กรุณาอย่าเผลอใจต่อการหว่านล้อมของนักขายตรง : ความเดือดร้อนของผู้บริโภคในแบบสมยอม
เคยเข้าถึงความรู้สึกของผู้ซื้อบ้างหรือไม
หลายคนเคยพบกับนักขายตรง เดินเข้ามาแนะนำสินค้าถึงตัว ถึงบ้าน พร้อมเอกสาร แผ่นพับมานำเสนอครบชุด
พวกเขาเดินเข้ามาแนะนำสินค้า พร้อมกับการพูดจาหว่านล้อมให้เป้าหมายใจอ่อน จากการจับจุดจากนิสัยขี้เกรงใจของคนไทย
ความเกรงใจแบบนี้ ทำให้ผู้บริโภคหลายท่านเดือดร้อน ทั้งจากการจองสินค้า จ่ายเงินมัดจำแล้วไม่ได้รับสินค้านั้น, หรือการได้ของไม่ครบ, สินค้านั้นไม่มีคุณภาพตามที่มาโฆษณาไว้
คิดๆดูแล้ว การไปซื้อสินค้าที่เห็นของจริงจากร้านค้าต่างๆที่มีอยู่มากมาย น่าจะดีกว่า มีโอกาสได้เลือกสินค้าตามความต้องการของตัวเอง ไม่ต้องมาเสี่ยงดวงจากการซื้อสินค้าขายตรงแบบนี้
ในการอบรมนักขายตรงนั้น มีการให้คำแนะนำ วิธีการปิดการขายกับลูกค้าในแบบต่างๆ จนเป็นเทคนิคทางการขายที่หลายคนนำมาใช้หว่านล้อมลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเพื่อดึงดูดเงินในกระเป๋ามานักต่อนักแล้ว
- มีผู้เคยให้คำแนะนำว่า ยิ่งคุณฟังนักขายตรงนานแค่ไหน โอกาสที่คุณจะซื้อสินค้ายิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
- เพราะพวกเขาจะหาทางปิดการขายกับคุณให้ได้
- การปฏิเสธการซื้อทันที จะทำให้คุณเดือดร้อนน้อยกว่า ทั้งการที่ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อสินค้า ไม่ต้องเสียเวลาอันมีค่าในการทำงานอย่างอื่น
- สินค้าที่เราไปเลือกซื้อตามร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ยังเลือกแล้วเลือกอีก แล้วสินค้าจากการขายตรง ที่ไม่มีโอกาสได้เห็นของจริง จะมั่นใจในมาตรฐานของสินค้าได้มากน้อยแค่ไหน
หยิบยกประเด็นขึ้นมาแบบนี้ อาจจะโดนทักท้วงว่า ไม่ส่งเสริมให้คนมีงานทำหรืออย่างไร แล้วคนที่ทำอาชีพยี้ จะอยู่ได้อย่างไรล่ะ
ในความเป็นจริงแล้ว ถ้านักขายตรงมีวาทศิลป์ รู้หลักการขายแล้ว ย่อมสามารถไปประกอบอาชีพอื่นๆได้มากมาย หากมีความขยัน มุมานะ ไม่ท้อถอย ยังไงคุณก็ไม่ตกงานแน่นอน
มีงานอีกมากมายที่ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค หลายครั้งที่การขายตรง นักขายสามารถปิดการขายได้พร้อมกับความสำเร็จและรอยยิ้มของคุณในวันนั้น
แต่เคยเข้าถึงความรู้สึกของผู้ซื้อบ้างหรือไม่ หากสินค้าชิ้นนั้น ไม่มีคุณภาพเพียงพอ ผู้ซื้อไม่ประทับใจ ในวันข้างหน้า สินค้าของคุณย่อมจะขายได้ยากขึ้นเรื่อยๆ....
ดังนั้น ผู้ซื้อควรจะต้องพิจารณาด้วยตัวของคุณเองแล้วล่ะครับ
พวกเขาเดินเข้ามาแนะนำสินค้า พร้อมกับการพูดจาหว่านล้อมให้เป้าหมายใจอ่อน จากการจับจุดจากนิสัยขี้เกรงใจของคนไทย
ทำให้หลายคนต้องซื้อสินค้าเหล่านั้น ทั้งๆที่ไม่ต้องการซื้อด้วยซ้ำ
บางท่านซื้อเพราะตัดความรำคาญ คนชายตรงจะได้หยุดพูดและกลับไปเสียที , หลายคนซื้อเพราะความขี้เกรงใจ
ความเกรงใจแบบนี้ ทำให้ผู้บริโภคหลายท่านเดือดร้อน ทั้งจากการจองสินค้า จ่ายเงินมัดจำแล้วไม่ได้รับสินค้านั้น, หรือการได้ของไม่ครบ, สินค้านั้นไม่มีคุณภาพตามที่มาโฆษณาไว้
คิดๆดูแล้ว การไปซื้อสินค้าที่เห็นของจริงจากร้านค้าต่างๆที่มีอยู่มากมาย น่าจะดีกว่า มีโอกาสได้เลือกสินค้าตามความต้องการของตัวเอง ไม่ต้องมาเสี่ยงดวงจากการซื้อสินค้าขายตรงแบบนี้
ในการอบรมนักขายตรงนั้น มีการให้คำแนะนำ วิธีการปิดการขายกับลูกค้าในแบบต่างๆ จนเป็นเทคนิคทางการขายที่หลายคนนำมาใช้หว่านล้อมลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเพื่อดึงดูดเงินในกระเป๋ามานักต่อนักแล้ว
แล้วผู้บริโภคล่ะ มีใครมาให้คำแนะนำในการรับมือกับนักขายตรงหรือไม่
- มีผู้เคยให้คำแนะนำว่า ยิ่งคุณฟังนักขายตรงนานแค่ไหน โอกาสที่คุณจะซื้อสินค้ายิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
- เพราะพวกเขาจะหาทางปิดการขายกับคุณให้ได้
- การปฏิเสธการซื้อทันที จะทำให้คุณเดือดร้อนน้อยกว่า ทั้งการที่ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อสินค้า ไม่ต้องเสียเวลาอันมีค่าในการทำงานอย่างอื่น
- สินค้าที่เราไปเลือกซื้อตามร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ยังเลือกแล้วเลือกอีก แล้วสินค้าจากการขายตรง ที่ไม่มีโอกาสได้เห็นของจริง จะมั่นใจในมาตรฐานของสินค้าได้มากน้อยแค่ไหน
หยิบยกประเด็นขึ้นมาแบบนี้ อาจจะโดนทักท้วงว่า ไม่ส่งเสริมให้คนมีงานทำหรืออย่างไร แล้วคนที่ทำอาชีพยี้ จะอยู่ได้อย่างไรล่ะ
ในความเป็นจริงแล้ว ถ้านักขายตรงมีวาทศิลป์ รู้หลักการขายแล้ว ย่อมสามารถไปประกอบอาชีพอื่นๆได้มากมาย หากมีความขยัน มุมานะ ไม่ท้อถอย ยังไงคุณก็ไม่ตกงานแน่นอน
มีงานอีกมากมายที่ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค หลายครั้งที่การขายตรง นักขายสามารถปิดการขายได้พร้อมกับความสำเร็จและรอยยิ้มของคุณในวันนั้น
แต่เคยเข้าถึงความรู้สึกของผู้ซื้อบ้างหรือไม่ หากสินค้าชิ้นนั้น ไม่มีคุณภาพเพียงพอ ผู้ซื้อไม่ประทับใจ ในวันข้างหน้า สินค้าของคุณย่อมจะขายได้ยากขึ้นเรื่อยๆ....
ความจริงแล้ว สินค้าในธุรกิจขายตรงที่ดี มีคุณภาพมีอยู่มากมาย แต่การแข่งขันและคุณภาพการบริการของนักขายตรงหลายคน ยังไม่ดีเท่าที่ควร
ดังนั้น ผู้ซื้อควรจะต้องพิจารณาด้วยตัวของคุณเองแล้วล่ะครับ
หมายเลขบันทึก: 75924เขียนเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2007 12:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 16:22 น. () สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (4)
ถ้าพวกขายตรงที่ทำเป็นกิจการอย่างดี ก็พอเข้าใจนะคะ
แต่พวกที่เดินบุกถึงที่ทำงาน แล้วพูดไม่กิ่คำ แล้วจะจดชื่อเราเป็นผู้จองท่าเดียวนี้ก็แย่เหมือนกันนะคะ บางทีก็ดูเค้าก้คงเหนื่อยเหมือนกัน น่าเห็นใจ แต่บางทีก็รำคาญอยู่เหมือน เพระเวลาที่เค้ามาเค้าชอบมาตอนเราทำงาน และบุกถึงห้องทุกที เก่งมากๆ เลย
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ
เห็นด้วยกับการปฏิเสธการซื้อตั้งแต่คนขายเริ่มเสนอขายค่ะ เพราะว่าคนขายคงจะเกรงใจคนซื้อนะค่ะ ถ้าปโสธไปตั้งแต่แรกก็เหมือนการปิดประตูไม่รับแขก ตัดปัญหาไปได้เลยค่ะ
