สปา(ต่อ)


สปา
สปา คืออะไร 
นายแพทย์ธานินทร์ สนธิรักษ์ นายแพทย์ 8 สำนักพัฒนาวิชาการแพทย์ กรมการแพทย์
ศึกษา
เรื่องสปามาประมาณ 2 ปี กล่าวว่าเมื่อพูดถึงสปาหลายคนจะนึกถึงสถานที่พักผ่อน ผ่อนคลาย 
นวดต่างๆ แช่น้ำแร่
น้ำพุร้อน น้ำนม ฯลฯ แต่หากย้อนกลับไปถึงที่มาของ สปา นั้น ความจริงแล้ว 
สปาเป็นชื่อเมืองเล็กๆ ในประเทศเบลเยียม เมืองสปาเป็นแหล่งธรรมชาติ มีบ่อน้ำร้อน
บ่อนกาสิโน
ผู้คนหลั่งไหลไปพักผ่อนกันมาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 แล้วพากันไปแช่น้ำร้อน เล่นกาสิโน 
แต่คนที่ไปต้องเป็นคนระดับนายทหารชั้นสูงผู้ดีชั้นสูง (Special Class) เท่านั้น 
เวลาไปพักผ่อนที่มีสปริง สปา หมายถึงไปแช่น้ำพุร้อน เพราะที่นั่นอากาศหนาว จึงมักเรียกติดปาก
ว่าไปสปา จนถึงปัจจุบันเมืองสปาเป็นเมืองท่องเที่ยวของเบลเยียมที่มีผู้คนหลั่งไหลไปพักผ่อน
จำนวนมาก"
หลังจากสปาได้รับความสนใจแพร่หลาย ก็มีองค์กรหนึ่งเกิดขึ้น คือ The International Spa 
Asscociation (ispa) ก่อตั้งที่อเมริกาเกิดจากความร่วมมือระหว่างผู้ที่ทำงานด้านสปา ผู้ที่
เป็นสมาชิกต้องปฏิบัติตามมาตรฐานขององค์กรซึ่งองค์กรนี้จะมีสาขาตั้งอยู่ในยุโรป ออสเตรเลีย 
และเอเชีย-แปซิฟิก

มีรายงานว่า สปาในอเมริกามีรายได้จาก 2 ทาง คือ 
1.การทำทรีตเม้นต์ ได้แก่ นวดร่างกาย ทำเล็บขัดผิว หรือทำ Massage(นวด) แบ่งเป็น บิวตี้ 
  ซาลอน 50% และอโรมา เธอราพี 50% และ 
2.การขายผลิตภัณฑ์ซึ่งมีกำไรรวมกันถึง 93%
สำหรับการใช้น้ำ (อาบน้ำ-แช่น้ำแร่) เป็นตัวดึงดูดให้คนเข้าสปานั้นคิดเป็นรายได้เพียง 33%
ฉะนั้น สปาอาจไม่ใช่สถานบริการเพื่อการผ่อนคลายอย่างเดียวแต่รวมไปถึงการขายผลิตภัณฑ์
ต่างๆ อีกด้วย

ขอขอบคุณ ข้อมูลhttp://www.thailabonline.com/aromatherapy-spa1.htm

คำสำคัญ (Tags): #สปาในบ้าน
หมายเลขบันทึก: 72548เขียนเมื่อ 14 มกราคม 2007 10:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท