อานิสงส์ของการสวดมนต์ เจริญพระพุทธมนต์


การสวดมนต์เป็นการบริกรรมคาถา บทสวดต่าง ๆ โดยผู้สวดมนต์ เปล่งวาจาแบบพอสบายกาย สบายใจ ไม่ตะเบงเสียงมากเกินไป ใจมี สมาธิตั้งมั่นไปกับบทสวด ไม่คิดฟุ้งซ่านไปในสิ่งต่าง ๆ ทำใจให้สบาย คลายเครียด ทำใจให้เป็นสุขไปกับบทสวด การสวดมนต์มีอานิสงส์ ผลนบุญหลายประการ เช่น ก่อให้เกิดบุญกุศล ใจเป็นสมาธิตั้งมั่น บูชาพระรัตนตรัย คลายทุกข์ เพิ่มสุข ปลุกจิตให้แกล้วกล้า เจริญเมตตาภาวนา รักษาสุขภาพกาย สุขภาพจิตให้สมดุลแน่วแน่ไม่ผันแปรได้โดยง่าย กับสภาะอารมณ์ที่จะมาทำให้จิตเราผันแปรไปยังความชั่ว หรือ อกุศลต่าง ๆ

อานิสงส์ของการสวดมนต์ เจริญพระพุทธมนต์

 

อานิสงส์ของการสวดมนต์  เจริญพระพุทธมนต์

ดร.ถวิล  อรัญเวศ

           การสวดมนต์ มีมาตั้งแต่ก่อนพุทธกาลจนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ สำหรับชาวพุทธถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต

โดยเฉพาะพระภิกษุสงฆ์ สามเณร นักบวช นักบุญทั้งหลาย จะขาดข้อวัตร กิจวัตรส่วนนี้ไม่ได้เลย จะต้องทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น

           บทสวดตามวิถีพุทธ เป็นภาษาบาลีที่มีเนื้อหาที่เป็นสิริมงคล

ถ้าแปลเป็นภาษาไทยจะพบว่าเนื้อหาจะพรรณนาเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะ

พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ

           การสวดมนต์ จึงเป็นเรื่องที่มีมาแต่สมัยพุทธกาล ไม่ใช่เรื่อง

คร่ำครึ แต่เป็นเรื่องที่ยังทันสมัยอยู่เสมอ

            การสวดมนต์ ถือว่าเป็นกุศโลบายในการทำสมาธิ เพราะในระหว่างการสวดมนต์ ใจจะจดจ่ออยู่กับบทสวดนั้น ๆ หากเป็นบทสวดมนต์แปลจากภาษาบาลีเป็นไทย ยิ่งทำให้เข้าใจความหมายมากขึ้น ก็จะเข้าใจธรรมะอันลึกซึ้งได้ง่ายขึ้นด้วย

           บทสวดแต่ละบทจะเรียกว่า พระปริตร แปลว่า เครื่องคุ้มครองอันประเสริฐ ประกอบด้วยบทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า มีทั้งบทสรรเสริญคุณแห่งพระรัตนตรัย,บทอวยชัยให้พร บางบทนำมาจากพระไตรปิฎก บางบทเป็นบทที่แต่งขึ้นใหม่ในภายหลัง ในแต่ละบท แต่

ละบาท ล้วนแล้วแต่มาจากพระโอษฐ์ อันประกอบด้วยพระมหากรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ พระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้า โดย

เชื่อกันว่า การสวดมนต์เสมือนการได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า

          อนึ่ง ในปัจจุบัน คำว่า “สวด” จะใช้ในการสวดในงานอวมงคล

เช่น สวดพระอภิธรรม  สวดในงานศพ เป็นต้น ส่วน ตำว่า

“เจริญพระพุทธมนต์” จะใช้ในงานมงคลต่าง ๆ  เช่น งานทำบุญบ้าน

งานแต่งงาน เจริญพระพุทธมนต์งานบุญต่าง ๆ

 

อานิสงส์การ"สวดมนต์"

         การสวดมนต์ ถือว่าเป็นการฝึกฝนจิตใจให้สงบ มีสมาธิ และ

พลังแห่งสมาธินี้แหละจะก่อให้เกิดพลังอื่น ๆ ตามมา

          ปัจจุบันมีผลวิจัยออกมามากมายเกี่ยวกับการสวดมนต์ที่มีผลต่อสมองและร่างกาย ในวงการแพทย์ การสวดมนต์ ทำสมาธิ เจริญอานาปานสติ จะได้ผลอยู่ 3 อย่างหลักๆ คือ

 

1 เกิดภูมิต้านทานโรค โดยสร้างมาจากเซลล์สมองตัวหนึ่ง

 2 ระบบฮอร์โมน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในสมองจะสร้างสมดุลให้กับร่างกาย

 3 หัวใจและหลอดเลือด ความดันลดลง เป็นโรคหัวใจลดน้อยลง

   “เพียงแค่สวดมนต์และทำสมาธิ วันละ 12 นาที นาน 8 สัปดาห์ จะมีเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นต่อเซลล์สมองของเราทันที”

 สวดมนต์เพื่ออะไร

        การสวดมนต์นั้น มีนัยหลายประการ คือ

1.   สวดเพื่อสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้า

       บทสวดบางบทที่ใช้สวดนั้น เช่น บทอิติปิ โส ฯลฯ ภควาติฯ ชาวพุทธในสมัยพุทธกาล ผู้ที่มีจิตเลื่อมใสต่อพระพุทธเจ้านิยมใช้สวดเพื่อสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้า

    2. สวดเพื่อเป็นต้นทุนเจริญศรัทธา

        การสวดมนต์ก็เพื่อเพิ่มพูน พอกพูน เติมเต็มพลังแห่งศรัทธา

ความเชื่อ ความเลื่อมใสที่มีต่อคุณพระรัตนตรัย ที่นับถือเคารพบูชาเป็นสรณะ

2.   สวดเพื่อแผ่จิตเมตตา

      บทสวดมนต์แต่ละบทเป็นเสมือนตัวเชื่อมต่อส่งสัญญาณ แปรสภาพให้เป็นพลังงานพิเศษ เหมือนพลังงานทั่วไป ผ่านกระแสเสียงกระแสจิตจากจิตสู่จิตก่อให้เกิดเป็นบุญเป็นกุศล เป็นความรักความปรารถนาดี ความเมตตาปรานี ความสุข ความปลอดภัยส่งให้ มอบให้ อุทิศให้ แผ่ให้ เพื่อนร่วมโลกร่วมแผ่นดินทั้งมิตรและศัตรู ไม่เลือกชนชั้นวรรณะภาษา ขอให้อยู่ดีมีสุข

3.   สวดเพื่อทำสมาธิ

       ขณะสวดมนต์ จิตย่อมจดจ่อในบทสวด หรือที่จำไม่ได้ก็ใช้สายตาเพ่งมองตัวหนังสืออ่านบทสวดแต่ละอักขระ แต่ละวรรค แต่ละบท แต่ละตอน จิตในขณะนั้นย่อมรวมตัว ดับความฟุ้งซ่านลง เกิดเป็นสมาธิได้

 4.   เพื่อฝึกความอดทน

        เวลาที่สวดมนต์ ต้องใช้เวลานานพอสมควร ผู้สวดจึงต้องมีความอดทนอดกลั้นสูง ข่มทุกขเวทนาที่เกิดขึ้นในขณะสวดไปจนจบ ไม่ใช่เป็นเรื่องธรรมดา การฝืนกาย ฝืนใจ บังคับกาย บังคับใจในขณะนั้น ย่อมทำให้ขันติธรรม

     5. สวดเพื่อรักษาพระธรรม

        บทสวดมนต์บางบท เป็นพระพุทธพจน์ที่สำคัญ เช่น บทพระธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เป็นต้น เป็นหลักธรรมสำคัญ ที่จะต้องจดจำให้ได้ เพื่อรักษาไว้

        โดยปกติแล้ว บทสวดมนต์แต่ละบท ที่จะนำมาสวดนั้นผู้สวดจะต้องท่องจำให้ได้ขึ้นใจ แล้วนำมาสวดสาธยาย เพื่อเป็นการทบทวนอยู่เป็นประจำ เพื่อกันลืม

      6. สวดเพื่อกำจัดบาปอกุศล

         ในการสวดมนต์แต่ละครั้ง ต้องข่มซึ่งนิวรณ์ธรรม มีกามฉันทะ ความติดในสุข พยาบาทความหงุดหงิดไม่พอใจ ความฟุ้งซ่านรำคาญ ความง่วงซึม หดหู่ ความลังเลสงสัย และกำจัดอกุศลธรรมต่างๆ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความเห็นผิด ความถือตัวถือตน ความเกียจคร้านให้เบาบางจางหายหมดไปได้

     7. สวดเพื่อเป็นมงคลแก่ชีวิต

           ขณะสวดมนต์ จิตเป็นสมาธิตั้งมั่น ตั้งใจสวด สวดด้วยความสงบ เรียกว่า สมาธิ ขณะสวดจิตน้อมนึกพิจารณาไปตามบทสวด เห็นความเป็นจริงของชีวิต พิจารณาชีวิตที่ผ่านมาว่าเราจะตั้งอยู่ในความไม่ประมาท

 อานิสงส์การสวดมนต์

        การสวดมนต์มีอานิสงส์ หรือผลดีหลายประการ  เช่น

1.   เกิดผลดีต่อร่างกาย

คนที่สวดมนต์เป็นประจำนั้น ทางการแพทย์สมัยใหม่รับรองแล้วว่า การสวดมนต์ทำให้เกิดความสุขได้จริงในจิตใจ ส่งผลต่อร่างกายให้หลั่งสารความสุขออกมา ร่างกายก็จะแข็งแรง ใบหน้าสดใส ครูบาอาจารย์ในสมัยโบราณถึงปัจจุบันทราบถึงเคล็ดลับลับสำคัญ ให้สังเกตว่าท่านจะมีอายุยืนมาก และบรรพบุรุษของเรานั้น ท่านสวดมนต์เป็นประจำอายุท่านจึงยืนยาว ไม่เหมือนคนในปัจจุบันที่ห่างเหินการสวดมนต์มาก อายุจึงสั้น

2.   เกิดผลดีต่อจิตใจอารมณ์

จิตใจเบิกบาน อารมณ์แจ่มใส เพราะการสวดมนต์เป็น

การฝึกฝนจิตวิธีหนึ่ง เมื่อจิตจดจ่อบทสวด ก็ทำให้มีสมาธิ มีกำลัง คิดอ่านแก้ไขปัญหาอะไรก็จะทำได้ง่ายเพราะมีสติกำกับอยู่ทุกขณะจิต

3.   เสริมสร้างสิริมงคลต่อตนเอง และครอบครัว

ทุกบทสวดมนต์นั้นมาจากอักขระที่ศักดิ์สิทธิ์ ภาวนาแต่สิ่งดี ๆ

ก่อให้เกิดการมีพลังอำนาจดลบันดาลให้สิ่งอัปมงคลนั้นออกไปจากชีวิต และสร้างสิริมงคลให้กับคนที่สวด ยิ่งสวดมากก็จะมีสิริมงคลมากขึ้น ทำอะไรก็สำเร็จโดยง่าย

4.   สามารถแผ่บุญไปช่วยผู้อื่นที่เดือดร้อนได้

           บทสวดมนต์ทุกบทนั้น สมารถแผ่บุญกุศลไปช่วยผู้อื่นที่เดือดร้อนได้ ยิ่งเป็นสายเลือดเดียวกันจะยิ่งเร็วขึ้น เพราะมีทั้งบุญและกรรมดีผูกพันกันมา อานิสงส์ดังที่กล่าวมาข้างต้นจะทำให้มีสุข

        5. คลายความเครียด

           ขณะสวดมนต์จิตจดจ่ออยู่กับบทสวด สมองไม่ได้คิดในเรื่องที่ทำให้เครียด จึงทำให้อารมณ์ผ่อนคลายลง

        6. เพิ่มพูนศรัทธาในพระรัตนตรัย

บทสวดแต่ละบทเป็นการระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย เมื่อ

สวดบ่อย จิตก็จะยิ่งแนบแน่นอยู่กับพระรัตนตรัย

        7. ขันติบารมีย่อมเพิ่มพูน

           ขณะสวดต้องใช้ความอดทนเพื่อเอาชนะอาการปวดเมื่อยที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ตลอดถึงอารมณ์ฝ่ายต่ำทั้งหลายมีความเกียจคร้าน เป็นต้น ยิ่งสวดบ่อย ความอดทนก็จะมีมากยิ่งขึ้น

       8. จิตสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิ ขณะสวดจิตจดจ่ออยู่กับบทสวด ไม่วอกแวกฟุ้งซ่านไปที่อื่น จึงทำให้จิตสงบและเกิดสมาธิมั่นคง

        9. บุญบารมีเพิ่มพูน ในขณะสวดมนต์ จิตใจย่อมปราศจากกิเลส

มีความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นต้น จึงได้ชื่อว่าเกิดบุญบารมี บุญบารมีนี้ เมื่อสั่งสมมากเข้าก็จะเป็นทุนสนับสนุนให้บรรลุผลตามที่เราต้องการ

        10. จิตใจอ่อนโยนมีเมตตา การแผ่เมตตาหลังจากสวดมนต์ เป็นการส่งความปรารถนาดีไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ลดละความเห็นแก่ตัว เป็นอุบายกำจัดความโกรธในใจให้เบาบางและลดน้อยลง ทำให้จิตใจปราศจากความโกรธ และพบแต่ความสุข

         11. เกิดความเป็นสิริมงคล การสวดมนต์เป็นการทำความดีไปพร้อมกันทั้งทางกาย วาจา ใจ การทำดี พูดดี คิดดี ย่อมเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง

         12. เทวดารักษา ผู้ที่ประกอบกรรมดี ทางกาย วาจา ใจ ย่อมเป็นที่รักของเหล่าเทวดา และการที่เราได้แผ่เมตตาให้แก่เทวดานั้น ก็ยิ่งจะเป็นที่รักของเทวดามากขึ้น

         13. ปัญญาเกิด การสวดมนต์พร้อมคำแปล ทำให้ได้รู้และเข้าใจถึงความหมายของบทสวดนั้น

         14 จิตใจ ผิวพรรณผ่องใส

             การสวดมนต์ทำให้จิตใจของผู้สวดสดชื่นเบิกบาน จิตที่สดชื่นเบิกบานย่อม
ส่งผลให้ผิวพรรณดี หน้าตายิ้มแย้ม แจ่มใส ทำให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความรู้สึกเป็นมิตร 
รักใคร่เอ็นดู เป็นกัลยาณมิตร

 การสวดมนต์จะมีผลมาก

         ผู้สวดต้องมีสมาธิตั้งมั่นแน่วแน่ในบทสวด สวดแผ่เมตตาจิตไปยัง

เจ้ากรรม นายเวร โดยมีจิตแผ่เมตตาให้อยู่เย็นเป็นสุข ไม่เบียดเบียนกัน

 

สรุป

        การสวดมนต์เป็นการบริกรรมคาถา บทสวดต่าง ๆ โดยผู้สวดมนต์

เปล่งวาจาแบบพอสบายกาย สบายใจ ไม่ตะเบงเสียงมากเกินไป ใจมี

สมาธิตั้งมั่นไปกับบทสวด ไม่คิดฟุ้งซ่านไปในสิ่งต่าง ๆ ทำใจให้สบาย

คลายเครียด ทำใจให้เป็นสุขไปกับบทสวด การสวดมนต์มีอานิสงส์

ผลนุญหลายประการ เช่น ก่อให้เกิดบุญกุศล ใจเป็นสมาธิตั้งมั่น บูชาพระรัตนตรัย
คลายทุกข์ เพิ่มสุข ปลุกจิตให้แกล้วกล้า เจริญเมตตาภาวนา รักษาสุขภาพกาย
สุขภาพจิตให้สมดุลแน่วแน่ไม่ผันแปรได้โดยง่ายกับสภาะอารมณ์ที่จะมาทำให้
จิตเราผันแปรไปยังความชั่ว หรืออกุศลต่าง ๆ

 

แหล่งข้อมูล

https://play.google.com/books/reader?id=t5-JMAAAAEAJ&pg=GBS.PA0

https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/985468

https://www.sanook.com/horoscope/215449/

https://www.naewna.com/likesara/481738

https://bit.ly/35mwVL5

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 711229เขียนเมื่อ 13 มกราคม 2023 02:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มกราคม 2023 02:45 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท