ทริปนี้ฉันพูดถึง เย็นสบายชาวนา บ่อยครั้ง
ฉันทำสีน้ำเงินปักหมุดในแผนที่ น่าจะเป็นตำแหน่งของนาตาดหมอก จุดหมายที่ฉันจะไป แต่ฉันก็ได้พักครึ่งทางที่เย็นสบายชาวนา จนมีเรื่องราวมาเขียนใน Ep. นี้
จากเว็บไซต์ของเย็นสบายชาวนา มีความเป็นมาและที่มาของชื่อฟาร์มเสตย์แห่งนี้ By the way, "Yensabai" is the name of a famous Lao song that describes the happy way of farming life. ทำเอาฉันต้องไปหาฟังเพลงจากยูทูปเลยทีเดียว Laos Song: Yen Sabai Sow Na
ฉันมาตามอ่านเรื่องราวของเย็นสบายทีหลังจากการรู้จักและสัมผัสเย็นสบายชาวนา ทำเอาฉันทึ่ง และมีความอยากให้ของที่ระลึกบางอย่างที่มาจากธรรมชาติ (เครื่องปั้นเซรามิก) ไปปรากฏที่เย็นสบายชาวนา ณ มีนาคม 2566 ตั้งใจจะฝากแก้วน้ำชาไปให้เซียงไซยและน้องติ๊ก ก็ไม่ทันฝากเอนกเลย เอนกไปบ้านสบกองเมืองงอยแล้ว จะให้ฝากนางต๊อดหอบหิ้วไปก็คงไม่ดีแน่ ทั้งลูกเต้าและข้าวของ มี Way ว่าฉันอาจจะต้องไปอีก หรือต้องรอเอนกไปอีกรอบ (เหนกก็บอกตุ่นหน่อย)...ฉันอยากฝากของกับน้องเค้าจริงๆ ฉันเตรียมของไว้ด้วยความสุข ไม่สุขตอนที่ฝากไปไม่ทันนี่หล่ะ ฉันว่าสายตาเค้าเห็นความสวยงาม แก้วชาพวกนี้อยู่กับเค้าแล้วน่าจะดูดีมากกว่าอยู่บ้านฉันแถมได้ใช้ประโยชน์ในวันอากาศหนาวด้วย
แก้วชาเอาไว้จิบชาร้อนในวันหนาว
อันนี้เอาไว้เป็นจอกเหล้าเป้ก กระดก ร้อนวาบๆ
ฉันรู้จักเย็นสบายชาวนา จากการแวะพักครึ่งทางระหว่างการ Trekking เข้าไปนาตาดหมอก ทักทายสบายดีก่อนเข้าไปนาตาดหมอก อัธยาศัยการต้อนรับขับสู้ของครอบครัวเซียงไซยทำให้อบอุ่นใจ เซียงไซยจัดชาร้อนมาให้ดื่ม ที่ชอบคือการจัดเสิร์ฟ...รองใบตองและมีดอกไม้ประดับด้วย...ทำให้โลกวันนี้ดูละมุน
ระหว่างทางไปนาตาดหมอกเอนกก็เล่าให้ฟังบ้างว่าที่เย็นสบายชาวนาคาเฟ่ออแกนิคฟาร์มและฟาร์มเสตย์ ทำอะไรอย่างไร และอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เอนกการมาปรับปรุงที่การเกษตร “นาตาดหมอก” ให้เป็นที่พักในบริบทของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เช่นเดียวกับเย็นสบายชาวนา ฉันอ่านเจอช่วงเวลาของหนูลงรูของเซียงไซยจากหน้าเว็บที่ว่า At some point, he want changed his life to healthier, slower, more sustainable, autonomous and happy.
ขากลับออกมาจากนาตาดหมอก ฉันและครอบครัวเซียงไซยเดินออกมาพร้อมกัน น้องติ๊กภรรยาเซียงไซยทำขนมปังชุปไข่ทอดให้เด็กๆ ลูกของเอนกที่เดินทางออกมาส่งฉัน เซียงไซยต้มกาแฟสดให้ฉันกิน เป็นกาแฟสดแก้วแรกในช่วงเวลา 3 วันที่สบกอง จัดกล้วยน้ำว้าลูกโตไปอีก 1 ลูก และล้างปากด้วยชาเปลือส้มโอ...ได้กลิ่นอโรม่าสดชื่นดี
น้องแคนเอาสมุดเยี่ยมมาให้อ่าน เล่นเอาฉันอยากเล่นวาดรูปเลยทีเดียว นักเดินทางหลายคนฝากความรู้สึกไว้ในสมุดเล่มนี้ อ่านแล้วเพลินดี บางภาษาก็อ่านไม่ออก น้องแคนบอกว่าพ่อน้องแคน (เอนก)ก็เขียนนะแม่ตุ่น ลายมือเอนกเหมือนตอนเราเรียนมัธยมด้วยกันไม่เปลี่ยนเลย
เซียงไซยพาเดินชมฟาร์ม มีเรือนพักที่มีห้องน้ำในตัว 1 หลัง พื้นที่กางเต้นท์ พื้นที่สำหรับการเกษตร พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมแคมป์ปิ้ง ร้านกาแฟและจำหน่ายอาหาร
