บ้านของดิฉันอยู่ติดถนนด้านหนึ่ง ที่เหลืออีกสามด้านเชื่อมติดกับเพื่อนบ้าน ดิฉันอยู่ในดงไก่….. ไก่ชน รอบบ้านดิฉันล้วนเป็นผู้ที่พิสมัยการเลี้ยงไก่ชน ทั้งเลี้ยงเพื่อไปชน และเลี้ยงเพื่อแก้เครียด เป็นงานอดิเรก รวมถึงบางครั้งก็เป็นอาหารมื้อเย็น สังสรรค์กับเพื่อน ๆ
เช้าเย็นก็จะพากันดูแลไก่อย่างดี บางวันก็มีเพื่อน ๆ มาคุยกันเป็นนานสองนาน คุยไป ดูไก่ไป บางทีก็ได้ยินเสียงเชียร์ไก่ข้างตัวเองดังลั่น ลองตีไก่ดูเชิงก่อน ยกเล็ก ๆ บางคนไปทำงานแล้ว ช่วงกลาง ๆ ก่อนเที่ยงแวะมาดูไก่ที่บ้าน แล้วค่อยกลับไปทำงานอีกทีก็มี
พวกเขาก็คงบ้า เหมือนที่ดิฉัน บ้าปลูกต้นไม้ บ้าขยะ และอีกหลาย ๆ เรื่อง ถ้าเป็นเมื่อก่อนดิฉันก็จะไม่ได้สนใจเรื่องไก่ และคงไม่ชอบเพราะคิดว่า การชนไก่เป็นเรื่องการพนัน ทรมานสัตว์ ดิฉันเถรตรง เรื่องการพนัน การดื่มเหล้า เรื่องอบายมุข ตอนหลังมาดิฉันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เปลี่ยนแปลงไป ไม่รุนแรง ไม่เถรตรง
ดิฉันได้ฟังอาจารย์อภิชัย รัตนวราหะ ย้ำหนักแน่นว่า ไก่พื้นบ้านของไทยเรานี้ที่มีการพัฒนาพันธุ์มาจนถึงปัจจุบันนี้ส่วนหนึ่งเนื่องมาจาก ความหลงใหล ความรัก ความพิศมัยในการเลี้ยงไก่ชนของชาวบ้านนั่นเอง ที่ช่วยให้การพัฒนาพันธุ์เป็นไปในวิถีชีวิต ทำเนื่องด้วยความรัก ซึ่งการพัฒนาพันธุ์ในระบบ ตามหลักวิชาการจะไม่สามารถสร้างสรรค์ได้มากขนาดนี้ พวกเราเป็นหนี้บุญคุณชาวบ้านที่รักการเลี้ยงไก่ชน รักการชนไก่ กีฬาชนไก่ก็เป็นการนันทนาการอย่างหนึ่งของชาวบ้าน เป็นวีธีการผ่อนคลาย อารมณ์......ข้อมูลนี้ได้เปิดมุมมองของดิฉันให้ได้เห็นอีกแง่มุมหนึ่ง ความหมาย ความสำคัญในอีกด้านหนึ่งของผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนไก่ และเลี้ยงไก่
จะว่าไปแล้วประชาชนมักจะไม่มีทางเลือกมากนัก ไม่ว่าจะเป็นการเสพศิลป บันเทิง ประเพณีวัฒนธรรม มักจะได้รับสิ่งที่ถูกออกแบบมาแล้วมายัดเยียดให้เสพอยู่เป็นนิจในหลายเรื่อง แม้แต่เรื่องที่เป็นประเพณี หรือกิจกรรมที่เป็นของประชาชนมาแต่เดิม หากการจัดการหลุดจากมือประชาชนไปแล้วก็มักจะถูกนำไปสร้างเปลี่ยนแปลงรูปแบบและแม้แต่เนื้อหา ตลอดจนเป้าหมาย สนองตอบภายนอก ภายใต้ชื่อเดิม แล้วนำกลับมามอบให้ประชาชนต้องรับ......ขออย่าให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับกีฬาชนไก่เลย
ไม่มีความเห็น