เภริวาทกชาดก


พระโพธิสัตว์กล่าวว่า เจ้าตีกลองกระหน่ำเป็นเสียงเดียว เป็นเหตุทำให้ทรัพย์ที่เราหามาได้โดยเหนื่อยยาก สูญหายหมด

เภริวาทกชาดก

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]

ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
๙. เภริวาทกชาดก (จากพระไตรปิฎก ลำดับเรื่องที่ ๕๙)

ว่าด้วยการตีกลองเกินประมาณทำให้เสียทรัพย์             

(ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์เกิดในสกุลคนตีกลองได้กล่าวถึงวิธีตีกลองว่า)             

[๕๙] เมื่อจะตีกลองก็ตีเถิด แต่อย่าตีให้เกินไป เพราะการตีเกินไปเป็นความเสียหาย ทรัพย์ตั้งร้อยที่เราได้มาเพราะการตีกลอง ได้สูญเสียไปเพราะเจ้าตีเกินไป

เภริวาทกชาดกที่ ๙ จบ

--------------------

คำอธิบายเพิ่มเติมนำมาจากบางส่วนของอรรถกถา 

เอกกนิบาตชาดก อาสิงสวรรค

๙. เภริวาทชาดก ว่าด้วยการทำเกินประมาณ

               พระบรมศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุผู้ว่ายากรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
               ความย่อว่า พระศาสดาตรัสถามภิกษุนั้นว่า จริงหรือภิกษุที่เขาว่า เธอเป็นผู้ว่ายาก. เมื่อภิกษุนั้นกราบทูลรับว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นความจริง พระเจ้าข้า. ก็ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอเป็นผู้ว่ายาก ในบัดนี้เท่านั้นก็หามิได้ แม้ในกาลก่อน เธอก็เคยเป็นผู้ว่ายากเหมือนกัน ดังนี้.
               แล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :-
               ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลคนตีกลอง อยู่ ณ บ้านตำบลหนึ่ง. พระโพธิสัตว์ฟังข่าวว่า ในกรุงพาราณสี มีงานเอิกเกริก ก็คิดว่า เราจักนำกลองไปตี ใกล้บริเวณที่เขามีมหรสพ หาทรัพย์ แล้วพาลูกชายไปในกรุงพาราณสีนั้น ตีกลองได้ทรัพย์จำนวนมาก นำทรัพย์ไปบ้านของตน ผ่านดงโจร ก็ห้ามลูกชายผู้ตีกลองไม่หยุดหย่อนว่า ลูกเอ๋ย เจ้าอย่าตีกลองไม่หยุดระยะ จงตีเป็นระยะๆ เหมือนเขาตีกลอง เวลาคนใหญ่โตเดินทาง.
               ลูกชาย แม้จะถูกบิดาห้ามปราม กลับพูดว่า ฉันจักไล่พวกโจรให้หนีไป ด้วยเสียงกลองให้จงได้ แล้วก็ตีกระหน่ำไม่หยุดระยะเลย. พวกโจรฟังเสียงกลองครั้งแรกทีเดียว คิดว่า จังหวะเหมือนกลองคนใหญ่โต พากันหนีไป ครั้นฟังเสียงติดๆ กันเกินไป ก็พูดกันว่า ต้องไม่ใช่กลองคนใหญ่โต หวนกลับมาซุ่มดู เห็นคนสองคนเท่านั้น ก็รุมทุบแย่งเอาทรัพย์ไป.
               พระโพธิสัตว์กล่าวว่า เจ้าตีกลองกระหน่ำเป็นเสียงเดียว เป็นเหตุทำให้ทรัพย์ที่เราหามาได้โดยเหนื่อยยาก สูญหายหมด.
               แล้วกล่าวคาถานี้ ความว่า :-
               เมื่อจะตีก็พึงตีเถิด แต่อย่าตีเกินประมาณ เพราะการตีเกินประมาณ เป็นการชั่วช้าของเรา ทรัพย์ที่ได้มาตั้งร้อย เพราะการตีกลอง ได้ฉิบหายไป เพราะเจ้าตีกลองเกินประมาณ. ดังนี้
               พระบรมศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงสืบอนุสนธิประชุมชาดกว่า
               ลูกชายในครั้งนั้น มาเป็นภิกษุว่ายาก ในบัดนี้
               ส่วนบิดาได้มาเป็น เราตถาคต ฉะนี้แล.

-------------------------

คำสำคัญ (Tags): #บิดา#ลูกชาย
หมายเลขบันทึก: 716522เขียนเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2023 04:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2023 04:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท