ที่มาที่ไปโครงการแผนที่คนดี
“...ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วะสี :
ถ้าไปชวนใครเป็นภาคี สถาบันอะไรมาทดลองวิจัยกันสักหนึ่งตำบล
แล้วทำหมดทุกคนเลยทั้งตำบล ทั้ง ๕,๐๐๐ คน ทำข้อมูลว่าลุง
ป้า น้า อา แกเก่งอะไรบ้าง บางคนทำกับข้าวเก่ง
บางคนร้องเพลงเก่ง
บางคนทำอะไรเก่งนี้ถือว่าทุกคนเป็นคนเก่งหมด
แต่เก่งต่างกัน แล้วไปเอาข้อมูลมาทำระบบข้อมูลคือ
ต้องไปเรียนรู้ว่ามันทำยังไงวิธีนี้ ถ้ามันทำได้
แล้วมีระบบข้อมูลของคนทุกคนในตำบลคนเหล่านั้นก็จะภูมิใจมาก
มันจะเปลี่ยนไปเลย เพราะเขาไม่เคยมีเกีย รติ ชาวบ้านไม่เคยมีเกียรติ
เขาจะกลายเป็นคนมีเกียรติ ว่าสิ่งที่เขารักเขาชอบ เขาทำขนมเก่ง
เขาแต่งเพลงเก่ง เขาแก้ความขัดแย้ง หรืออะไรก็ได้ ทุกคนเป็นคนเก่งหมด
ทำระบบข้อมูล electronic เลย
ผมว่ามันจะเปลี่ยนความรู้สึกนึกคิดของคนตรงนี้แล้วมันเป็นศีลธรรมพื้นฐาน
ศีลธรรมพื้นฐานหมายถึง เคารพศักดิ์ศรี
คุณค่าความเป็นคนของทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน การเคารพความรู้
ที่มีอยู่ในตัวเขานี่
ผมคิดว่ามันเป็นศีลธรรมพื้นฐานเพราะเราไม่เคยเคารพสิ่งนี้
เราเคารพแต่คนชั้นสูง คนข้างล่างไม่เคยมีเกียรติ คนขายก๋วยเตี๋ยว
เขาไม่เคยมีเกียรติ แต่จริงๆ เขามีเกียรติ
เขาขายก๋วยเตี๋ยวเป็นเขาทำก๋วยเตี๋ยวเป็น ครูยังทำไม่เป็นเลย
ถ้าทำได้สักตำบล คือเรียนรู้วิธีทำไป
อันนี้จะไปเป้าของอาจารย์วิจารณ์และต่อไปพอมันมีอย่างนี้
แล้วมีคนเอาอย่าง หนักเข้านี่ทำทุกตำบล คือทั่วประเทศไทย คนทั้งประเทศ
กลายเป็นคนมีเกียรติไปหมด
ต่อไปมันจะเปลี่ยนเป็นเรื่องศีลธรรม
เรื่องอะไรนี่จะเปลี่ยนเพราะคนทุกคนมีเกียรติหมด มันก็อยากทำดี
ถ้าคนถูกบีบคั้น ไม่มีทางออก ไม่มีเกียรติเลย ไม่มีศักดิ์ศรีเลย
มันทำอะไรก็ได้ อย่างนั้นน่ะ แล้วก็ตัวความรู้ที่มีอยู่ในตัวคน
มันก็จะเข้ามา แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันแล้วจะมีแหล่งเรียนรู้ เยอะเชียว
เต็มไปหมดเลย"
ถอดความจากการประชุมกรรมการมูลนิธิโรงเรียนรุ่งอรุณเมื่อวันพุธที่
๘ มิถุนายน ๒๕๔๘