เรื่องราวที่ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ

คุณหมอคะบอกพ่อแม่หนูหน่อยอย่าจับพี่เขาเข้าคุกนะคะ หนูสงสารเขา

เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ได้เห็น  ได้ยิน ได้รับรู้ถึงสถานการณ์และสภาพปัญหา      วันหนึ่งของเดือน ตุลาคม 2547 เวลาเกือบ2ทุ่ม พ่อกับแม่ของเด็กหญิงวัย14ปี มาที่โรงพยาบาลพร้อมกับใบบันทึกแจ้งความจากสถานีตำรวจประจำอำเภอ บอกเจ้าที่เวรว่าลูกสาวถูกรุ่นพี่ชั้นม.6ล่อลวงกระทำชำเรา ขอให้โรงพยาบาลตรวจร่างกายและตรวจชันสูตรเพื่อนำผลการตรวจไปดำเนินคดี พยาบาลพูดคุยกับเด็กได้ข้อมูลว่า “รุ่นพี่ชวนไปวันเกิด ที่จัดขึ้นที่บ้านของรุ่นพี่ซึ่งในบ้านไม่มีพ่อ-แม่อยู่ด้วย เพราะพ่อ-แม่ไปทำงานที่กทม.ประกอบกับหนูก็รู้สึกดีๆกับพี่เขาด้วย แต่หนูก็ได้ชวนเพื่อนไปด้วยคนหนึ่ง แต่ตอนเกิดเรื่องเพื่อนของรุ่นพี่ได้ชวนเพื่อนหนูไปซื้อเค้ก หนูก็เลยต้องอยู่กับพี่เขาแค่สองคน    เขาเข้ามากอดหนูหอมแก้มหนูและขอให้หนูเป็นของเขา เขาบอกว่าเขารักหนูมากถ้าหนูไม่ยอมแสดงว่าหนูรังเกียจเขา หนูก็เลยต้องยอมเพราะหนูก็ชอบพี่เขาเหมือนกัน  คุณหมอบอกพ่อ-แม่หนูหน่อย อย่าจับพี่เขาเข้าคุกนะหนูสงสารเขา”การดูแลทางการแพทย์ เด็กหญิงคนนั้น ได้รับการตรวจร่างกาย ตรวจเลือด ทานยาคุมฉุกเฉิน ต่อมาเด็กหญิงคนนั้นต้องย้ายโรงเรียน รุ่นพี่ผู้ชายคนนั้นก็ต้องเข้าสถานพินิจฯ

[ลาภ]

• อ่านแล้วเศร้าจังเลยค่ะ สงสารพ่อกับแม่เด็กนะคะ..
• ภาพโฆษณาสะเทือนใจที่ลูกรักทำร้ายจิตใจพ่อแม่ด้วยการท้องก่อนเวลาอันควร ลอยเข้ามา..
• ตามด้วยคำถามที่ว่า เราควรจะเลี้ยงลูก (สาว) อย่างไรในยุคนี้..

[อ้น]

นี่ก็เป็นภาพสะท้อนอีกหนึ่งว่าสังคมไทยของเราตอนนี้เป็นอย่างไร เยาวชนของเรามีความรู้สึกนึกคิดเช่นไร ใครควรมีส่วนรับผิดชอบในการแก้ปัญหาที่สำคัญนี้อย่างเร่งด่วน เพราะเด็กคืออนาคตที่สำคัญของชาติ การที่จะโทษตัวเด็ก หรือ ผู้ปกครองนั้นไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาได้มากนัก หากแต่ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ปัญหาหลายๆ ด้านแล้ว ผมคิดว่าปัญหาก็น่าจะลดลงได้ในระดับหนึ่งครับ