มหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน โดย ศ. นพ. ประเวศ วะสี
สถาบันพระบรมราชชนก : มหาวิทยาลัยเพื่อชุมชน
และการศึกษาบุคลากรสุขภาพในศตวรรษที่ ๒๑
โดย
ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์ประเวศ วะสี
ราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์
ประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ
ปาฐกถาพิเศษในการประชุมวิชาการของสถาบันพระบรมราชชนก
๙ มกราคม ๒๕๖๖
๑.
สถาบันพระบรมราชชนกคือโอกาส
ในการบูรณาการระหว่างการผลิตบุคลากรสุขภาพกับระบบบริการ
ในอดีตโครงการอนามัยโลกจัดประชุม เรื่อง การวางแผนการผลิตกำลังคนเพื่อสุขภาพ (Health Manpower Production) ระดับโลก หลายครั้งหลายหน ข้อเสนอซ้ำแล้วซ้ำเล่า คือ
“บูรณาการการวางแผนระหว่างผู้ผลิตกับผู้ใช้”
แต่ไม่เคยสำเร็จเพราะทั้ง ๒ ฝ่าย เสมือนสร้างดาวกันคนละดวง คือ
ผู้ผลิตหรือมหาวิทยาลัยเน้น เรื่อง ความเป็นเลิศทางเทคนิคหรือวิชาการ
กระทรวงสาธารณสุขเน้นระบบบริการที่ทั่วถึงเป็นธรรม
หลักสูตรการผลิตบุคลากรสุขภาพที่ทั่วโลกใช้เป็นมาตรฐานมา ๑ ศตวรรษ โดยข้อเสนอแนะของ Abraham Flexner เมื่อ ค.ศ.1911 เป็นการเอาเทคนิคเป็นตัวตั้ง อย่างที่เรารู้จักกันดี
เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วและวิจิตร (Sophisticated) ยิ่งขึ้น ๆ การผลิตบุคลากรสุขภาพก็ต้องวิ่งตามเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น ๆ จนกระทบต่อระบบ
ระบบบริการสุขภาพแพงขึ้นลิบลิ่ว และให้ผลไม่คุ้มค่า ไม่ cost-effective ดังเช่น สหรัฐอเมริกาใช้งบประมาณเพื่อสุขภาพถึง ๑๗ เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี แต่ให้ผลตอบกลับทางสุขภาพต่ำ ประชาชนไม่น้อยกว่า ๔๐ ล้านคน ไม่มีประกันสุขภาพใด ๆ ทั้งสิ้น ระบบสุขภาพที่แพงขึ้น ๆ และให้ผลไม่คุ้มค่าก่อให้เกิดวิกฤตบริการสุขภาพ (Healthcare crisis) ซึ่งแก้ไขได้ยาก ขนาดประธานาธิบดีคลินตันและสุภาพสตรีหมายเลข ๑ คือ Hillary Clinton เป็นผู้นำการปฏิรูปเอง ก็ไม่สำเร็จ
ระบบบริการสุขภาพที่ดี นิยามด้วยอักษร ๓ ตัว คือ EQE
E = Equity ... มีความทั่วถึงเป็นธรรม
Q = Quality ... มีคุณภาพ
E = Efficiency ... มีประสิทธิภาพ
คุณภาพมีความหมายกว้างและลึกมากกว่ามิติทางเทคโนโลยีอย่างเดียว การแพทย์ตติยภูมิและการแพทย์ทุติยภูมิมีความเป็นเลิศทางวิชาการเป็น technic - oriented care ไม่มีทางที่จะทำให้เกิดระบบบริการที่ดี EQE
จำเป็นต้องคิดถึง ระบบบริการแบบ EQE หรือ System – oriented care
การเอาระบบเป็นตัวตั้งไม่ได้หมายถึง ทอดทิ้งเทคนิคเทคนิคเป็นส่วนหนึ่งของระบบ แต่ระบบมีหลายมิติเข้ามาประกอบกันเป็นองค์รวมที่ให้คุณสมบัติ EQE
ระบบสุขภาพชุมชน คือ คำตอบ
ในปีค.ศ.2011 เมื่อครบ ๑ ศตวรรษของระบบการศึกษาของบุคลากรสุขภาพแบบเอาเทคนิคเป็นตัวตั้ง คณะกรรมการระดับโลกได้เสนอ
21st Century Health Profession Education
ซึ่งโดยสรุปเปลี่ยนกระบวนทรรศน์จากการเอาเทคนิคเป็นตัวตั้ง สู่การเอาระบบเป็นตัวตั้ง เพื่อแก้วิกฤตระบบบริการสุขภาพ
กว่า ๑ ทศวรรษผ่านไป ยังไม่ปรากฏการเปลี่ยนทิศทาง การศึกษาบุคลากรสุขภาพอย่างมีนัยยะสำคัญ
สถาบันพระบรมราชชนก ในฐานะมหาวิทยาลัยในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เหมาะสมที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อน 21st Century Health Profession Education หรือ 21 HPE
อีกทั้งนายกสภาสถาบันกับรองอธิการบดีท่านหนึ่งก็เป็นผู้ที่ได้ทุ่มเท เรื่อง 21 HPE มาเป็นเวลาเกือบ ๑๐ ปี
๒.
ระบบสุขภาพชุมชนคือกุญแจ
สู่การสร้างระบบบริการสุขภาพ EQE
ระบบสุขภาพชุมชน หรือระบบสุขภาพปฐมภูมิ ครอบคลุมประชากรเต็มพื้นที่และเป็นบริการแบบองค์รวม ซึ่งรวมกันป้องกันและเสริมสร้างสุขภาพด้วย ต่างจากระบบทุติยภูมิและตติยภูมิที่เน้นความเป็นเลิศทางการรักษารายบุคคล
ระบบสุขภาพชุมชน หรือบริการปฐมภูมิ น่าจะประกอบด้วยหน่วยบริการ ๘ หน่วย ซึ่งเชื่อมโยงกัน อาจเรียกว่า
มรรค ๘ แห่งระบบสุขภาพชุมชน ดังนี้
ทั้ง ๘ หน่วย ควรทำงานเชื่อมโยงบูรณาการกัน ใช้เทคโนโลยีสื่อสารระหว่างกัน และกับศูนย์การแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เป็นระบบบริการปฐมภูมิอัจฉริยะ
การมีระบบสุขภาพชุมชนที่ดี จะทำให้ประชาชนทั้งหมดได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องด้วยคุณภาพสูง เป็นระบบบริการสุขภาพ EQE โดยแท้
โรงพยาบาลชุมชน คือ จุดยุทธศาสตร์[1]
๓.
บูรณาการ
การพัฒนาคือการเชื่อมโยง
การพัฒนาทุกวันนี้ทำแบบแยกส่วนเป็นส่วน ๆ เป็นบางส่วนตัดขาดจากกัน การชำแหละอะไรออกเป็นส่วน ๆ เช่น ชำแหละโค ชำแหละสุกร ทำให้สิ้นชีวิต อะไรที่ไม่มีชีวิตก็เรียนรู้ไม่ได้ งอกงามไม่ได้ เป็นประดุจไม้ที่ตายแล้ว (dead wood) ความมีชีวิตเกิดจากการเชื่อมโยงส่วนต่าง ๆ เข้ามาบูรณาการสู่องค์รวม เช่น ร่างกายของเรา เมื่อมีชีวิตก็เรียนรู้ได้ งอกงามได้
ฉะนั้น การพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนต้องเชื่อมโยงส่วนต่าง ๆ เข้ามาบูรณาการกัน อย่างน้อย ๙ ส่วน ดังนี้
ซึ่งคือสาระของ 21st Century Health Profession Education
นั่นคือ การเปลี่ยนแปลงทั้งโลกทัศน์ วิธีคิด ความรู้สึกนึกคิด การปฏิบัติ ความสัมพันธ์ ในสภาวะใหม่อย่างนี้ การจะปรับองค์กรใด ๆ ที่เห็นร่วมกันก็จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเป็น Transformative force อย่างแท้จริง
โปรดสังเกตว่า เมื่อการศึกษาของบุคลากรสุขภาพในศตวรรษที่ 21 อยู่ในระบบบูรณาการที่มี Transformative field อย่างนี้ จะแตกต่างจากการศึกษาแบบแยกส่วน ที่เอาเทคนิคเป็นตัวตั้ง อย่างไร และเพียงใด
๔.
ผลของการบูรณาการระบบสุขภาพชุมชน
ขอเป็นกำลังใจและอวยพรให้เพื่อนคนไทย ประสบความสำเร็จในพันธกิจอันยิ่งใหญ่ เพื่อมนุษยชาติ
-----------------------------------------------------------
[1]โรงพยาบาลชุมชนแกนสถาบันฐานแผ่นดินไทย สร้างประเทศไทยที่มีบูรณภาพ โดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี
มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ
[2] ดู คู่มือพัฒนาอำเภออย่างบูรณาการสู่แผ่นดินศานติสุข (ประดุจสวรรค์บนดิน) โดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี
ไม่มีความเห็น