีตัวแทนจากธนาคารกรุงไทยได้มาร่วมประชุมชี้แจงถึงแนวทางในการดำเนินงานของกองทุนกยศ. และกรอ. ประจำปี 2550 นี้ โดยปกติในช่วงเดือน ก.พ - มี.ค ของทุกปี จะมีการดำเนินการจัดทำสัญญาให้แก่นิสิตผู้กู้รายเก่านั้น ในปีการศึกษานี้ยังคงต้องรอนโยบายที่ชัดเจนจากรัฐบาล เนื่องจากว่ามีแนวโน้มในการที่จะนำการดำเนินงานของกยศ.และกรอ.มาหลอมรวมกัน และในขณะนี้ก็ยังไม่มีมติที่แน่ชัด ดังนั้น การจัดทำสัญญาเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาจึงต้องเลื่อนออกไปก่อน ความคิดในมุมหนึ่งของข้าพเจ้าคิดว่าถ้าหากมีการนำข้อดีของระบบการดำเนินงานของ 2 กองทุน (กยศ.และกรอ.) มารวมกันได้จิงๆ ก็น่าจะทำให้เกิดประโยชน์แก่นิสิตที่ประสบปัญหาขาดแคลนทุนทรัพย์อย่างมาก ส่วนตัวคิดว่าระบบการให้กู้ยืมน่าจะนำของกยศ. มาใช้ แต่ระบบการทวงหนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพน่าจะนำเอาระบบการทวงหนี้ของ กรอ. มาใช้ก็น่าจะช่วยรัฐบาลในการทวงหนี้กับลูกหนี้ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสามารถหักหนี้ได้จากหน่วยสรรพากร หากลูกหนี้มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่จะชำระหนี้ได้ แน่นอนว่าลูกหนี้ไม่มีทางที่จะสามารถหลีกเลี่ยงได้ง่าย ๆ เหมือนรุ่นก่อน ๆ นอกจากนี้ตัวแทนจากธนาคารกรุงไทยได้กล่าวคาดการณ์ไว้ว่า การดำเนินงานน่าจะอยู่ในรูปแบบของกยศ.ประมาณ 90 % และนำระบบการดำเนินงานของ กรอ. บางส่วนมาร่วมด้วย อีกทั้งยังแนะนำเว็ปไซด์ที่ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่เพื่อให้บริการแก่นิสิต (ลูกหนี้ในอนาคต และเป็นผลพลอยได้ของผู้ปฏิบัติงานด้านกยศ.ไปในตัวด้วย) www.studentloan.ktb.co.th ซึ่งสามารถดูยอดหนี้ของตัวเอง (นิสิต) ได้ หรือเจ้าหน้าที่กองทุนสามารถตรวจสอบข้อมูลจำนวนครั้งการกู้ ยอดหนี้ ซึ่งจะใช้เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน และวันเดือนปีเกิดของผู้กู้ ในการตรวจสอบข้อมูล และจะมีการพัฒนาเว็ปไซด์ให้สามารถพิมพ์สัญญาออนไลน์ในอนาคตได้ด้วย อันนี้ก็ต้องลองติดตามกันต่อไปนะค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้ายังคลางแคลงใจอยู่ว่าทำไมหนอนโยบายการดำเนินงานของกองทุนฯ ที่เป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้เยาวชนได้มีโอกาสทางการศึกษาเพียงน้อยนิดนี้ ถึงยังมีความไม่แน่นอน เป็นห่วงน้อง ๆ นิสิตที่ชะตาชีวิตการเรียนต้องขึ้นอยู่กับนโยบายที่ไม่ค่อยจะแน่นอน ปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ซึ่งหลายคนก็เริ่มกังวลเทอมต่อไปจะต้องกู้เงินนอกระบบมาสำรองจ่ายก่อนหรือไม่ ....
น่าน...ซิค่ะ พวกผู้ใหญ่ในบ้านในเมือง มัวทำอะไรกันอยู่ค่ะ
มัวแต่ทะเลาะกัน จนไม่ได้หันมาดูลูกน้อยตาดำๆ ของชาวบ้านผู้ยากไร้ในต่างจังหวัดกันบ้าง
จะเปิดเทอมใหม่อยู่แล้ว....
เอาดอกกุหลาบคืนมา...พวกถือปืน ขี่รถถังนั่นแหละ....ไม่น่าให้เล้ยยย....