ตอนที่ผมเป็นเด็กๆมักชอบฟังคุณตา เล่านิทานให้ฟัง เวลาว่างๆผมและเพื่อนก็จะนั่งล้อมวงที่แคร่ไม้ใต้ถุนบ้านแล้วคุณตาก็จะเล่านิทานให้ฟัง สมัยนั้นก็ฟังกันสนุกๆ หรือบางทีก็จะได้ยินว่านิทานหลอกเด็ก แต่เมื่อครั้งที่ได้มีโอกาสได้ไปดูงานที่โรงเรียนสัตยาไสของท่าน ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ท่านก็จะให้ได้เรียนรู้โดยการเล่านิทานเหมือนกันลีลาการเล่าของท่านสนุกสนานมาก และที่สำคัญนิทานที่ท่านเล่าแต่ละเรื่องนั้นมากมายด้วยสาระที่เป็นแก่นสารสำหรับการพัฒนาตนเอง อย่างมาก โชคดีครับที่ท่าน ผู้อานวยการของโรงเรียน ได้จดบันทึกนิทานที่ ท่าน ดร.อาจอง ได้เล่าไว้ ซึ่งได้รวบรวมพิมพ์เป็นหนังสือที่น่าอ่านอีกเล่มหนึ่ง นั่นก็คือหนังสือ "แนวทางสู่ความสุข" ลองมาอ่านดูเป็นน้ำจิ้มซักเรื่องนะครับ
"เศรษฐีปวดหัว เศรษฐีนั้นปวดหัวบ่อยๆ เป็นทุกข์มาก ประกาศใครรักษาได้ จะยกสมบัติให้ครึ่งหนึ่ง ใครๆ ก็มารักษา ให้ยากิน แต่ก็ได้แต่รักษาอาการ เศรษฐีวันๆ ก็มีแต่โมโหโกรธคนโน่นคนนี้อยู่ทุกวัน วันหนึ่งฤาษีได้มาบอกวิธีรักษาให้ เศรษฐีจะต้องมองสีเขียวอย่างเดียว อาการปวดหัวก็จะหาย เศรษฐีจึงมองไปรอบตัว เห็นสีเขียวน้อยไป ก็เลยสั่งให้ทาสีทั้งหมู่บ้าน แจกเงินไปซื้อเสื้อผ้าสีเขียวมาใส่ให้หมดทั้งหมู่บ้านจึงมีแต่สีเขียวเต็มไปหมด
หากเราเคยไปโรงพยาบาลโรคจิต เขาจะทาสีเขียว ไม่ทาสีแดง สีเขียวอ่อนจะทำให้ใจสงบ เศรษฐีเริ่มใจสงบ เพราะชาวบ้านยิ้มแย้ม และตัวเองเริ่มเป็นผู้ให้ทาน
ฤาษีกลับมาที่หมู่บ้าน เห็นชาวบ้านทาสีเขียวแถมยังจะวิ่งไล่จับฤาษี มาเอาสีเขียวมาทาเครื่องนุ่งห่มฤาษีวิ่งไปหาเศรษฐี ต่อว่าเศรษฐีว่า ทำไมจึงต้องทาสีเขียวทั้งหมู่บ้าน ทำไมไม่สวมแว่นสีเขียวแทน"
นิทานเรื่องนี้ บอกให้ทราบว่า บางครั้งเราไปชี้ที่คนอื่นๆ ว่าทำให้เรามีความสุข และทำให้เรามีทุกข์เช่นกัน หากเราคิดไปแก้ที่คนอื่น เราก็แก้ไม่ไหว ต้องแก้ที่ทุกๆ คนเราต้องมาแก้ที่ตัวเราเอง เราชอบโทษคนอื่นว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเป็นทุกข์ แล้วเราก็แก้ทุกข์ไม่ได้ลองพิจารณาดู เวลาเราชี้นิ้วไปที่คนอื่น มี 3 นิ้ว ที่ชี้มาที่ตัวเรา มีเพียงนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวเท่านั้นที่ชี้ไปที่คนอื่น
การที่เราต้องการให้ลูกน้องสงบ เราต้องสงบยิ้มแย้ม เขาก็กล้ามาหา หากเราดุ ก็มีแต่คนหนีเด็กๆ เล็กๆ ก็ยังวิ่งมาหา หากเราเด็ดขาด ดุ คนรอบตัวก็จะหนีหมด
ก็เป็นเพียงตัวอย่างนะครับในหนังสือเล่มนี้ยังมีนิทานที่น่าอ่านอีกหลายเรื่องครับลองหาอ่านกันดูนะครับ....."แนวทางสู่ความสุข" โดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา...แล้วจะเข้าใจว่านิทานไม่ได้มีไว้แต่หลอกเด็ก แต่นิทานยังเป็นครูชั้นยอดสำหรับคนที่ต้องการพัฒนาตนเองอีกด้วยนะครับ....
ได้แง่คิดดีมากค่ะ เปลี่ยนแปลงคนอื่น ทำได้ยากกว่า การรู้จักตนเอง และพยายามเปลี่ยนตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น จะง่ายกว่านะค่ะ
แต่ทุกอย่างก็อยู่ที่ใจ นะค่ะ ว่าพร้อมที่จะเปลี่ยนหรือไม่
ขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณครับ..
อยากรู้ว่ามีวันที่หรือปีที่พิมพ์ไหมอ่ะ
และมีกี่หนน้า
จะได้ลองซื่อไปอ่านดู