ด้วยเทคนิคการสานจากภูมิปัญญาไทยนี้ ได้มีการพัฒนา โดยนำใบลานหรือใบตาลมาสานกระติบข้าวใช้กันอย่าแพร่หลาย ซึ่งเป็นรูปแบบเรียบ ง่าย จะพบมากทางภาคเหนือนั้น มาจากการถ่ายทอดจากภูมิปัญญาในอดีต สืบทอดต่อให้กับ ลูก หลาน อันเป็นที่ยอมรับ และยังคงพบเห็นอยู่ทั่ว ๆ ไป เป็นการเสริมสร้างรายได้ให้กับตนเอง ชุมชน ในการสร้างงานสร้างอาชีพ และยังสืบสานความรู้ของการจักสานไว้ ต่อไปในภายภาคหน้า
ศรช.ท่าผา จึงได้จัดกิจกรรมบูรณาการ ในหมวดวิชาพัฒนาทักษะชีวิต 2 ซึ่งเป็นการนำความรู้ทางศิลปะ มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อการดำรงชีวิตประจำวัน โดยได้รับความร่วมมือจากนางบุญศรี กัญญา เป็นวิทยากร ผู้ให้ความรู้ในงานด้านฝีมือการสานกระติบข้าวจากใบลาน ซึ่งสามารถหาวัสดุในท้องถิ่นมาทำให้เกิดประโยชน์ จากต้นลาน หรือต้นตาล ซึ่งพบเห็นตามท้องไร่ท้องนา สามารถนำใบมาสานเป็นเครื่องใช้ได้หลากหลาย ตามคำบอกเล่าของวิทยากร ประกอบกับการค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม ความรู้เกี่ยวกับ “ต้นลาน” ..ประโยชน์ของต้นลาน.. เพื่อเสริมความรู้ให้กับผู้เรียน จากนั้นได้ร่วมกันฝึกปฏิบัติ การเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ การตัดใบลาน การขึ้นลาย ซึ่งผู้เรียนให้ความสนใจในการฝึกเป็นอย่างดี
จากการสังเกตของครูเห็นได้ว่าผู้เรียนสามารถทำได้ แต่ยังไม่เรียบร้อยมากนัก ถ้าหากได้ฝึกบ่อย ๆ คงจะมีความชำนาญมากขึ้น การสอนลักษณะเช่นนี้ มีวิทยากรคอยแนะนำอย่างเป็นกันเองทำให้นึกถึงคำว่า “การสืบทอด” จากอดีตคงเป็นลักษณะเดียวกัน
ข้อคิดที่ได้รับฟังจากการพูดคุยกัน...
ในช่วงขณะผู้เรียนฝึกการสานกระติบข้าวมีข้อความหนึ่งหลุดลอยออกมาว่า ถ้าเราสานกระติบข้าวเสร็จแล้ว เราก็เอาข้าวเหนียวใส่ กับ จิ้นปิ้ง แล้วขายพร้อมกันทั้งกล่องเลย น่าจะเข้าท่าดี (กล่อง 5 บาท ข้าว 5 บาท จิ้น 5 บาท ลงทุน 15 บาท) ขายสัก 20 บาท กำไรน้อย ๆ แต่ขายเยอะ ๆ ดีกว่าใช้กล่องโฟม ซึ่งย่อยสลายยาก...เป็นแนวทางหนึ่งครับที่มีความเป็นไปได้อย่างยิ่ง
ไม่มีความเห็น