บทความเปิดใจ นายแพทย์บุญเรียง ชูชัยแสงรัตน์


บทความเปิดใจ นายแพทย์บุญเรียง ชูชัยแสงรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์
บทความเปิดใจ  นายแพทย์บุญเรียง  ชูชัยแสงรัตน์  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ก่อนไปรับราชการที่จังหวัดราชบุรี  บทความเปิดใจนายแพทย์บุญเรียง  ชูชัยแสงรัตน์  ในโอกาสที่เดินทางไปดำรงตำแหน่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี ในเดือนมกราคม  พ.ศ. 2550  เพื่อให้เจ้าหน้าที่และประชาชนได้เปิดอ่าน ในเว็บไซด์

http://www.212cafe.com/freewebboard/list3.php?user=uto, http://gotoknow.com  

 

คำถาม 1. ในฐานะที่ท่านมาปฏิบัติราชการในจังหวัดอุตรดิตถ์ ท่านประทับใจอะไรบ้างในจังหวัดอุตรดิตถ์ เช่น ประทับใจเพื่อนร่วมงาน หรือว่าประทับใจในวัฒนธรรมของชาวอุตรดิตถ์

คำตอบ 1. ผมอยู่อุตรดิตถ์มา 5 ปีเศษ ก็ขึ้นปีที่ 6 สิ่งที่ประทับใจมากก็คืออัธยาศัยไมตรีของคณะเจ้าหน้าที่ชาวสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งรวมถึงโรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลชุมชนและพี่น้องสถานีอนามัยทุกคน และชาว อสม.  พูดถึงชาวบ้านในจังหวัดอุตรดิตถ์ไม่ว่าจะไปพูดที่ใด ผมประทับใจในอัธยาศัยไมตรี  ส่วนเรื่องของวัฒนธรรมผมเรียนตามตรงว่า วัฒนธรรมของภาคเหนือในจังหวัดอุตรดิตถ์ก็มีวัฒนธรรมดีๆหลายอย่างครับ แต่ต้องบอกตรงๆนะครับ ถ้าเปรียบเทียบกับวัฒนธรรมทางอีสานที่ผมเคยอยู่ เค้ามีผูกข้อมือ

ผูกเสี้ยวค่อนข้างถี่  ค่อนข้างมาก ก็เลยรู้สึกว่าตรึงใจ เหตุผลนี้ครับ ทำให้ผมมีภรรยาเป็นชาวอีสานไม่ใช่ชาวเหนือนะครับ  ส่วนการประทับใจต่อไปก็คือ บรรยากาศ และอุณหภูมิ อยู่ที่นี่ผมรู้สึกว่าร่างกายผมแข็งแรงเต็มร้อย แล้วการออกกำลังกาย ก็ยังไม่มีจังหวัดไหนที่ผมออกกำลังกายได้เต็มภาคภูมิอย่างเช่นที่นี่เลย  ก็คงจะเป็นเรื่องสั้นๆของการประทับใจที่นี่ครับ

               

คำถาม   2.  คือท่านมีความภาคภูมิใจอะไรบ้างที่ท่านคิดว่าทำให้ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์รักท่าน

