หน้าแรก
สมาชิก
Doisaket_it
สมุด
ทฤษฎีและแนวคิดการ...
RBM
Doisaket_it
Mr. supanut inthum
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
RBM
การบริหารงานแบบมุ่นเน้นผลสัมฤทธิ์
การบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์
คือ วิธีการบริหารที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์หรือผลการปฏิบัติงานเป็นหลัก โดยมีการวัดผลการปฏิบัติงานด้วยตัวชี้วัดอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ทำให้ผู้บริหารทราบผลความก้าวหน้าของการดำเนินงานเป็นระยะ ๆ
และ
สา
มารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีเป็นการควบคุมทิศทาง
การดำเนินงานให้มุ่งสู่วิสัยทัศ
น์
ฯ ของหน่วยงาน
ผลสัมฤทธิ์
(Results) =
ผลผลิต
(Outputs) +
ผลลัพธ์
(Outcomes)
ผลผลิต
(Outputs)
หมายถึง งาน บริการ หรือกิจกรรมที่เจ้าหน้าที่ทำเสร็จสมบูรณ์พร้อมส่งมอบให้ประชาชนผู้รับบริการ ผลผลิตเป็นผลงานที่เกิดจากการดำเนินกิจกรรมโดยตรง
ผลลัพธ์
(Outcomes)
หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นตามมา ผลกระทบ หรือเงื่อนไขที่เกิดจากผลผลิต ผลลัพธ์มีความสัมพันธ์โดยตรงกับประชาชนผู้รับบริการ และสาธารณชน
ดังนั้น ผลสัมฤทธิ์ คือ งาน บริการ หรือกิจกรรมที่เกิดจากการทำงานได้ผลผลิต
(Outputs)
ตาม
เป้าหมาย และเกิดผลลัพธ์
(Outcomes)
ตรงตามวัตถุประสงค์ กล่าวคือ ผลผลิตสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริงหรือเป็นที่พึงพอใจ เช่น ปลูกบ้านได้
1
หลัง
(Outputs)
บ้านหลังดังกล่าวน่าอยู่ มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
(Outcomes)
หรือ การซ่อมถนนได้
5
กิโลเมตร เป็น ผลผลิต
(Outputs)
ถนนสายนั้นทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเดินทางจากการซ่อมแซม เป็น ผลลัพธ์
(Outcomes)
วัตถุประสงค์ของการบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์
การบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงการปฏิบัติงานขององค์กร ช่วยให้การบริหารการปฏิบัติงานอย่างเหมาะสม มีทิศทางในการปฏิบัติงาน มีระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานเป็นระยะ ๆ
ทำให้ทราบผลการปฏิบัติงานเมื่อเทียบกับแผนหรือเป้าหมาย สามารถรายงานความก้าวหน้าผลการปฏิบัติงานต่อ
ผู้บริหาร และ ทำให้แก้ปัญหาได้ทันท่วงที
หากผลการปฏิบัติงานไม่น่าพึงพอใจ
ผู้บริหารมีโอกาสปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ทันที
การบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์ เกี่ยวข้องกับทุกกระบวนการของการบริหาร
(PDCA)
ได้แก่
Plan
มีวัตถุประสงค์ หรือ เป้าหมายที่ชัดเจน
(
ต้องการทราบว่าผลสัมฤทธิ์คืออะไร
)
Do
มีการปฏิบัติงานที่มุ่งให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามแผนที่วางไว้หรือไม่
Check
มีการตรวจสอบว่าปฏิบัติได้ผลสัมฤทธิ์ตามที่วางแผนไว้หรือไม่
Act
ปรับปรุงแก้ไขให้ได้ผลสัมฤทธิ์ตามแผนที่วางไว้
ระบบการบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์ เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารเชิงกลยุทธ์
การบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับการบริหารงานเชิงกลยุทธ์ องค์กรใช้วิสัยทัศน์ พันธกิจ วัตถุประสงค์ และกลยุทธ์ซึ่งอยู่ในแผนกลยุทธ์ขององค์กรเป็นกรอบในการกำหนดปัจจัยหลักแห่งความสำเร็จ
(CSF)
และตัวชี้วัดผลการดำเนินงานหลัก
(KPI)
ของการบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์ การบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์เป็นเครื่องมือช่วยประเมินความสำเร็จของการดำเนินการตามกลยุทธ์
องค์กรที่มีการบริหารเชิงกลยุทธ์สามารถใช้ปัจจัยหลักแห่งความสำเร็จ
(CSF)
และตัวชี้วัดผลการดำเนินงานหลัก
(KPI)
ของการบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์เป็นกรอบวัดผลการปฏิบัติงานขององค์กรเทียบกับเป้าหมาย เพื่อให้รู้ถึงความก้าวหน้าของการบรรลุวิสัยทัศน์ หากผลงานยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ผู้บริหารองค์กรควรปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะสม
ปัจจัยที่จำเป็นเบื้องต้นสำหรับส่วนราชการไทยที่จะนำระบบการบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์มาใช้ ได้แก่
·
องค์กรมีการจัดทำแผนกลยุทธิ์ ประกอบด้วย วิสัยทัศน์ พันธกิจ วัตถุประสงค์ และกลยุทธ์การปฏิบัติงาน
·
การให้ความร่วมมือจากผู้บริหารในการกำหนดเป้าหมายที่เหมาะสมของผลการปฏิบัติงาน
·
การมอบเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการปฏิบัติงานในระบบการบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์ให้ชัดเจน
กรอบการประเมินผลสัมฤทธิ์ของส่วนราชการ
Balanced Scorecard
เป็นเทคนิคที่พัฒนาขึ้นเมื่อ ค
.
ศ
.1992
โดย
Robert S.Kaplan
David P. Norton
จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มีจุดมุ่งหมายเพื่อวัดผลการปฏิบัติงานระดับองค์กรของ
ภาคเอกชน ใน
4
ด้าน คือ ด้านลูกค้า ด้านกระบวนการภายในองค์กร ด้านองค์กร และ ด้านการเงิน ต่อ
มาได้มีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในหน่วยราชการหลายประเทศ
Balanced
หมายถึง ความสมดุลของจำนวนมุมมองที่ใช้ในการพิจารณาองค์กร เวลากำหนด
ปัจจัยหลักแห่งความสำเร็จ
(CSF)
และตัวชี้วัดผลการดำเนินงานหลัก
(KPI)
เพื่อป้องกันความเบี่ยงเบนและช่วย
ให้มีการพิจารณาองค์กรจากทุกมุมมองอย่างครบถ้วน
Scorecard
หมายถึง รายงานสรุปผลสัมฤทธิ์ขององค์กร
ซึ่งนำมาอยู่ในรายงานสำหรับผู้
บริหารเพื่อให้ผู้บริหารสามารถติดตามความก้าวหน้าของการบรรลุวัถุประสงค์ขององค์กร
สำนักงาน ก
.
พ
.
ได้นำ
Balanced Scorecard
มาปรับใช้เป็นกรอบแนวทางกำหนดปัจจัยหลักแห่งความสำเร็จ
(CSF)
และ ตัวชี้วัดผลการดำเนินงานหลัก
(KPI)
ซึ่งเป็นกรอบการประเมินผลสัมฤทธิ์ของส่วนราชการ
โดยการพิจารณาจากมุมมองด้านต่าง ๆ
4
ด้าน
กรอบการประเมินผลสัมฤทธิ์ของส่วนราชการในมุมมองด้าน
4
ด้าน ดังนี้
1.
ด้านผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายนอกองค์กร
(External Perspective)
เป็นการพิจารณาองค์กรในมุมมองของประชาชนผู้รับบริการ สาธารณชนทั่วไปที่อยู่ใน
สภาวะแวดล้อมภายนอกองค์กร ผู้มีส่วนได้เสียประโยชน์ต่าง ๆ รัฐบาล หน่วยงานราชการอื่น ๆ รัฐ
วิสาหกิจ องค์กรพัฒนาเอกชน ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ฯลฯ
2.
ด้านองค์ประกอบภายในองค์กร
(Internal Perspective)
เป็นการพิจารณาย้อนกลับไปที่โครงสร้างองค์กร กระบวนการทำงาน ทรัพยากรมนุษย์
ความสามารถหลักขององค์กร วัฒนธรรม และค่านิยม
ความรู้ความสามารถของบุคลากร ทักษะ
จริยธรรม
ขวัญกำลังใจ
3.
ด้านนวัตกรรม
(Innovation Perspective)
เป็นการพิจารณาความสามารถขององค์กรต่อความเปลี่ยนแปลงเป็นการมองไปในอนาคตว่าองค์กรควรริเริ่มสร้างสรรค์อย่างไร เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ดียิ่งกว่าเดิม เช่น งานวิจัยที่นำสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง การพัฒนาระบบงาน การสร้างเครือข่าย ระบบการตรวจค้นข้อมูล ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น
4.
ด้านการเงิน
(Financial Perspective)
ให้ความสำคัญกับการประหยัดทรัพยากรทางการบริหาร ความคุ้มค่าของเงินงบประมาณ
ที่ใช้ ความสามารถของการให้บริการเทียบกับผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา รวมถึงการป้องกันการทุจริต
และประพฤติมิชอบที่ปรากฏ
เขียนใน
GotoKnow
โดย
Doisaket_it
ใน
ทฤษฎีและแนวคิดการทำงาน
คำสำคัญ (Tags):
#ทฤษฎีและแนวคิดการทำงาน
หมายเลขบันทึก: 73939
เขียนเมื่อ 23 มกราคม 2007 12:52 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 04:05 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
Doisaket_it
สมุด
ทฤษฎีและแนวคิดการ...
RBM
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท