บันทึกชีวิตวันที่ 9 มกราคม 2550

บันทึกชีวิตวันที่ 9 มกราคม 2550 วันนี้ในตอนเช้าก็ได้ดูข่าวซึ่งมีข่าวที่น่าสนใจเรื่องการนำเสนอการเปลี่ยนโครงสร้างตำรวจเพื่อเพิ่ทมประสิทธิภาพการทำงานของตำรวจมากขึ้น ไม่ว่าแยกหน่วยงานที่ไม่เกี่ยวกับงานสืบสวนสอบสวน งานปราบปราม ไปอยู่ที่กระทรวงยุติธรรม ตำรวจจราจรไปอยู่ที่ท้องถิ่น ที่มาของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาจากการสรรหาทั้งคนที่เป็นตำรวจหรือเป็นคนนอกก็ได้ ซึ่งประเด็นนี้จับตามองว่ามันจะออกมาในรูปใดแต่เราคิดอยู่ในใจว่าคงเป็นไปได้บางส่วนเพราะสิ่งที่คนกลัวคือกลัวการเปลี่ยนแปลงกลัวการสูญเสียผลประโยชน์ที่จะได้รับ และที่สำคัญกลัวการสูญเสียอำนาจ ก็ว่ากันไปแต่มีข่าวหนึ่งที่น่าสลดใจคือการจากไปของครูจูหลิงซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้ายแถมยังจับตัวคนร้ายยังไม่ได้จนถึงปัจจุบัน มันสะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งที่รุนแรงเกินกว่าสังคมจะรับได้ จะโทษว่าพวกที่ทำร้ายไม่ดีก็ไม่ได้ เพราะเราเองก็ไม่สามารถชี้ได้ว่าใครถูกใครผิดเนื่องจากข้อมูลเราไม่เพียงพอแต่เราใช้ความรู้สึดตัดสินว่าคนที่ทำกระทำการอย่างนี้เป็นคนไม่มีหัวใจที่รักต่อเพื่อนร่วมประเทศ เราสามารถเพียงแค่คิดคงตัดสินไม่ได้ แต่ข่าวที่สำคัญที่จะส่งผลกระทบคือปรากฏการณืโรคร้อนในปีนี้และข่าวการประชุมความร่วมมื่ออาเชี่ยนและออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ เรื่องการทำข้อตกลงการค้าเสรีซึ่งเป็นที่น่าเป็นห่วงเพราะในแถบนี่ประเทศที่ค่อนข้างพึ่งคนอื่นคือประเทศไทยเราน้ำเข้ามากกว่าส่งออก คุณภาพแรงงานต่ำ สินค้าทางการเกษตรมีต้นทุนการผลิตที่สูงปริมาณน้อยคุณภาพต่ำ ราคาต่ำ ถ้าประเมินอย่างต่ำที่สุดคือถ้าเรายกเว้นกำแพงภาษีอันดับแรกเกษตรกรไทยอยู่ไม่ได้ เพราะสินค้าจากชาติต่างที่มีราคาต่ำและคุณภาพดีกว่าเราจะเข้ามายึดครองตลาดสินค้าไทยก็ขายไม่ออก ซึ่งเป็นประเด็นนี้ผู้มีอำนาจควรเตรียมรับมือเป็นอย่างยิ่ง และเกษตรกรต้องปรับตัวให้สามารถพึ่งตนเองได้ พึ่งตลาดให้น้อยลง ข่าวที่ฟังในเช้านี้มีแต่เรื่องราวที่เรากำลังจะเกิดขึ้นเราเองก็ต้องเผชิญกับตัวเองแน่นอน พอทุกคนเตรียมพร้อมแล้วก็มาทำงานซึ่งวันนี้พี่ไก่กับอาจารย์ปรีชาลงพื้นที่ไปพบนายอำเภอและผู้แทนมาจากส่วนท้องถิ่นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงโครงการABC ในพื้นที่กิ่งอำเภอบัวลายและสีดา และงานของเราในวันนี้คือถอดวอยล์ประชุมคณะกรรมการKm ในวันที่ 26 ธันวาคม 2549 ปัญที่พบในการฟังเสียงวันนี้คือบางทีเสียงดังบางทีเสียงค่อยแต่ก็พอถอดไปได้เพราะเราเองก็อยู่ในที่ประชุมด้วยแต่อาจจะช้าพอสมควร แต่เนื้อหาที่ฟังในช่วงที่ถอดวันนี้ก็ได้เห็นถึงปรากฏการณ์ใหม่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อ.บัญชรนำเสนอคือ ในเรื่องของอบต.สามารถเข้าทำงานฝังตัวอยู่กับชุมชนโดยผ่านกิจกรรมที่ริเริ่ม ไม่ว่าจะเป็นวันผู้สูงอายุ พิธีกรรมการกวนข้าวทิพย์ การฟื้นฟูประเพณีรำตรุษ การเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดงานศพ และที่สำคัญอบตยัง.อาสาสมัครพัฒนาสังคมของชุมชนเพื่อที่จะช่วยแก้ปัญหาร่วมกันกับชุมชน ซึ่งเราคิดว่าตรงนี้ดีมากสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆได้ เพื่อที่จะเอาไปประยุกต์ใช้ให้กับแต่ละพื้นที่ สิ่งที่เราเห็นเป็นประเด็นร่วมที่น่าจะลงลึกกับอาจารย์บัญชรคือ ความคิดริเริ่ม แรงบัลดาลใจ บทบาทกระบวนการทำงานของอบต.ในแต่ละกิจกรรม และสิ่งที่สำคัญคือผลประโยชนร่วมที่ท้องถิ่นได้รับ พร้อมทั้งคนในท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่นได้เรียนรู้อะไรบ้าง เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นบ้างในท้องถิ่น อบต.อื่นจะได้สามรถเอาไปดูเป็นแบบอย่างได้