                คำตอบ  2. ก่อนอื่นขอขอบคุณคำถามนี้ที่ระบุว่าชาวจังหวัดอุตรดิตถ์รักผม ผมมีความคิดเสมอว่ามีคนรักเท่าผืนหนังคนชังเท่าผืนเสื่อ โดยสรุปก็คิดว่าถ้าอยู่ที่ไหนนานๆ ทุกครั้งที่ผมพิจารณาขั้นเงินเดือน ทุกครั้งที่ผมพิจารณาตำแหน่งของสาธารณสุขอำเภอ หัวหน้าสถานีอนามัย ตำแหน่งของคนที่จะรับเข้ามาทำงาน รับเข้ามาได้คนหนึ่ง สิบคน ยี่สิบคนไม่ได้รับเค้า เพราะฉะนั้นคนรักผมเท้าผืนหนังครับคือเล็กน้อย แต่คนที่ชังผมนะมากเหลือเกิน  ก็ขอบคุณนะครับที่บอกมีคนเคารพรักผมนะครับ สำหรับความรักที่เกิดขึ้นจากพี่น้องชาวจังหวัดอุตรดิตถ์  ผมคิดว่าเป็นความจริงใจที่ผมมอบให้พ่อแม่พี่น้องมากกว่าครับ เพราะว่าโดยความรู้สึกส่วนตัวผมคิดว่าเมื่อพวกเราให้สิ่งใดกับใคร  เราก็จะได้สิ่งนั้น ถ้าผมมอบความรักให้ผมเชื่อว่าก็น่าจะได้ความรักตอบแทน ความจริงใจที่มอบให้ ไม่ว่าจะเป็นความภูมิใจที่ผมไปใกล้ชิดกับประชาชนทั่วทุกพื้นที่ในจังหวัดอุตรดิตถ์ ไม่ว่าจะเป็นสภากาแฟต่างๆ ที่ร้านมุ่ยเซ็ง  คุณลุงเอฟที่ขนส่งที่เป็นร้านกาแฟที่โด่งดัง ร้านกาแฟต่างๆ และก็ชาวจักรยาน รวมทั้งประชาชนที่ฟังรายการวิทยุทุกๆสถานีที่ผมไปร่วมจัดรายการด้วย รวมถึงพ่อแม่พี่น้องที่เจ็บป่วยโทรศัพท์เข้ามาในมือถือผม หลายๆครั้งเจ้าหน้าที่ ที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์สงสัย สอบถามกับประชาชนว่าผู้ป่วยรายนี้เป็นญาติอะไรกับหมอบุญเรียง ด้วยพื้นฐานที่ผมคิดเสมอว่าชาวบ้านเป็นญาติครับ ก็เลยรักชาวบ้านเหมือนญาติทุกๆคน

    

คำถาม 3. ท่านคิดว่าการทำให้คนอุตรดิตถ์มีสุขภาพที่ดี มีพอเพียงควรจะมีแนวทางการดำเนินกาอย่างไร

คำตอบ 3. ผมคิดว่าน่าจะให้ประชาชนชาวอุตรดิตถ์เริ่มต้นการมองที่ตนเอง แล้วให้เริ่มต้นมองที่จิตใจก่อน บางครั้งกระทรวงสาธารณสุขและประชาชนภาคราชการ มักจะเริ่มต้นที่ร่างกาย ผมประทับใจการพัฒนาที่เริ่มต้นที่การพัฒนาจิตใจ  ถ้าหากชาวบ้านเริ่มต้นที่การมองจิตใจตัวเอง รู้ว่าคนเกิดมาทำไม เกิดมาเพื่ออะไร ตายแล้วจะไปไหน ชาติหน้ามีจริงหรือไม่ ชาติที่แล้วมีจริงหรือไม่ เค้าจะเริ่มต้นเรียนรู้ความจริงของชีวิต รู้ว่าความทุกข์คืออะไร ความสุขคืออะไร หลังจากนั้นแล้วเค้าก็จะค่อยๆวิเคราะห์รู้ของคำพูดที่ว่า รู้จักพอ ก่อสุข ทุกข์สถาน นั้นเป็นหัวใจอันหนึ่งของความพอเพียง  ความพอเพียงเกิดขึ้นนั้นจะเป็นหัวใจหลักทำให้ประชาชนมีหัวใจที่ดีขึ้น ส่วนสุขภาพร่างกายจะตามมา โรคภัยไข้เจ็บที่มีอยู่มากหลายโรคมันไม่หมดไปนะครับ แต่มันจะค่อยๆน้อยลง เป็นความพอเพียง ความพอดีนะครับ ที่คนเราก็จะต้องมีเกิด แก่ เจ็บ แล้วก็เสียชีวิตไป

 

คำถาม  4. ท่านอยู่ที่นี่ ท่านเป็นแกนหลัก เป็นแบบอย่างในเรื่องของการออกกำลังกาย การขี่จักรยานเพื่อ สุขภาพ ท่านคิดว่าท่านจะนำตรงนี้ไปใช้ในสถานที่ทำงานใหม่ของท่านหรือไม่

คำตอบ  4. ผมอยากเรียนว่าการนำอะไรไปใช้ที่สถานที่ทำงานใหม่ๆ  ผมเรียนตรงๆว่า ผมไม่เคยทำอะไรที่สร้างภาพให้เป็นที่ฝืนกับบุคลิกภาพ  สิบกว่าปีก่อนหน้านี้ ก่อนที่ผมจะเป็นผู้บริหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผมเคยคิดหนักว่าผมจำเป็นต้องปรับพฤติกรรมของผมให้เหมือนๆกับคนอื่นหรือไม่  ท่านอาจารย์

นายแพทย์ไพจิตร  ปวะบุตร ปลัดกระทรวงสมัยนั้นได้ให้ข้อคิดดีๆ กับผมอยู่ข้อหนึ่งว่า ให้ไตรตรองถึงพฤติกรรมของตัวเองว่าพฤติกรรมนั้นไม่ได้เป็นสิ่งเสียหาย ให้ทำตัวเหมือนเดิม ถ้าหากว่าผู้บริหารคือผู้บังคับบัญชาของผมจะเลือกผมเป็นผู้บริหารแล้วจะต้องได้พฤติกรรมของผมเป็นผู้บริหารไปด้วย ดังนั้นเรื่องการขี่จักรยานของผมเป็นชีวิตของผมไปแล้ว การเดิน การขี่จักรยาน การเคารพธงชาติ การสวมชุดลูกเสือในวันที่เหมาะสมเป็นชีวิตของผมไปเสียแล้ว ดังนั้นผมก็ยังจะปฏิบัติสิ่งต่างๆเหล่านั้นจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ครับ

 

คำถาม  5.  เรื่องการทำงาน ท่านคิดว่าการสร้างความสมานฉันท์ให้มีความยั่งยืนในองค์กร จะทำอย่างไร

คำตอบ  5.  หัวใจของการสมานฉันท์มันอยู่ที่ความรักครับ ถ้าหากว่าเรารักทุกคนเหมือนครอบครัวเราจะเกิดความสามัคคีซึ่งกันและกัน ข้อที่สองคือ การสื่อสาร ถ้าหากเราสื่อสารตรงกับทุกคน มันมีหนังสืออยู่บางเล่มนะครับ ก็คือการให้คำปรึกษากับครอบครัว ซึ่งแต่งโดยศาสตราจารย์แพทย์หญิงอุมาพร  ตรังคสมบัติ เป็นจิตแพทย์เด็กที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้แต่งหนังสือเล่มนี้ได้ดีมากๆเลย ถ้าหากว่าหลายๆคนสนใจเรื่องความสมานฉันท์ ผมเชื้อว่าท่านก็จะสามารถที่จะทำเรื่องต่างๆได้ดี อย่างเช่นมีความสมดุลในการสื่อสาร มีความจริงใจและก็ผู้บริหารผู้นำต้องทำเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับทุกๆคน สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งก็คือกระบวนการสร้างความสมานฉันท์ในองค์กรก็คือการมีส่วนร่วม การพัฒนาองค์กร การมีส่วนร่วมใช้กระบวนการลูกเสือมาใช้ การพัฒนาหรือว่าการใช้การพัฒนาเป็นกลุ่ม เรียกว่า OD หรือว่า Organization Development   ซึ่งก็จำเป็นต้องลงทุนครับ

 

คำถาม  6.  ท่านคิดอย่างไรในเรื่องสังคมของการดื่มสุราบ้าง

คำตอบ  6. ผมคิดอย่างนี้ครับ อาจจะตรึงเครียดไปรึเปล่าก็ไม่ทราบ เราต้องไตรตรองว่าสุรามันอยู่ในศีลข้อไหน ผมเรียนตรงๆครับ ผมศาสนาพุทธอาจจะเอียงไปทางศาสนาพุทธมากเกินไป กว่าพุทธองค์จะคิดเรื่องศีล 5มาได้ เชื่อว่ามันก็คงผ่านมาหลายๆชาติเลย มันมีบทบัญญัติตั้งเยอะแยะไม่คิดเป็นศีลสี่นะ ไม่คิดเป็นศีลหก ศีลเจ็ด ศีลแปด ท่านก็กำหนดไว้ศีลห้าข้อ ผมคิดว่าพวกเราป่วยการที่จะไปพิสูจน์ครับ พระองค์ท่านพิสูจน์มาเป็นหมื่นๆชาติ เป็นหลายๆแสนปีนะครับ ผมก็อยากจะให้พวกเราเชื้อ  บุคคลที่ไม่เชื้อก็ดื่มต่อไปนะครับ ผมเชื้อไปเสียแล้ว ผมก็เลยคิดว่าเรื่องของการดื่มสุราต้องงดดื่มร้อยเปอร์เซ็น ไม่ได้ดื่มบ้าง บางโอกาส แต่ท่านจะดื่มก็พิสูจน์ไปเถอะครับ สำหรับผมไม่อยากจะเอาครอบครัว ไม่อยากจะเอาชีวิต ไม่อยากจะเอาสิ่งที่แลกเปลี่ยน บางคนแลกเปลี่ยนโดยการเอาชีวิตของครอบครัว อุบัติเหตุร่างกาย จิตใจ และก็บ้านเมืองของเรา อายุพวกเราสั้นครับ แต่ผมไม่ให้เรื่องของสุรามาพิสูจน์อีกแล้ว  ที่พูดนี่ไม่ใช่ว่าเกิดมาชาตินี้ผมไม่เคยดื่มสุราเลย ผมลองมานานแล้วครับแล้วก็คิดว่าชาตินี้เพียงพอแล้ว ชีวิตเค้าเรียกว่าได้กลับตัวไปในชาตินี้เสียแล้ว ก็คงจะไม่กลับมาดื่มสุราอีกหรอกครับ

 

คำถาม  7. ท่านมีแนวคิดอย่างไรในการใส่ชุดลูกเสือทุกๆวันพุธ

คำตอบ  8. ในช่วงที่ผมอายุน้อยๆ ผมเคยมองชุดลูกเสือมีความรู้สึกอิจฉานะครับ คนที่ใส่ชุดลูกเสือได้ แล้วไม่รู้จักรัก หลังๆนี่ผมมีความทุกข์ในเรื่องของเด็กและเยาวชนติดสิ่งเสพติด ติดโรคเอดส์กันมากมีพฤติกรรมที่ไม่ดี ผมก็หาทางออก ผมไปพบว่า ลอร์ดบาเดน พาเวลล์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งลูกเสือโลกเค้าได้คิดค้นกระบวนการลูกเสือ เคล็ดลับก็คือเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เปลี่ยนแปลงความคิดของคนเพื่อให้เกิด

ความรักชาติ รักศาสนา รักพระมหากษัติของตัวเอง ให้เป็นคนดี ภายใต้กระบวนการนี้ เป็นกระบวนการที่สามารถให้คนเปลี่ยนแปลงความคิด เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ การเน้นให้คนเปลี่ยนแปลงความคิด และพฤติกรรมเป็นบทสุดท้ายของทุกๆคน ทุกๆบริหาร นะครับ แต่ไม่บอกว่าทำอย่างไร  ผมก็สนใจเรื่องลูกเสือ ผมก็เข้าไปเข้าสู่กระบวนการอบรม ผมได้ลูกเสือสามท่อนและกำลังจะได้สี่ท่อนถ้าหากว่าได้มีโอกาสในชาตินี้นะครับ

ในช่วงที่ผมอบรมลูกเสือสามท่อนก็มีคำถามที่ถามผมว่า ถ้าท่านจะทำอะไรให้วงการลูกเสือท่านจะทำอย่างไร ผมก็เลือกเรื่องหนึ่งก็คือการแต่งตัวลูกเสือเค้าก็ถามกลับนะครับว่า ท่านกล้าหรือ อนาคตท่านอาจจะมีตำแหน่งใหญ่ต่อไป ผมกล้า แล้วการแต่งชุดลูกเสือดีไหม เค้าบอกว่าเป็นการแสดงออกที่ดีมาก แล้วผมก็ทำมาเรื่อยๆครับเป็นสิบปีแล้ว แล้วที่ได้ผลดีที่สุดก็คือลูกชายของผมเอง ทุกครั้งที่ผมแต่งตัวลูกเสือผมสวมหมวกสองใบ ใบที่หนึ่งคือเป็นพ่อเค้าครับ ใบที่สองคือเป็นผู้บังคับบัญชาลูกเสือ เพราะฉะนั้นลูกผมจะได้ผลบุญจากการแต่งตัวชุดลูกเสือตรงนี้ด้วยครับ และผมก็ทราบมาจากเพื่อนร่วมงานไม่ว่าจะเป็นครู ไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่ที่ผมขึ้นนะครับที่กรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นสนามบินที่ผมแต่งไป เค้าก็บอกว่าเค้าก็จะมองเห็นผมในลักษณะที่ดีครับ ก็เป็นสิ่งดีๆต่างๆที่อยู่ในตัวผมครับ

               

คำถาม  8.  ก็คือหลักการดำเนินชีวิตของท่านในการครองตน ครองงาน ท่านใช้หลักอะไรในการ

                ปฏิบัติตน

คำตอบ  8.  ตอนนี้ผมอายุ 52 แล้วก็พยายามวิเคราะห์ตัวเอง ผมถูกคนอื่นวิเคราะห์ว่าผมเป็นสายวัด วัดที่ผมนับถือเป็นวัดสายหลวงปู่มั่น หลวงปู่เทศ  เทศรังสี วัดหินหมากเป้ง จังหวัดหนองคาย ผมก็มีหลักการดำเนินชีวิตว่าผู้ใดทำใจเป็นกลางได้ผู้นั้นก็จะพ้นจากทุกข์ทั้งปวง เพราะฉะนั้นด้วยหลักการตรงนี้ ผมก็ทำใจให้เป็นกลางๆ ในการครองตน ในกาครองงาน พยายามให้มีส่วนร่วมใช้หลักประชาธิปไตยเพราะฉะนั้นก็จะเดาใจผมยาก ไม่รู้ว่าผมต้องการสั่งการอย่างไร ผมเชื่อเรื่องเวรกรรมนะครับถ้าหากว่าเราสร้างบุญกรรมที่ดี พยายามคิดในสิ่งที่ดี คณะกรรมการที่ร่วมทำงานด้วยน่าจะทำในสิ่งที่ดี การตัดสินใจบางอย่างผมไม่เห็นด้วยนะครับ ถ้าจำเป็นต้องตัดสินใจร่วม แต่ผมจะยึดหลักว่าเมื่อไม่ผิดกฎหมายเมื่อไม่ผิดศีลธรรม อาจจะไม่ถูกใจผมก็ได้นะครับ ผมก็ยอม แต่เมื่ออกมาแล้วก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพราะว่าเวรกรรมเราตัดสินใจผู้นั้นเป็นผู้บริหาร เพราะฉะนั้นเราต้องร่วมรับผลกรรมด้วยกันครับ แต่ถ้าผิดกฎหมายผมไม่ยอมผมไม่ยอมให้ผิดกฎหมายในขณะที่ผมรับราชการอยู่ครับ

 

คำถาม  9.  การเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้บริหารของชาวสาธารณสุข ควรประพฤติหรือควรเป็นแบบอย่างในด้านใดบ้าง

คำตอบ  9. ผมคิดว่าการเป็นผู้นำแบบอย่างผู้บริหารผมใช้แบบอย่างครอบครัวครับ เวลาเราเป็นผู้บริหารเราเป็นเหมือนพ่อของทุกๆคน อายุอาจจะน้อยกว่าแต่ก็เป็นหัวหน้าของทุกๆคน ดังนั้นทุกๆวินาที เราต้องมีคนรู้ว่าเราคิดอะไร เราคิดจะทำอย่างไร เพราะฉะนั้นเราต้องพยายามทำให้ดีที่สุดครับ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำ วัฒนธรรมที่เราทำ ยกตัวอย่างเช่น ที่เห็นชัดๆก็คือการย้ายของผม ผมพยายามทำเป็นแบบอย่าง ก็คือผมขอร้องว่าอย่าเลี้ยงส่งผมนะครับ อย่าไปส่งผม อย่าเดินทางไปส่งผมเป็นหมู่คณะที่จังหวัดราชบุรี  นั้นหมายความถึงผมกำลังจะสร้าง

วัฒธรรมองค์กรสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ขึ้น ซึ่งก็ไม่วิจารณ์คนอื่นนะครับผมวิจารณ์ตนเอง ผมของดการเลี้ยงส่งทุกประเภท การเดินทางเป็นหมู่คณะ แต่เปลี่ยนเป็นหากท่านมีความรู้สึกใด ท่านไปทำบุญที่วัดอุตรดิตถ์-

ธรรมราม  เวลา  08.30 น. วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2550  ก็ทำอาหารมังสวิรัตไปอย่างหนึ่ง หรือจะไปตัวเปล่าก็ได้ครับไปร่วมรับประทานอาหาร ไม่ต้องมีของที่ระลึก ไม่ต้องมีเงินใส่ซองครับ ไปแสดงความรู้สึกดีๆกันที่วัด

ฟังพระสวด พระให้พร ทำบุญด้วยกัน บุญนั้นนะครับจะได้บุญพร้อมๆกัน

 

คำถาม  10. ท่านคิดว่าท่านมีเรื่องใดบ้างที่ท่านอยากทำให้ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์แต่ว่าท่านยังไม่ทันได้ทำ

คำตอบ  10.มันก็มีเรื่องของการดำรงชีวิตอย่างพอเพียง ผมเรียนตรงๆว่ายังไม่สำเร็จ ผมอยู่ที่นี่หกปีมีคนที่ขี่จักรยานมาทำงานไม่ถึงสิบคนนะ เจ้าหน้าที่เรามีร้อยคนแต่อาจจะโลภเกินไปหรือเปล่า มีคนที่เห็นว่าธรรมมะเป็นทางนำของชีวิตมันยังน้อยนะ คนที่จะเดินสองกิโลคนที่จะมาใส่ชุดลูกเสือ ยังไม่มีครับ ที่ภูเก็ต มีคนที่กล้าอบรมลูกเสือ 1-2 รุ่น ครับ มีคนที่กล้าแต่งชุดลูกเสือเหมือนผมหลายคนแล้วครับ เป็นผู้หญิงด้วย ผู้ชายด้วย ก็อาจจะโลภเกินไปที่จะให้ทำมากนะครับ ก็ฝากนิดหนึ่งว่ามันคงจะทำตัวแปลกประหลาดนะครับที่ท่านไม่ขับรถเก๋ง ไม่ขี่มอเตอร์ไซด์ ไม่ขับรถปิ๊กอัพมา ขี่จักรยานแทนก็อาจจะมากเกินไป ตรงนี้ยังไม่สำเร็จ แต่ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่ง ก็คงหลายๆปี ก็จะสำเร็จเอง

 

คำถาม  11. ท่านอยากฝาก คำพูด หรือฝากอะไร เพื่อให้ชาวอุตรดิตถ์สานต่อ อุดมการณ์ของท่านบ้าง

คำตอบ 11. ก็คงเป็นคำพูดสุดท้ายนะครับ อย่าประมาณ ฟังเทปของผมแล้ว ไม่ใช่พูดเรื่องไม่ดีนะครับ เรื่องของชีวิตมันไม่แน่นอน ท่านอาจจะมีวันพรุ่งนี้อีกวันเดียวแล้วท่านจะเสียชีวิตไป ท่านอาจจะอยู่ในโลกนี้ต่อไป ชีวิตนี้ก็ไม่แน่ ผมอยากให้พวกเราอายุยืนครับแต่มันก็ไม่แน่ ก็อยากให้ท่านรีบคิดว่ามันไม่แน่ ถ้าหากอนาคตมันไม่แน่รีบสะสมบุญไว้เถอะครับ คิดถึงหมอบุญเรียงครับ ท่านจะเลือกออกกำลังกายอย่างไรก็ได้

วันหนึ่งสักประมาณ ครึ่งชั่วโมง คิดถึงหมอบุญเรียงให้ละบาปที่ท่านทำอยู่สักอย่างหนึ่ง คิดถึงผมให้บำเพ็ญบุญ ฝึกภาวนา วิปัสสนาด้วยวิธีของท่าน ศาสนาใดก็ได้แล้วบุญกุศลท่านจะได้รับด้วยตัวของท่านเอง ก็คงจะเป็นเรื่องสุดท้ายที่ฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ทุกท่านและชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ ขอให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญและก็ขอให้ดูแลหัวหน้าใหม่คือนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ท่านใหม่ ดีๆ เหมือนผมตลอดไป สวัสดีครับ 
หมายเลขบันทึก: 72059เขียนเมื่อ 11 มกราคม 2007 12:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน 2012 23:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท