รับฟังเสียงสะท้อนของเด็กๆให้มากขึ้น และการให้บริการรถสาธารณะที่ตระหนัก ใส่ใจและเป็นมิตรต่อเด็กๆ : ข้อคิดเห็นบางประการต่อเหตุการณ์สลดใจ ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษานักเรียน


ครอบครัวผมชอบพาลูกไปทัศนศึกษาตั้งแต่ยังเล็ก ไม่ว่าจะใกล้ ไกล

การพาเด็กๆไปทัศนศึกษา ได้อะไรมากกว่าการท่องเที่ยวแต่เป็นเรื่องของการเข้าอกเข้าใจ  ฝึกทักษะทางสังคม มีสัมพันธภาพที่อบอุ่น เป็นการกระตุ้นการเรียนรู้ของสมองได้ดีมากที่สุดอย่างหนึ่ง 

เรื่องรถยนต์ที่คนพูดกันมาก ก็ต้องมั่นใจจริงๆ ตั้งแต่ลมยางสภาพยาง ระบบเบรก ไฟส่องสว่าง ไปจนกระทั่งประกันและภาษี 

ไม่มั่นใจ จะไม่เสี่ยงเอาคน โดยเฉพาะเด็กๆ ในการเอารถไปไกลๆ

ความเร็วที่ใช้ ถ้ามีเด็กนั่งไปด้วย ผมจะขับไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใครอยากแซงแรงกว่านั้นก็ปล่อยเขาไป  

ถ้าถนนดูแล้วมีความเสี่ยง เช่น ลื่น ลาดชัน มีการก่อสร้าง หรือมีการจราจรพลุกพล่าน มีการขับรถคันใหญ่ๆ เช่น 10 ล้อรถพ่วง รถทัวร์ หรือการขับรถคันอื่นที่ขับเร็วมากๆ หรือเป็นช่วงกลางคืน ผมจะระวังเป็นพิเศษขึ้นไปอีก 

ก่อนเดินทาง ผมจะเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด  ตั้งแต่ตัวเองซึ่งเป็นคนขับต้องหลับให้เพียงพอ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดก่อนและขณะเดินทาง จัดการร่างกายและอารมณ์ของตนเองให้เยือกเย็นเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าจะมีเรื่องขุ่นเคือง หรือโกรธใครระหว่างการเดินทาง ผมจะรีบปล่อยวางให้เร็วที่สุด

ถ้าง่วงระหว่างเดินทางก็จะไม่ฝืน อาจจะจอดงีบหรือพักเป็นระยะ slow but sure

ระหว่างเดินทางแทนที่ผมจะเปิดเพลงตามใจตนเอง ผมก็จะเลือกที่จะเปิดเพลงในแบบที่พวกเขาชอบ หรือเพลงที่เหมาะสมกับพวกเขา เพื่อให้เขาได้ผ่อนคลายหรือมีความงอกงามทางสติปัญญาระหว่างการเดินทางไกลๆ

เด็กๆสามารถที่จะเรียกให้ผมจอดได้ตลอดถ้ามีอาการเมารถหรือปวดท้อง ขอเข้าห้องน้ำผมจะรีบแวะข้างทางที่สะอาดและปลอดภัยเท่าที่จะทำได้

อ่อ ผมมีติดป้าย ให้รถคันอื่นที่ตามมารู้ด้วยว่า “ในรถนี้มีเด็ก” เขาจะได้ระวังเรา

……………………………………………….

ที่กล่าวมานี้ใช่ว่าจะยกตัวเองว่าเป็นคนขับที่เยี่ยมยอดอะไร   แต่อยากจะชี้ชวนให้เห็นว่ายังไงแล้วกันทัศนศึกษา ถ้าจัดดีๆก็มีคุณประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะการไปกับครอบครัวหรือกับสถานศึกษาที่มีความรอบคอบรัดกุมในเรื่องความปลอดภัย ไม่ต่างอะไรกับประเทศที่เขาพัฒนาแล้ว

ที่สำคัญการได้ท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในความใฝ่ฝันของพวกเขา  ผู้ใหญ่อย่างเราควรให้ ก็คือการต่อเติม ไม่ใช่ไปตัดขาด ซึ่งมันดูง่าย แต่จะวกกลับไปสู่การใช้อำนาจ ในนามของ“ความรัก” โดยไม่ฟังเสียงสะท้อนจากหัวใจดวงน้อยๆ ว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร ซึ่งมันไม่น่าจะใช่วิธีที่ดี อย่างน้อยที่สุด ก็ในยุคสมัยที่โลกบอกว่าเราต้องหัดฟังเสียงและสร้างการมีส่วนร่วมของเด็กๆให้มากๆ กว่ายุคที่เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่ทำผิดพลาดเอาไว้จนเหลือคณา

นอกจากทุกฝ่ายควรหันมาฟังเสียงสะท้อนจากเด็กๆให้มากขึ้นแล้ว  สิ่งที่ผมพอจะนึกขึ้นได้ก็คือเรื่องจริยธรรมของคนขับ ซึ่งผู้ขับขี่ รวมไปถึงผู้ประกอบการรถสาธารณะ จะต้องให้บริการที่ใส่ใจในความเป็นเด็กมากพอ 

ที่ผ่านมา ก็ลองทบทวนดูโดยเริ่มจากตนเอง  ก็ดูจากการที่ตนเองมีบทเรียนประสบการณ์ในการพาลูกๆไปทัศนศึกษามาตั้งแต่เล็กแต่น้อย  อันนี้ทำไปตามวิสัย อาจจะไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีที่สุดแต่ก็คิดว่าน่าจะดีอยู่ระดับหนึ่ง เท่าที่พ่อคนหนึ่งพอจะนึกพอจะทำได้  ก็ทำไปตามธรรมชาติ ไม่ได้มีคู่มือแนวทางอะไรมาก่อนมากมาย

แต่ก็มานึกว่า ถ้าประเทศเรามีสแตนดาร์ดหรือมีมาตรฐานสำหรับผู้ขับขี่ยานพาหนะที่ต้องให้บริการกับเด็กแล้วเค้าควรต้องมีการสอบหรือมีหลักพิจารณา หลักปฏิบัติอะไรที่เป็นพิเศษมากกว่าการให้บริการแก่บุคคลทั่วไปอย่างไรบ้าง  อันนี้ก็อาจจะนำไปสู่การแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้างระบบนโยบายต่างๆที่เกี่ยวข้องได้เหมือนกัน

เพราะดูทุกวันนี้ถ้ามองดูผู้ขับขี่ยานพาหนะ รถสาธารณะก็ดูเหมือนว่าไม่ได้มีความละเอียดอ่อนต่อคนที่เป็นเด็กให้ยึดถือเป็นมาตรฐานในการปฏิบัติมากสักเท่าไหร่เลย 

นอกจากรถแล้วเรายังจะไว้ใจคนขับได้มากสักเท่าไหร่  นี่ก็เป็นคำถามในเชิงนโยบายที่รัฐบาล ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องรับไปพิจารณาเหมือนกัน

การเปิดโอกาสให้เด็กๆได้เรียนรู้โลกกว้างอย่าง สร้างสรรค์ปลอดภัยและใส่ใจในความเป็นเด็กที่มีลักษณะลักษณะเฉพาะไปจากผู้ใหญ่  ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างในเรื่องของร่างกายจิตใจอารมณ์สังคมและปัญญา เป็นหนึ่งในสิทธิเด็ก และสิทธิมนุษยชน ที่พวกเขาควรได้รับ

ไม่ต่างจากพวกเราหรือใครๆ

R.I.P กับทุกดวงวิญญาณ โดยเฉพาะเด็กๆที่จากไปทั้งวานนี้ และอดีตอีกไม่รู้จำนวนเท่าไร

 

cr. ภาพประกอบจาก somsak chaiigdikay

#รถบัสนักเรียนไฟไหม้
#ทัศนศึกษาปลอดภัย
#การให้บริการรถสาธารณะที่เป็นมิตรต่อเด็ก
#สิทธิเด็ก

หมายเลขบันทึก: 719578เขียนเมื่อ 2 ตุลาคม 2024 11:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 ตุลาคม 2024 11:32 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่าน


ความเห็น

ขอบคุณมากครับ สำหรับสาระและแง่คิดที่ดีและเหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน….วิโรจน์ ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท