แนะนำ web ช่วยเขียนภาษาอังกฤษ collocation
Collocation คือการผสมคำในลักษณะที่นิยมใช้กันในภาษานั้นๆ เช่น วันหนึ่งลมพัดแรงมาก เพื่อนผมซึ่งเป็นคนจีนเขาบอกว่า big wind เราฟังก็เข้าใจ แต่เป็นคำที่เจ้าของภาษาเขาไม่ใช้กัน
เจ้า dict แบบ collocation นี่ก็จะช่วยบอกเราว่าคำไหนที่นิยมใช้คู่กับคำไหนบ่อยๆ เช่นคำว่า knowledge ก็จะมีคำที่นิยมใช้คู่กันคือ considerable, great, vast, comprehensive, sound, thorough, detailed, broad, extensive, inside, common, factual, practical, up-to-date เป็นต้น ทำให้เวลาเราเขียนประโยคมีความหลายหลากมากขึ้น และช่วยสร้าง idea ในการเขียนด้วย ซึ่งก็ดีกันคนละแบบกับ thesaurus
ไม่ทราบว่าเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนหรือเปล่านะครับ คือผมพบว่า Collins Cobuild Dictionary เจ้าเก่าที่ผมใช้เป็นสรณะ เขาได้เปิดบริการ collocation บน web ด้วย นอกจากนี้ยังมี Corpus popup ตัวอย่างประโยคที่ใช้ด้วย โดยเลือกลักษณะการผสมคำได้ตามที่เราต้องการ เพื่อที่จะได้เช็ครูปแบบประโยคที่เราเขียนว่าถูกต้องไหม ลองใช้ดูได้ครับที่
http://www.collins.co.uk/Corpus/CorpusSearch.aspx
ความเห็น (8)
- ขอบคุณข้อมูลดี ๆ ที่มีมาให้ค่ะ
ใครก็ได้ช่วยเขียนบทความข้างนี้เป็นภาษาอังฤกษให้หน่อยได้ไหมคะ
ถ้าได้ช่วยเขียนเป็นภาษาอังกฤษและส่งกลับมาที่ เมล์ [email protected] ขอบคุณมากนะคะ
ถ้าจะพูดถึงวันแห่งความรักคงต้องเป็นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันที่ทุกคนจะได้เห็นรอยยิ้มและดอกกุหลาบสีแดงและไม่ว่าจะมองไปที่แห่งไหนก็จะมีแต่กลีบดอกกุหลาบสีแดงและกลิ่นไอของความรักที่คน 2 คนมอบให้กัน ปีนี้ฉันอยากจะมอบความรู้สึกดีๆให้กับคุณ เวลาที่เราได้รู้จักกัน คุณอาจจะสัมผัสไม่ได้ว่าฉันมีความรู้สึกดีๆให้กับคุณ ในวันแห่งความรักปีนี้ ฉันก็อยากจะบอกคุณว่า ฉันชอบคุณ ในสายตาของคุณ ฉันอาจจะเป็นได้แค่ลูกศิษย์หรืออาจเป็นได้แค่คนที่คุณรู้จักในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ที่ฉันสารภาพกับคุณในวันนี้ ฉันไม่ได้ต้องการที่จะครอบครองคุณ ฉันแค่อยากให้คุณได้รับรู้ความรู้สึกดีๆที่ฉันมีต่อคุณ ถึงแม้ว่าความรู้สึกดีๆที่ฉันมอบให้คุณจะไม่ได้รับการตอบรับ แต่ฉันก็ดีใจวันนี้ฉันกล้าที่จะสารภาพกับคุณ (ถึงแม้จะเป็นทางอีเมล์ก็ตาม) และไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไงมิตรภาพของเราก็จะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง สุดท้ายนี้ วันแห่งความรักปีนี้ ฉันก็ขอให้คุณมีความสุขพบเจอแต่สิ่งดีๆ
วิธีการแนะนำง่ายๆเลยค่ะ คือการใช้คำ หรือสำนวนที่ถูกต้องหรือใกล้เคียงที่สุดหรือใช้กันสากลในภาษานั้นๆ คือจากที่ตัวเองทำอยู่เนื่องจากว่าตรวจสอบได้เร็วคือ การที่เขียนคำหรือประโยคนั้นที่ต้องการ คุณจะพบว่าเมื่อค้นหาแล้วจะมีการใช้คำหรือสำนวนนั้นอย่างไรในเว็ปที่ลงประกาศ โฆษณาและเผยแพร่
หากจะตรวจสอบได้อย่างเป็นทางการขึ้น ก็โดยการเข้าไปในเรื่องเฉพาะ แต่การใช้พจนานุกรมทำให้ได้ตัวอย่างที่คุณไม่ต้องตรวจสอบหรือเพียงเลือกใช้ถ้าหากใช้ได้หลายแบบ เราจะสามารถเรียนรู้ได้อีกว่าประโยคแบบไหนไพเราะ ถ้าหากคุณมีพื้นฐานแล้วก้สบายมาก การใช้แสลงก็อีกแบบ
