สายสร้อยของแม่


แม่จะสอนให้ลูกเรียนรู้และสัมผัสความทุกข์ยากของครอบครัว สอนทักษะการแก้ปัญหาที่แม่ไม่เคยทำให้ใครต้องเดือดร้อน แม่มีวิธีหาทางออกให้ครอบครัวได้เสมอ และสอนให้ลูกเข้าใจและตระหนักว่าการศึกษาต้องมาก่อน แม้จะลำบากยากเข็ญสักปานใดก็ตาม

สายสร้อยของแม่

          สายมากแล้ว แต่รถก็ยังติดหนึบอยู่กับที่ ขยับเขยื้อนเคลื่อนผ่านไปได้อย่างยากเย็น คนขับผู้เป็นหลานชายของลุงบ่นอุบอิบอยู่ในลำคอ บางครั้งก็สบถออกมาด้วยน้ำเสียงงึมงำ ฟังไม่ได้ศัพท์ ลุงผู้ซึ่งไม่เคยชินกับสภาพรถยนต์บนท้องถนนของกรุงเทพฯ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร ใจอยากจะหลับสักงีบ แต่เสียงบ่นของหลานทำให้ลุงหลับไม่ลง และกลับรู้สึกสงสารหลานที่สู้อุตส่าห์ขับรถมาผจญภัยในเมืองหลวง เพียงเพื่อพาลุงมาร้านถ่ายรูป

          รถกำลังจะขับผ่านสี่แยกไฟแดงที่อยู่ตรงหน้า สัญญาณไฟสีเขียวอำพัน ครั้งแล้วครั้งเล่าที่นับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้เปล่งประกายสดใสแวววาว ชวนให้ตื่นเต้นดีใจอย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะสีของมันมีความหมายอันยิ่งใหญ่ในเวลานี้ ว่าจะได้ก้าวข้ามผ่านความหงุดหงิดใจตรงหน้าไปได้เสียที

          แต่แล้วหลานชายผู้เป็นคนขับก็เหยียบเบรคจนตัวโก่ง เมื่อไฟแดงปรากฎขึ้นมาให้เห็นอย่างรวดเร็ว โชคดีที่หลานไม่ฝ่าไฟแดงไปเสียก่อน ลุงผงะจนหน้าคะมำไปข้างหน้าเล็กน้อยก่อนจะกลับมานั่งในท่าเดิม แล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก ส่วนหลานกระแทกหลังเข้ากับพนักพิงอย่างแรง ออกอาการโมโหกับการจราจรในวันนี้

          “ลุงมาถ่ายรูปร้านนี้เป็นประจำหรือครับ” หลานชายถาม พร้อมกับเอื้อมมือไปเปิดเครื่องเสียง กดปุ่มหาคลื่นวิทยุ คงต้องการจะหาเสียงเพลงเพื่อบรรเทาความเคร่งเครียด

          “ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ลุงมาร้านนี้ แต่เมื่อตอนที่ลุงเป็นเด็ก ลุงก็เคยมาแถวนี้เหมือนกันนะ” ลุงตอบ

          “ใครเป็นคนแนะนำล่ะครับ” หลานชายถามต่อ มือก็ยังสาละวนอยู่กับปุ่มเครื่องเสียงที่อยู่ตรงหน้า 

          “แม่ของหลานนั่นแหละ บอกลุงว่าร้านนี้ถ่ายรูปข้าราชการได้ดีที่สุด” ลุงตอบพร้อมกับมองหน้าหลานด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นสีหน้าของหลานดูดีขึ้น ลุงก็รู้สึกเบาใจ คงเป็นเพราะเสียงเพลงจากวิทยุที่เริ่มขับกล่อม ทำให้บรรยากาศค่อยๆผ่อนคลาย ทำให้ทั้งลุงและหลานไม่รู้สึกว่าต้องรีบเร่งจนเกินไป

          เมื่อรถขับผ่านสี่แยกแล้วมุ่งตรงไปบนถนนที่เริ่มจะคับแคบและมีรถยนต์แออัดมากกว่าเดิม สองฝั่งถนนเป็นอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่เรียงรายเต็มไปหมด ข้างหน้าเป็นตลาดสดเลยไปก็จะเป็นวงเวียนหอนาฬิกา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตลาดสดมากนัก ตรงนั้นทำให้ลุงฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า เคยมีศาลากลางจังหวัดและท่าเรือข้ามฟากระหว่างสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

          “ศาลากลางทำไมดูโทรมจัง” ลุงพูดขึ้นเบาๆ

          “หลังเก่าครับลุง ศาลากลางหลังใหม่เขาย้ายไปสร้างข้างนอกหลายปีแล้วครับ” หลานชายบอก “ถ้าไม่ย้ายออกไปรถคงติดมากกว่านี้ แต่ที่ผมรู้มาปัญหาน้ำท่วมก็มีส่วนนะครับลุง ทำให้ต้องรีบย้ายดีกว่า”

