๒๔๙. เพชรพระอุมา


  ความรู้สึกที่อ่านตอนนั้น เหมือนดูหนังซีรี่ส์แนวตื่นเต้นผจญภัย ถ้าเป็นหนังเก่าๆฟอร์มใหญ่ก็คงเทียบอารมณ์ประมาณ”ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า” ที่ใช้นักแสดงแถวหน้าอย่างแฮริสันฟอร์ด นั่นเอง

เพชรพระอุมา

            นับเป็นครั้งแรก..ที่ซื้อหนังสือชุดใหญ่ ที่ต้องอ่านไปอีกนานกว่าจะจบครบทุกเล่ม และคงต้องหมดเงินอีกเยอะเลยกว่าจะครบหมดทุกชุด

            ฝันไว้นานแล้วว่าจะเริ่มต้นอ่านหนังสือย้อนยุคแบบนี้ ก็พอดีมีเวลาเหลือเฟือจึงได้ทำในสิ่งที่ชอบในเวลาที่ใช่ ในช่วงเวลาหลังเกษียณแบบนี้

            เริ่มกันที่”เพชรพระอุมา”ก่อนเล่มอื่น วรรณกรรมในตำนานที่หลายคนกำลังลืมเลือน บางคนไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ แต่ถ้าลองได้อ่านแล้วจะรู้สึกดื่มด่ำไปกับอรรถรสของเรื่องราวมิใช่น้อย

            ผมเคยอ่านตั้งแต่สมัยเรียนในวิทยาลัยครู ตอนนั้นเอกภาษาไทย โทบรรณารักษ์ แต่อ่านแบบครึ่งๆกลางๆ สลับตอนกันไปมา ทำให้จับต้นชนปลายไม่ค่อยจะถูก

            ความรู้สึกที่อ่านตอนนั้น เหมือนดูหนังซีรี่ส์แนวตื่นเต้นผจญภัย ถ้าเป็นหนังเก่าๆฟอร์มใหญ่ก็คงเทียบอารมณ์ประมาณ”ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า” ที่ใช้นักแสดงแถวหน้าอย่างแฮริสันฟอร์ด นั่นเอง

            พอสายตาจับจ้องหน้าปกหนังสือ หลังจากแกะกล่องเป็นที่เรียบร้อย ใจก็คิดถึงชื่อหนังสือเล่มอื่นๆที่แวะเวียนเข้ามาอยู่ในความทรงจำ เหมือนจะจ่อคิวให้ผมไขว่คว้าหามาอ่านโดยเร็ว

            อาทิ ผู้ชนะสิบทิศ  ละครแห่งชีวิต กามนิต วาสิฏฐี และอยู่กับก๋ง  งานนี้นอกจากจะบ่งบอกรสนิยมในการอ่านแล้ว ยังสามารถบอกถึงความเป็นผู้สูงอายุได้เลย เพราะชื่อในแต่ละเล่มที่ผมเอ่ยมาล้วนเป็นหนังสือเก่าแก่ แต่ยังคงมีคุณค่าอยู่ในโลกของ”วรรณกรรมไทย”

            ผมเคยคิดนะว่าทำไม..กระทรวงศึกษาธิการไม่รื้อนโยบายเก่าๆกลับมาใช้ใหม่ แบบ สปช.(เดิม) ที่เคยทำไว้ โดยจัดพิมพ์หนังสืออ่านนอกเวลามาให้นักเรียนประถมตอนปลายได้อ่าน

            หากครูได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน แลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวในหนังสือ ผมเชื่อว่านักเรียนจะรักการอ่านและอ่านคล่องเขียนคล่องมากกว่านี้

            ที่สำคัญก็คือ นักเรียนจะมีจินตนาการกว้างไกล ได้เรียนรู้คู่คุณธรรม ได้รับการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีงามขั้นพื้นฐาน ที่ผู้เขียนสร้างสรรค์ผ่านตัวละครและเรื่องราวที่มีความหลากหลาย

            “การอ่าน” ช่วยสร้างสมาธิได้เป็นอย่างดี อีกทั้งพัฒนาสมองทั้งสองซีกไปพร้อมๆกัน ปัจจุบันเด็กไทยสมาธิสั้นมากขึ้น “หนังสือ”จึงน่าจะช่วยได้ ช่วยกล่อมเกลาให้จิตใจเย็นลง รู้จักคิดใคร่ครวญ ใช้เหตุใช้ผล รู้จักพัฒนาตนเองในเส้นทางที่ตัวเองใฝ่ฝัน

            ผมคิดว่าถึงเวลาแล้ว ที่ครูทุกคนต้องใช้”วรรณกรรมเด็ก” บูรณาการเข้ากับการเรียนการสอนในทุกสาระวิชา ก่อนที่จะสายเกินไป เพราะปัญหาทุกวันนี้นักเรียนส่วนใหญ่จะเขียนบรรยายหรืออธิบายอะไรแทบจะไม่ได้เลย

            ถ้าครูปลูกฝังให้นักเรียนอ่านหนังสือตั้งแต่วันนี้ เขาจะเขียนได้ดีในอนาคตอันใกล้..เชื่อเถอะ

            ไม่ต้องเริ่มต้นที่เพชรพระอุมาอย่างผมก็ได้ เอาแค่..นิทานอีสปหรือนิทานเวตาล..ก็พอ

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๒  พฤศจิกายน  ๒๕๖๖

           

 

หมายเลขบันทึก: 715825เขียนเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2023 20:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2023 08:02 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท