เรื่องของมโนทัศน์นั้นสำคัญมาก เพราะมันเป็นพื้นฐานของความคิดทั้งมวล ถ้าเราไม่มีมโนทัศน์กับมโนทัศน์แล้วเราก็จะมีมโนทัศน์กับมโนทัศน์ Constructs ได้ยาก จะนำไปสู่ความไม่เข้าใจ Entity ที่จะพึงได้จาก Constructsนั้นๆ และจะไม่เข้าใจคำว่า Theories ในที่สุด เพราะทฤษฎีจะประกอบไปด้วย Concepts และ Constructs (บางคนคิดว่ามันเป็นสิ่งเดียวกัน) ที่บางคนเรียกว่าคำดึกดำบรรพ์หรือ Primitive Terms (ยิ่งพูดก็ยิ่งลึกและหูอื้อขึ้นมาทุกที)
เรามาต่อกันที่ มโนทัศน์คนกันดีกว่า คำว่า คน ถ้าดูเฉพาะตัวอักษร ค, น, รวมกันเป็นคำ คน มันก็เป็นตัวอักษร เป็นเรื่องของภาษา และมันทำหน้าที่เป็น ชื่อ ของสิ่งที่เรียกว่า มโนทัศน์ อีกทีหนึ่ง เจ้าตัวมโนทัศน์จริงๆ นั้น ถ้ามองอย่างนักจิตวิทยา(เน้นที่เหตุการณ์ทางจิต)ก็คือ กฎ หรือ (Rule) ซึ่งมีรูปแบบที่เขียนเป็นตัวหนังสือได้ว่า ถ้า........, แล้ว........... เช่น ถ้า (นาย ก) แล้ว (คน), ถ้า(นาย ข ) แล้ว (คน), ........... ถ้า(ร้องดังเหมียวๆ) แล้ว(แมว),.........ฯลฯ และ Rule นี้จะอยู่ในหัวคน ถ้าถามหาที่อยู่ให้เฉพาะเข้าไปอีก เราก็ Hypothesis เอาว่า อยู่ที่บริเวณ Cerebral Cortex ไงละ ประโยคที่ว่า Conceptual rule อยู่ที่บริเวณ Cerebral cortex นั้น มันต้องการการทดสอบว่า True / False ดังนั้นประโยคนี้จึงมีสถานะเป็น Hypothesis (ลองเอาไปทดสอบด้วยกระบวนการวิจัยเชิงทดลองเพื่อขอรับปริญญาดูซีครับ อาจจะดังเหมือนพลุแตกก็ได้) แต่ให้ระวังให้ดี เพราะคำ Conceptual rule นั้นมันกระเดียดไปทาง Psychological term และจึงเป็น Immaterial หรือ อสสาร ส่วนคำ Cerebral cortex ตามความหมายที่กล่าวมาเป็น Physiological constructs ซึ่งเป็น Material หรือ สสาร ถ้าสักวันหนึ่งเราเปิดกระโหลกศีรษะออกดูและเห็นว่ามันเป็นจริง ความเป็น Hypothetical construct ของมันก็หมดไป และถือเป็น Entity หรือ Fact ทันที นักจิตวิทยาที่สนใจเหตุการณ์ทางจิตจะเป็นพวก Cognitive Psychologists นักวิทยาศาสตร์ท่สนใจทางระบบประสาทในสมองไม่สนใจความรู้สึกซึ่งเป็นเหตุการณ์ทางจิตก็เป็นพวก Physiologists แต่ถ้าสนใจทั้งความรู้สึก(จิต)และเซลล์ประสาทในสมอง(สสาร)ก็เป็นพวก Physiological psychologists จะเห็นว่าคนสามกลุ่มนี้เป็นญาติกัน เขาจึงมักจะอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกันคือที่โรงพยาบาล
ในตอนต้นผมได้กล่าวถึงท่าน Plato มาบ้าง ซึ่งมโนทัศน์ที่เรากล่าวอยู่นี้ Plato เรียกว่า Universalซึ่ง Plato คิดว่า Universal นี้มีอยู่จริงๆเหมือนการมีอยู่ของสิ่งต่างๆรอบตัวเรา แต่จากการศึกษาโดยวิธิวิทยาศาสตร์ คือ Empirical research แบบ Experimentation ได้ข้อสรุปว่า Concepts นั้น เราสามารถเรียนรู้ได้ คือสมองสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ นั่นคือมโนทัศน์ไม่ได้ Exist อยู่ก่อนในธรรมชาติตามความคิดของPlato แต่เราไม่อยากจะพูดว่า Universal Theory ของท่านผิด(False) เพราะว่าการวิจัยทั้งหลายที่ทำมานั้นไม่ได้เป็น Crucial Test คือการวิจัยเพื่อชี้ขาดระหว่างทฤษฎีสองทฤษฎีว่าทฤษฎีใดผิด(False) หรือเป็นจริง (True) อีกประการหนึ่ง ท่านเป็นยอดอัจฉริยะของโลกนับสองพันกว่าปีมาแล้ว ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าในสมัยนั้นจะมียอดอัจฉริยะเช่นนี้ หน้าที่ของเราก็คือนำมาเก็บไว้บนหิ้งไว้สักการะจะดีกว่า
เรื่องนี้สอนเราว่า ครูอาจารย์ทั้งหลายควรสำนึกเสมอว่า การยึดถือว่ามีความรู้ที่ถูกแล้ว เป็นจริงแล้วไม่ผิดอีกแล้ว แล้วนำมาสอนยัดทะนาน มองหัวเด็กเป็นโกดังเก็บของนั้น จงเลิกเสียเถิด ควรถอยห่างวิธี Analytic มาเข้าใกล้วิธี Synthetic ตาม พ.ร.บ. การศึกษาฉบับใหม่กันดีกว่า คนในชาติของเราจะได้ คิดเป็น กันบ้าง เมื่อจะพูดอะไรก็ไม่ต้องอ้างว่าอาจารย์ผมว่า หรืออ้างว่าผู้รู้คนนั้นว่า กันอย่างเป็นแบบฉบับของคนไทยกันอีกต่อไป.