          หลานชายของลุงขับรถตรงไปก่อนเลี้ยวขวาใกล้กับหอนาฬิกา แล้วก็ขับเลียบแม่น้ำสักพักใหญ่ เหมือนจะให้ลุงรำลึกถึงอดีตที่ผ่านมา ที่ชีวิตของลุงกับครอบครัวเคยอาศัยอยู่ในละแวกนี้ มีความเป็นอยู่แบบใกล้ชิดกับแม่น้ำลำคลอง อยู่กับเรือกสวนไร่นา เมื่อกาลเวลาผ่านไปหลายสิบปี ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม

          “คุณพ่อคุณแม่ของลุงทำงานอะไรครับ” หลานชายถาม

          “พ่อของลุงทำงานเป็นลูกจ้างประจำสังกัดกรมชลประทาน  แม่ของลุงเป็นแม่บ้านคอยดูแลลูกๆ ในช่วงที่มีผลไม้ออกเยอะๆ แม่จะไปซื้อผลไม้จากสวนข้างบ้านมาวางขายที่ตลาด ที่อยู่ข้างหน้านี่แหละ หากเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ลุงก็จะมาช่วยแม่ขายด้วยทุกครั้ง” ลุงพูดพลางชี้มือให้หลายชายดูตลาดที่อยู่ด้านขวามือ

          รถเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ หลานชายหันไปมองตลาดสด ที่มีผู้คนเดินกันอย่างขวักไขว่ ก่อนจะหยุดรถตรงทางม้าลายเพื่อให้คนที่สัญจรไปมาได้ข้ามถนน

          “ตลาดใหญ่เหมือนกันนะครับลุง” 

          ลุงยังคงนั่งนิ่งไม่ได้พูดอะไร สายตาจับจ้องไปข้างหน้า เหมือนกำลังนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยพบผ่าน แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมากเหลือเกิน แต่ก็พอจะทำให้ลุงได้ทบทวนภาพลางๆที่ผุดขึ้นมาในความรู้สึก

          “แถวนี้ลุงจำได้ว่าเคยมีโรงรับจำนำอยู่ไม่ไกลจากตลาดมากนัก”

          “โรงรับจำนำอยู่ตรงนั้นครับลุง ที่เดียวกันหรือเปล่า ผมเห็นป้ายเขาเขียนว่าสถานธนานุบาล” หลานชายชี้ให้ลุงดูโรงรับจำนำที่อยู่ด้านซ้ายมือ

          “ใช่เลยนี่แหละ” น้ำเสียงของลุงมีกังวานฟังดูชัดเจนยิ่งนัก “ลุงกับแม่เป็นขาประจำที่นี่ มาใช้บริการปีละหลายครั้ง เข้าออกจนเขาจำหน้าได้” ลุงพูดในขณะที่สายตาจับจ้องโรงรับจำนำของรัฐอย่างไม่กระพริบตา 

          รถยังไม่ทันจะเคลื่อนตัวออกไป ทำให้ลุงมีโอกาสเพ่งพินิจพิจารณาถึงความใหญ่โตของโรงรับจำนำที่ลุงเคยมีประสบการณ์หลายครั้งในชีวิต

          “โห เปลี่ยนไปมากเลยนะ เมื่อก่อนเล็กนิดเดียว เดี๋ยวนี้ใหญ่โตมโหฬารอย่างกับธนาคาร”

          “ลุงเอาอะไรมาจำนำล่ะครับ” หลานชายถามพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อย

          “สายสร้อยของแม่”ลุงตอบเบาๆแล้วก็หลับตา เหมือนกำลังจะครุ่นคิดอะไรอยู่ รถเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ จุดหมายปลายทางคือร้านถ่ายรูปที่ลุงต้องการมาทำธุระในวันนี้       

          ลุงปิดเปลือกตาอยู่เป็นเวลานาน เพื่อสร้างความสงบนิ่งและเงียบงันขึ้นภายในใจ ลุงไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์และความอึกทึกคึกโครมจากนอกตัวรถเลยแม้แต่น้อย ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเพลงจากเครื่องเสียงภายในรถด้วยซ้ำ 

          ความคิดคำนึงของลุงเตลิดไปรวมตัวกัน ณ ที่แห่งหนึ่ง ที่ห่างไกลออกไปแต่เป็นที่ที่ลุงเคยอยู่และได้จากมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ลุงก็ยังหวนคิดถึงภาพคืนวันเก่าๆอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะภาพโรงรับจำนำกับสายสร้อยเส้นนั้นของแม่ยังคงตอกย้ำความรู้สึกของลุงอยู่เสมอ

          ภาพเด็กผู้ชายในวัยประถมปลายคาบเกี่ยวกันมาจนถึงมัธยมต้น เป็นตัวแทนพี่และน้องๆ ออกเดินทางสองคนกับแม่ในช่วงวันหยุด ด้วยเรือหางยาวประจำทาง แล้วมาต่อรถเมล์มุ่งสู่ตลาดสดในเมือง ด้วยเข่งและกระจาดผลไม้ ที่แม่เลือกแล้วว่าลูกค้าชอบและจะต้องขายดี มีทั้งทุเรียน ส้มโอ มะม่วงและกล้วย

          แม่ขายผลไม้หมดเกลี้ยงทุกวัน และกลับบ้านได้ทันลงเรือหางยาวเที่ยวสุดท้ายทุกครั้ง แต่รายได้ของแม่ รวมกับเงินเดือนของพ่อมักจะไม่พอใช้ในแต่ละเดือน ไม่มีใครเลยสักคนที่ใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือยหรือสุรุ่ยสุร่าย แต่ด้วยพ่อกับแม่ต้องส่งลูกเรียนถึง ๔ คน จึงย่อมจะหมดเปลืองเป็นธรรมดา

          สร้อยทองเส้นเดียวและเส้นเดิมๆของแม่ น้ำหนัก ๑ บาท จึงแวะเวียนไปอยู่ในโรงรับจำนำ ปีละหลายครั้ง และทุกครั้งจะมีลูกชายที่ช่วยขายผลไม้ไปด้วยเสมอ

          สร้อยทองที่แม่รักและหวงแหน ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ด้วยเงินที่แม่เก็บหอมรอมริบมาเป็นเวลานาน แม่จึงไม่ยอมขาย ใช้การจำนำที่ช่วยแก้ขัดไปได้ราว ๒ - ๓ เดือน จากนั้นแม่ก็จะนำเงินไปไถ่ถอนพร้อมดอกเบี้ยจำนวนหนึ่ง

          บรรยากาศในโรงรับจำนำ ยังติดตาตรึงใจลูกชายอยู่เสมอ เหมือนแม่จะสอนให้ลูกเรียนรู้และสัมผัสความทุกข์ยากของครอบครัว สอนทักษะการแก้ปัญหาที่แม่ไม่เคยทำให้ใครต้องเดือดร้อน แม่มีวิธีหาทางออกให้ครอบครัวได้เสมอ และสอนให้ลูกเข้าใจและตระหนักว่าการศึกษาต้องมาก่อน แม้จะลำบากยากเข็ญสักปานใดก็ตาม

          “ถึงร้านแล้วครับลุง” หลานชายพูดขณะที่ค่อยๆชะลอรถเพื่อหาที่จอด ลุงค่อยๆเปิดเปลือกตา เมื่อตื่นจากภวังค์ได้แล้ว ลุงก็ช่วยหลานชายสอดส่ายสายตามองหาที่จอดรถ

          “ในเพสของร้านเขาบอกว่าในบริเวณร้านมีที่จอดรถได้หลายคันนะ”

          “เขาคงจะหมายถึงวัดข้างหน้านั้นหรือเปล่าครับลุง” ว่าแล้วหลานชายก็ขับรถเลี้ยวเข้าประตูวัด ที่อยู่เลยร้านไปไม่ถึง ๑๐๐ เมตร

          เมื่อลุงและหลานชายเดินเข้าไปในร้านถ่ายรูปที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ภายในร้านกว้างขวางจัดวางรูปถ่ายและอุปกรณ์ต่างๆอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

          หลานชายเดินดูรูปถ่ายข้าราชการเกือบทุกสังกัด นักการเมืองและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่แต่งกายด้วยชุดปกติขาว ประดับเครื่องราชย์อิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพายที่มีทั้งแถบสีแดงและสีน้ำเงิน มองดูละลานตาไปหมด

          ลุงเดินไปพูดคุยกับพนักงานของร้านที่โต๊ะรับแขก ลุงบอกทางร้านว่าเป็นข้าราชการบำนาญที่มีความประสงค์จะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก และบอกด้วยว่าได้เครื่องราชย์ชั้นสายสะพาย ปม. ทางร้านจึงให้ลุงเลือกกรอบรูปพร้อมราคา ลุงใช้เวลาเลือกอยู่ไม่นาน เมื่อได้กรอบรูปเป็นที่พอใจแล้ว เจ้าของร้านที่เป็นช่างถ่ายรูปมืออาชีพก็พาลุงขึ้นไปบนชั้นสองของร้าน เพื่อดำเนินการถ่ายรูปตามที่ลุงต้องการ 

          ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย ลุงจ่ายเงินทั้งหมดโดยที่ไม่ต้องมีมัดจำ แล้วนัดหมายวันที่จะมารับรูป ลุงไม่อยากให้ทางร้านส่งทางพัสดุไปรษณีย์ เกรงว่ารูปที่มีความหมายต่อชีวิตของลุงจะเสียหาย

          “วันนี้ถ้าผมไม่ได้มากับลุง ผมจะไม่รู้เลยว่ามีร้านถ่ายรูปที่ได้มาตรฐานอยู่แถวนี้” หลานชายพูด

          “ขอบใจมากนะ” ลุงยิ้มให้หลานอย่างมีความสุข ภายในใจก็อยากจะบอกหลานถึงความรู้สึกตอนนี้ว่า ถ้าไม่ได้สายสร้อยของแม่ในวันนั้น ลุงก็คงไม่มีรูปถ่ายที่ประดับสายสะพายให้เห็นในวันนี้เหมือนกัน

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๑๒  เมษายน  ๒๕๖๗

          

 

          

          

          

                                                                                                          

หมายเลขบันทึก: 717874เขียนเมื่อ 12 เมษายน 2024 21:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน 2024 22:42 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท