ผมเล่าประสบการณ์ความเจ็บป่วยไว้ที่ gotoknow.org/posts/tags/บันทึกความเจ็บป่วย
คราวนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่เกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยครั้งก่อนๆ เริ่มมาเกือบเดือน ที่รู้สึกจุกที่คอคล้ายยาหรืออาหารติดอยู่ เริ่มรู้สึกเมื่อกินยาเม็ดใหญ่ๆ เช่นวิตามินซี ต้องดื่มน้ำตามอีกหลายอึก ซึ่งอาการก็หายบ้างไม่หายบ้าง แต่ไม่รำคาญมากนัก
ช่วง ๒ สัปดาห์ที่ผ่านมา อาการมากขึ้น จนทำให้กังวลว่าอาจมีก้อนอุดที่ท่ออาหารส่วนบน กังวลว่าอาจเป็นเชื้อมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้หรือไม่ เพราะมะเร็งที่ผมเป็นมันเกรดสูง คือลุกลามง่าย และอยู่ระหว่างไตร่ตรองว่าจะขอไปตรวจดีหรือไม่
เที่ยงวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗ กินอาหารเที่ยงที่โรงแรมอีสติน พญาไท หลังร่วมประชุม ๓ บอร์ดของ สกสว. ที่คงจะกินมากไปหน่อย เมื่อขึ้นรถกลับบ้านก็รู้สึกจุกอย่างรุนแรง และรู้สึกอยากอาเจียน เป็นอยู่ราวๆ ห้านาที ก็ตัดสินใจโทรศัพท์ไปยกเลิกการเดินทางไปลำปางในวันรุ่งขึ้น และโทรศัพท์ไปปรึกษา ศ. นพ. อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราช ท่านบอกว่าจะช่วยขอให้หมอด้านคอช่วยตรวจ ตกเย็นหลังจากอาการทุเลาลงมากแล้ว รศ. นพ. ภาวิน เกษกุล อดีตหัวหน้าภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา และปัจจุบันเป็นประธานราชวิทยาลัย โสต ศอ นาสิกแพทย์แห่งประเทศไทยก็โทรศัพท์มาหา ซักอาการและนัดไปส่องกล้องในวันรุ่งขึ้น ๑๑.๓๐ น. ที่ห้อง ๑๐๒ อาคารสยามินทร์
ห้อง ๑๐๒ เป็นห้องส่องกล้องโดยเฉพาะ เมื่อเข้าไปก็ตกใจ เพราะที่นั่งว่าง ไม่มีผู้ป่วยหรือญาติแม้แต่คนเดียว ถามได้ความว่า หมอจัดการตรวจจบไปแล้ว และช่วงบ่ายวันนี้ไม่มีคลินิก
ผมไปถึงราวๆ ๑๑.๑๕ น. พยาบาลจัดการซักประวัติ และอธิบายว่าเพื่อเตรียมการส่องกล้องจะเอายาชาชุบผ้าก๊อซแปะที่รูจมูกทั้งสองข้าง หากยาเข้าไปในปากก็จะรู้สึกขมบ้าง หากหายใจทางจมูกลำบากก็ให้หายใจทางปาก คาผ้าชุบยาชาในรูจมูกทั้ง ๒ ข้าง ราวๆ ๕ นาทีก็เอาออก แล้วเอายาชาชนิดกินได้ เป็น 2% Lidocaine 5 cc. ให้ผมอมไว้ ๕ นาทีแล้วบ้วนทิ้ง
พอ ๑๑.๓๐ น. อ. หมอภาวินก็มาถึง และดำเนินการส่องกล้อง Transnasal Esophagoscopy คือใส่สายสวนเข้าทางรูจมูกขวา ไปสำรวจลิ้น คอ สายเสียง หลอดคอ ลงไปถึงกระเพาะอาหาร ระหว่างนั้นผมรู้สึกระคายตั้งแต่จมูก ท่อจมูก ลำคอ แต่ก็พอทนได้ หมอให้ลองกลืนน้ำ กลืนขนมก้อนเล็ก ขนมก้อนใหญ่ และบอกว่าทำได้ปกติดีไม่มีที่ติ และตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆ ระหว่างส่องกล้องตรวจมีพยาบาลช่วย ๒ คน
ตรวจเสร็จ เอาสายสวนออก ท่านก็ให้ผมดูรูปที่บันทึกไว้ พร้อมอธิบายอย่างดี และถามผมเรื่องประวัติการเกิดอาการ การกินอาหารว่าเป็นคนกินอาหารเร็วไหม ซึ่งผมตอบว่าเร็ว ท่านจึงแนะนำให้กินอาหารให้ช้าลง เคี้ยวให้ละเอียดขึ้น บอกว่าอาการเกิดจากอายุมาก บวกกับอาการกรดไหลย้อน แต่ก็ไม่ได้สั่งยาใดๆ ให้
ที่จริงก่อนตรวจท่านบอกว่าเชื่อว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ก็ตรวจเสียให้สบายใจ ท่านคงจะพบกรณีแบบนี้มามาก เสียดายที่ผมลืมถามท่านว่าพบแบบนี้บ่อยไหม
ก่อนเที่ยง ผมก็ไปจ่ายเงินค่าบริการ ๕๐ บาท โดยอีก ๓,๐๐๐ บาทค่าส่องกล้องเก็บจากกรมบัญชีกลาง ในฐานะข้าราชการบำนาญ แล้วกลับบ้าน
อ้อ ตอนจะเดินเข้าห้อง ๑๐๒ คุณเทียนทิพย์ เศียรเมฆัน จันทร์คำ เจ้าหน้าที่สำนักงานสภามหาวิทยาลัยมหิดล วิ่งเข้ามาทัก และเอาขนมมาให้ ว่าดีใจที่พบผม ซึ่งเป็นผู้รับเธอเข้าทำงานที่สำนักงานสภามหาวิทยาลัยมหิดล
วิจารณ์ พานิช
๒๔ ก.ค. ๖๖
ยินดีครับ ที่อาจารย์ยังไม่เป็นอะไร…วิโรจน์ ครับ
ยินดีมากค่ะที่อาจารย์ไม่เป็นไร
ได้แง่คิดว่า ต้องกินอาหารช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียด เพราะบางทีแก้วทานอาหารเย็นจะท้องอืด ถ้าเดินออกกำลังกายจะหายจากอาการค่ะ