สำหรับตัวเองจะศึกษาอยู่เนืองในเรื่องภาษา ได้หน้าลืมหลังก็มี สนุกดี แต่ในอาชีพต้องห้ามผิดเลย หนึ่งคำหรือหนึ่งประโยคอาจเป็นที่ไม่พอใจของลูกค้าได้ ....
ใครก็ได้ช่วยเขียนบทความนี้เป็นภาษาอังกฤษให้หน่อยได้มั้ยคะ จะเป็นพระกรุณาอย่างสูงเลยค่ะ
ถ้าเขียนได้รบกวนส่งมาที่ [email protected] ขอบคุณมากค่ะ
ชายฝั่งทะเลของประเทศไทยครอบคลุมพื้นที่ 23 จังหวัด ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามันมีความยาวประมาณ 2,815 กิโลเมตร เป็นแหล่งทรัพยากรที่มีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ วิถีชีวิต การประกอบอาชีพ วัฒนธรรมประเพณี การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ระบบนิเวศที่สำคัญ แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของกระแสคลื่น ลม ระดับน้ำทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกิจกรรมการใช้ประโยชน์ที่ดิน การพัฒนาพื้นที่ของประชาชนตามแนวชายฝั่งที่ไม่เหมาะสม อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พื้นที่บริเวณชายฝั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่จะทำให้เกิดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทั้งด้านอ่าวไทยและอันดามัน โดยที่ฝั่งอ่าวไทยจะมีระดับความรุนแรงที่มากกว่า กล่าวคือ มีชายฝั่งที่ถูกกัดเซาะ 376.16 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 22.11 ของพื้นที่ชายฝั่งทั้งหมด ในขณะที่ชายฝั่งด้านอันดามัน มีชายฝั่งที่ถูกกัดเซาะยาว 111.4 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 11.77 ของพื้นที่ชายฝั่งทั้งหมด ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นนอกจากทำให้เกิดความสูญเสียต่อทรัพย์สิน ที่ดิน ระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ และสิ่งปลูกสร้างแล้วยังมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง ได้แก่ ชายหาด เนินทราย ป่าชายเลน และป่าชายหาด รวมทั้งทัศนียภาพที่สวยงาม ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม ระบบนิเวศชายฝั่งทะเล และทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่สำคัญอีกด้วย
จากผลกระทบดังกล่าวข้างต้น จังหวัดจันทบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้ จังหวัดจันทบุรีนั้นตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของอ่าวไทย ถือเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการกันอย่างเนืองแน่นโดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนเมษายนของทุกปี นักท่องเที่ยวจะมาพักผ่อนตามสถานที่ธรรมชาติที่สำคัญซึ่งทำรายได้ให้กับจังหวัดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณหาดเจ้าหลาวและหาดแหลมเสด็จ ที่ในช่วงเทศกาลจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากถึงร้อยละ 90 ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักในจังหวัดจันทบุรี เนื่องจากมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบเชิงเขาและติดชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และมีแหล่งปะการังที่เหลืออยู่ในชายฝั่งทะเลของจังหวัดเพียงแห่งเดียว จึงเหมาะสำหรับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อจังหวัด ประกอบกับในช่วงระยะ 4-5 ปีหลัง ได้มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่นี้มากขึ้น ส่งผลให้มีการก่อตั้งร้านค้า โรงแรม รีสอร์ท เพิ่มมากขึ้นตามมาเป็นลำดับ
ปัจจุบันหาดเจ้าหลาวและหาดแหลมเสด็จนั้นมีอัตราการกัดเซาะปานกลาง คือ 1-5 เมตรต่อปี และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากการส่งเสริมนโยบายด้านการท่องเที่ยว ดังที่ได้กล่าวข้างต้น ส่งผลกระทบต่อประชาชนในท้องถิ่นซึ่งจากการติดตามข่าวสารที่ผ่านมาทำให้ทราบว่า การแก้ไขปัญหาการกัดเซาะบริเวณหาดแหลมเสด็จเคยมีความล้มเหลวในการสร้างโครงสร้างป้องกันชายฝั่งเพื่อป้องกันการกัดเซาะมาแล้วโดยโครงสร้างที่ได้ทำการสร้างขึ้นนั้นเกิดการพังทลาย ส่วนชายหาดเจ้าหลาวเนื่องจากปัญหาการกัดเซาะที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นส่งผลให้มีการหาวิธีการแก้ไขที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงเป็นเหตุให้มีแต่จะเพิ่มปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มมากขึ้น ซึ่งไม่มีรายงานการศึกษาการมีส่วนร่วมของประชาชนในแต่ละขั้นตอนการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ จะเห็นได้ว่า การแก้ไขที่ผ่านมานั้นเป็นการเน้นที่รูปแบบและผลผลิตมากกว่ากระบวนการ และเป็นการแก้ปัญหาแบบเบื้องบนลงสู่เบื้องล่าง (top-down) ขาดการคำนึงถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของชุมชนหรือประชาชนผู้เป็นเจ้าของปัญหา
ดังนั้น เพื่อป้องกันการทำกิจกรรมในพื้นที่อย่างขาดความระมัดระวัง ไม่คำนึงถึงศักยภาพของพื้นที่ ส่งผลต่อการกัดเซาะชายฝั่ง จึงมีความจำเป็นที่เราควรมีการศึกษาอย่างเร่งด่วน เพื่อหาแนวทางการจัดการ มาตรการในการฟื้นฟู และรักษาแนวชายฝั่งทะเลทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อรองรับการพัฒนาชายฝั่งที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ให้กลับเข้าสู่ภาวะสมดุลใหม่ ที่มีผลกระทบในระดับที่สามารถควบคุมได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ด้วยเหตุนี้ ทำให้ผู้ศึกษามีความสนใจที่จะทำการศึกษาถึงแนวทางการจัดการปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งเพื่อให้มีความสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ ซึ่งนอกจากจะต้องดำเนินการตามหลักวิชาการด้วยการคำนึงถึงความรู้ ความเข้าใจในการแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง และฟื้นฟูชายหาดจากหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบแล้ว วิธีการที่เหมาะสมอีกวิธีหนึ่งคือการได้รับความร่วมมืออย่างจริงจังจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง (Stakeholder) ในท้องถิ่นซึ่งตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่ใกล้ชิดกับชายหาดให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหานับว่ามีความสำคัญยิ่ง ซึ่งการมีส่วนร่วมนอกจากจะเป็นการพัฒนาคนในด้านการตอบสนองความต้องการแล้วยังสามารถสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของ ความรู้สึกผูกพันและเป็นการสร้างความรับผิดชอบให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนอีกด้วย
รับแปลเอกสาร 0817681491