วันที่ ๔ สิงหาาคม ๒๕๖๖ ผมไปร่วมการสอบนักศึกษาปริญญาเอกคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้ความรู้เอามาเคี้ยวเอื้อง (reflection)
ตอนอ่านเอกสารวิทยานิพนธ์ ผมมองเห็นชัดเจนว่า วาทกรรมที่ยกมานั้น มีจุดอ่อนหรือข้อหลงผิดตรงที่เป็นการหยิบจุดเดียวหรือด้านเดียวของกัญชามาเป็นกฎหมาย หรือเป็นข้ออ้าง ที่เรียกว่า reductionism ในขณะที่ความเป็นจริงเรื่องกัญชามีความซับซ้อน มีหลายแง่หลายมุมมาก
วาทกรรมกัญชาในสังคมยังมีลักษณะมุ่งใช้อำนาจ หรือมุ่งสื่อสารเชิงชักจูง หรือครอบงำ ไม่ใช่วาทกรรมเพื่อความประเทืองปัญญา เรื่องนี้อยู่ในวิทยานิพนธ์ส่วนบทนำและความสำคัญของปัญหาแล้ว
แต่ตอนสอบ ท่านประธานคณะกรรมการสอบ ศ. ดร.กิติพัฒน์ นนทปัทมะดุล และกรรมการท่านอื่นๆ ได้ชี้ให้เห็นมายาคติที่ซ่อนอยู่ภายในวาทกรรมเหล่านั้นอย่างลึกซึ้งมาก โดยเฉพาะมายาคติเชิงอำนาจและผลประโยชน์
ผมมองอีกมุมหนึ่งว่า วาทกรรมกัญชา ที่นำสู่พฤติกรรมการเสพและการทำธุรกิจ จะทำให้เกิดกลุ่มผู้ได้ประโยชน์ กับกลุ่มผู้ตกเป็นเหยื่อ ที่ชีวิตต้องถูกทำลายจากการเสพแบบทำร้ายตนเอง
น่าจะเป็นโจทย์วิจัยเชิงสังคมที่มีประโยชน์มาก
วิจารณ์ พานิช
๒ ก.ย. ๖๖
ไม่มีความเห็น