พื้นที่ทำสวนครัวปลูกพืชต่าง ๆ หลากหลายชนิด ไว้สำหรับทำอาหารการกินทั้งส่วนของครอบครัวและนักท่องเที่ยว รวมถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อินทรีย์ เซียงไชยเขียนไว้ในหน้าเว็บของตัวเองว่า “I grow every kind of plant, especially local species, depending on the season, and I love to experiment with my farming in a totally random style, learning more and more every day”
(ภาพจากเว็บไซต์เย็นสบายชาวนา)
ฉันอิจฉาคนที่เย็นสบายชาวนาคงจะมีชาจากธรรมชาติหลากหลายรสชาติกิน ซึ่งจะแตกต่างไปตามฤดูกาลที่ปลูกและเก็บเกี่ยวได้…เช่น ชาดอกกระเจี๊ยบต้องมาแระ…สีสวย วิตะมิน C เยอะ สารสีแดงที่ให้แอนโธไซยานิน สารต้านอนุมูลอิสระ…ถ้าเก็บได้เยอะก็ทำแยม…ฉันรุสึกคันไม้คันมือ…อยากทำ…อยากอยู่หลายๆวัน
ทั้งวันนี้และวันก่อน ฉันพบกับอาสาสมัคร ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งของฟาร์มเสตย์แห่งนี้ เซียงไซยเล่าให้ฟังว่า มีอาสาสมัครมาจากทั่วโลก และได้มาปล่อยพลังสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่นี่ เช่น การเขียนป้าย การช่วยออกแบบเมนู การวาดภาพฝาผนัง และอีกหลายๆ อย่างๆ
ฉันว่านอกจากที่อาสาสมัครได้ใช้เวลาที่เย็นสบายชาวนาเติมเต็มตัวเอง เส้นทางของมิตรภาพก็คงมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือการเรียนรู้ระหว่างผู้คน เรียนรู้วิถีชีวิต ความเชื่อ ประเพณีวัฒนธรรม และการฝึกตนให้ยอมรับในความแตกต่างของมนุษย์และสังคมที่แตกต่าง
ผนังห้องน้ำและช่องให้แสงจากขวดเบียร์ที่เป็นพลังสร้างสรรค์จากอาสาสมัคร
ศาลานั่งเล่นของเย็นสบายชาวนา วิวดีมาก เป็นวิวภูเขา Mountain View
เหมาะสำหรับการดื่มเครื่องดื่มกระป๋องเย็นๆในวันอารมณ์กรึ่มๆ หรือเหล้าต้มกระดกวาบให้ความอบอุ่นร่างกายในวันอากาศเย็น จิบกาแฟและชาร้อนในวันหมอกลอย....ถ้าไม่ติดว่าต้องข้ามโขงไป อยากเชียร์ให้ไปนอนพักร่างสักคืนสองคืน มาแคมป์ปิ้งกันค่ะ
สำหรับผู้ที่มีเวลาน้อยแต่อยากมีประสบการณ์ที่รุ่มรวยก็แถมเวลาจากหลวงพระบางสัก 2 วัน ฉันว่าเข้ามาที่สบกองตอนบ่าย Trekking ไปตาดหมอก ลงมากินข้าวเย็น สังสันท์รอบกองไฟ ค้างที่สบกอง 1 คืน ตื่นมาจิบเครื่องดื่มเช้ากับวิวภูเขา อาหารเช้า สายๆ กลับหนองเขียว ต่อรถกลับหลวงพระบาง
คุณตา พ่อของเซียงไซยบอกว่าถ้าฉันมาคราวหน้ามาพักที่นี้ลองดูบ้างจะไม่คิดเงิน ขอบพระคุณค่ะ-ขอบใจเด้อ ขอบคุณของว่างอร่อยๆ ฝีมือน้องติ๊ก
ฉันเชื่อว่าพลังคนรุ่นหนุ่มสาวของเซียงไซยและน้องติ๊กจะสามารถจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (การสัมผัสกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีที่แตกต่างไปแต่ละพื้นที่) ให้กลมไปกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ จะทำให้การท่องเที่ยวของลาวมีความยั่งยืนโดยเฉพาะในยุคที่รถไฟความเร็วสูงนำผู้คนเข้ามาที่ลาวจำนวนมาก ลูกตาวิบๆของเซียงไซยเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันกล้าพูดประโยคมะกี๊นี้...ว่าฉันเชื่อในพลังคนหนุ่มสาว…ขอพลังจงสถิตกับชาวเย็นสบายชาวนานะคะ
ปล.ไอ้ลูกตาวิบๆของเซียงไซยถอดแบบมาให้น้องน้ำผึ้งลูกสาวคนสวยแบบไม่ผิดเพี้ยนเลย
Footnotes-------------------------------------
เว็บไซต์เย็นสบายชาวนา : การเดินทาง กิจกรรม การติดต่อ เย็นสบายชาวนา http://yensabaiorganicfarm.com/?fbclid=IwAR2Fi-tBuumPGmmPHf0_VL4hkB21JYe5MUCmHUTSKRijfFhOSWtQJV4E8KU
ชอบจัง ท่องเที่ยวแบบนี้เนี่ย
บางทีวัยก็ไม่อำนวยค่ะ…ต้องรีบเที่ยวแล้วค่ะ อิจฉาคนที่จะมีเวลาเป็นของตัวเอง100%จังค่ะ