ความรู้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาขององค์กร สามารถจำแนกออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. ความรู้แบบที่สามารถแสดงออกมาให้เห็นได้ (Explicit knowledge) หมายถึง ความรู้ที่บุคลากรในองค์กรสามารถที่จะสังเกตเห็นได้ง่ายและสามารถจะจัดเก็บเป็นข้อมูล เอกสาร หรือเก็บไว้ในแหล่งที่เก็บข้อมูล หรือคลังเก็บข้อมูล ความรู้แบบนี้เป็นขั้นตอนและเป็นระบบ พนักงานในองค์กรสามารถที่จะเรียกหรือนำเอาความรู้เหล่านี้มาใช้ หรือนำมาประยุกต์ใช้งานได้โดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดเก็บข้อมูล หรือการเรียกมาใช้
2. ความรู้แบบนัยหรือแบบซ่อนเร้น (Implicit knowledge) ความรู้แบบนี้ส่วนมากมักจะซ่อนเร้นอยู่ในสมองของพนักงานแต่ละคนในองค์กร ซึ่งเป็นการยากที่จะแสดงหรือถ่ายทอดออกมา และเป็นการยากที่จะบอกว่าความรู้อันไหนคือความรู้ที่ซ่อนอยู่ สิ่งที่ท้าทายผู้บริหารแต่ละคน คือ จะทำอย่างไรที่จึงจะนำความรู้ เรียกความรู้หรือบริหารความรู้ที่ซ่อนเร้นอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ดังเช่น การที่หลายองค์กรได้นำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น อีเมล กรุ๊ปแวร์ และการส่งข้อมูลแบบเร่งด่วน อาทิ MSN Skype หรือโปรแกรมแชตต่าง ๆ มากมายในปัจจุบันนี้ มาช่วยในการบริหารความรู้ และการกระจายความรู้ที่ซ่อนเร้นอยู่ เป็นต้น
อ้างอิงมาจาก : ดร.เจนเนตร มณีนาค และคณะฯ. สร้างองค์กรอัจฉริยะในยุคโลกาภิวัฒน์. 212 หน้า. สเสริมมิตร การพิมพ์.
ไม่มีความเห็น