ภัยที่ต้องระวังช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566

ภัยที่ต้องระวังช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ 

 

ภัยที่ต้องระวังช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566

ดร.ถวิล  อรัญเวศ

       ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของแต่ละปี มักจะเป็นช่วงที่จะวัดว่าใครจะกลับบ้านเก่า หรือได้รับเคราะห์กรรม เพราะชีวิตคนเรามักจะถึงจุดจบตอนเทศกาลปีใหม่ เทศกาลสงกรานต์ ต้องระวังตัวให้ดี อย่าประมาท มีสติ สัมปชัญญะทุกลมหายใจเข้าออก

          พุทธองค์ทรงสอนให้เรา จงยังประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท โดยเฉพาะช่วงเวลาเราขับรถ เดินถนน มักจะพบอุบัติ เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ง่ายเผลอเพียงแป๊บเดียวก็เกิดขึ้นแล้วบางครั้งเราระวัง แต่เขาไม่ระวังก็มี หรือเราไม่ระวัง ไม่แลซ้ายแลขวาขับรถไปชนรถคันอื่น หรือตกถนนก็มี ขับรถชนคนตายก็มี ขับรถชนต้นไม้ ชนเสาไฟฟ้าก็มี

          อุบัติเหตุช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ต้องระวัง โดยเฉพาะ 5 วันอันตรายช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อส่งท้ายปีเก่า  2565 ต้อนรับปีใหม่ 2566 นับจากวันนี้ไปเหลืออีกเพียง 1 สัปดาห์ก็จะถึงช่วงเวลางความสุขที่พวกเราทุกคนรอคอยนั่นก็คือการเฉลิมฉลองปีใหม่ 2566

       หลายคนมีแผนเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจเพื่อให้กำไรกับชีวิต พักผ่อนหย่อนใจ และอีกหลายคนจะกลับบ้านไปหาครอบครัวเพื่อไปเยี่ยมพ่อแม่ ครอบครัว เพื่อนสนิทมิตรสหาย

       อย่างไรก็ตามภัยที่ต้องระวังและอยากให้ทุกคนช่วยกันก็คือเรื่องของระวังการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนนในช่วงวันหยุดยาวซึ่งเราพอจะรู้กันดีว่ายอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในช่วงเวลาแบบนี้พุ่งสูง

 

 5 วันอันตรายท้ายปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่ 2566

           มาตรการรับมือ 5 วันอันตรายท้ายปีเก่า 2565 และต้นปีใหม่ 2566

          สำหรับในช่วง 5 วันอันตรายระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.65 – 2-3 ม.ค.66 ปริมาณรถเข้าออกจะเริ่มมากตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 2565 และจะหนาแน่นที่สุดในวันที่ 30-31 ธ.ค. ก่อนที่จะเบาบางลงและจะกลับมามากที่สุดอีกครั้งช่วงวันที่ 2-3 ม.ค.2566

 

มาตรการรับมือจากภัย

         ภัยที่มักจะเกิดในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566 มีหลายภัย ทั้งภัยจากจราจรบนถนน โจรภัยอุบัติภัย อัคคีภัย โรคภัยจากการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เป็นต้นรวมแล้ว เราต้องระวังทั้งสิ้น เช่น

         1. ไม่ประดับ ตกแต่ง สวมใส่ทรัพย์สินมีค่า หรือวางทรัพย์สินมีค่าไว้ในรถยนต์ เพราะอาจมีมิจฉาชีพ มาทุบกระจกหรืองัดประตูรถเพื่อขโมยทรัพย์สินไปได้

        2. สำรวจทรัพย์สินและล็อคประตู หน้าต่างบ้านหรือที่พัก ให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทางไปต่างจังหวัด และเข้าร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ เพื่อความอุ่นใจ และความปลอดภัยต่อทรัพย์สินของมีค่าที่เก็บไว้

      3. หลีกเลี่ยงการใช้บริการตู้เอทีเอ็มที่อยู่บริเวณที่เปลี่ยว มีแสงสว่างไม่เพียงพอ และไม่มีกล้องวงจรปิด

      4. ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

     5. ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะขับรถ หรือโดยสารรถ และห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทางเดินรถ เพราะแอลกอฮอล์ทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

     6. ไม่ใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถ และไม่ขับขี่รถในขณะร่างกายอ่อนเพลีย

     7. ระมัดระวังในการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง หรือปล่อยโคมลอย และห้ามยิงปืนเพื่อเฉลิมฉลองในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

     8.ใส่แมสก์เสมอ เพราะไวรัสโควิด 19 ยังไม่หมด และสามารถติดได้ง่าย

        ฯลฯ

        กรณีพบเห็นบุคคลต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้าย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบโดยเร็ว

        กรณีพบเหตุด่วนเหตุร้าย หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรเบอร์ฉุกเฉินตามกรณีเหตุด่วนเหตุร้ายนั้นๆ หรือสายด่วนกองปราบปราม 1195

 เคล็ดลับขับรถทางไกลช่วงปีใหม่ให้ปลอดภัยหายห่วง

         ช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้นปีใหม่ ทุกคนมักจะไปต่างจังหวัด

หรือกลับไปเยี่ยมบ้าน เยี่ยมครอบครัว จึงทำให้การจราจร

หนาแน่น และมักจะเกิดอุบัติเหตุทุกปี ดังนั้น จึงต้องระวัง

เพราะช่วงหัวเรี้ยวหัวต่อท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ มักจะวัดว่า

ใครจะกลับบ้านเก่า (ตาย) หรือยังมีชีวิตอยู่ต่อไป

 

เตรียมความพร้อมขับขี่ปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่

1.  ตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทาง

โดยเฉพาะยางล้อรถ เบรก คลัช เกียร์ ยังมีสภาพดีอยู่ไหม

         ในช่วงเทศกาลปีใหม่แบบนี้มั่นใจได้ว่าทุกคนและทุกครอบครัวคงจะมีการวางแผนท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นทริปทำบุญไหว้พระ ทริปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ หรือทริปเที่ยวต่างจังหวัด และแน่นอนว่าการเดินทางด้วยรถยนต์สุดรักเป็นอะไรที่สะดวกและสนุกสนานเป็นที่สุด และไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือทางไกลการตรวจเช็กสภาพรถถือเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก คุณคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์สุดเซ็งในทริปเที่ยวของครอบครัว อย่างเช่น รถเสีย สตาร์ทไม่ติด แอร์ไม่เย็น หรือยางแบนเกิดขึ้นแน่นอน ดังนั้นควรมีการตรวจเช็กสภาพรถก่อนออกเดินทางว่ามีความพร้อมมากแค่ไหน ควรเลือกสถานที่ในการตรวจเช็กให้ดี อย่างศูนย์ Nissan SMT ที่มีบริการตรวจเช็กสภาพรถหลายรายการ แถมได้รับมาตรฐานจาก Nissan Global โดยตรง ให้คุณมั่นใจได้เลยว่ารถของคุณจะได้รับการตรวจเช็กที่ดีพร้อมพาคุณท่องเที่ยวเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างหายห่วง

 

2.  พักผ่อนให้เพียงพอ

เมา ง่วงไม่ขับ

ไม่ว่าคุณจะมีการตรวจเช็กสถาพรถมาดีแค่ไหนแต่การพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะในช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นเทศกาลที่การใช้รถใช้ถนนมากมาย คนเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนกันตามแต่ละจังหวัด และถือเป็นเทศกาลที่มีอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์เป็นจำนวนมาก มักจะมีให้เห็นกันตามข่าวหน้าจอโทรทัศน์และหน้าหนังสือพิมพ์ในแต่ละปี ดังนั้นก่อนออกเดินทางควรมีการพักผ่อนให้เต็มที่เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการขับรถและทริปท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดช่วงเทศกาล

 

3.  ศึกษาเส้นทางและขับขี่อย่างมีสติ สัมปชัญญะ

         ในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงที่ผู้คนร่วมกันใช้รถใช้ถนนแน่นอนว่าก็เป็นเทศกาลที่รถติดเป็นอย่างมากซึ่งหากเราก็เป็นคนหนึ่งที่ควรที่จะศึกษาแผนที่และเส้นทางให้ดีเสียก่อน ไม่ว่าจะขึ้นเหนือหรือล่องใต้ อีสาน ตะวันออก เพราะแน่นอนว่าหากคุณคือนักท่องเที่ยวคุณย่อมไม่ชินเส้นทางอาจทำให้คุณหลงทางหรืออาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ฉะนั้นแล้วในการขับขี่ควรมีสติไม่ควรรีบเร่งจนเกินไปและควรวางแผนศึกษาเส้นทางให้ดีเสียก่อนป้องกันการหลงทางและเพื่อไม่ทำให้คุณเสียเวลาแห่งความสุขและความสนุกไป

       4.คาดเข็มขัดนิรภัยก่อนออกเดินทาง

          ต้องปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าเดือดร้อยภายหลัง นั้นคือในทุกการขับขี่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง ควรคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนออกเดินทางทั้งคนขับและผู้โดยสารป้องกันการเกิดอุบัติเหตที่ไม่คาดคิด เพื่อครอบครัวและคนที่คุณรัก เพราะอุบัติเหตุไม่ได้เลือกตำแหน่งและไม่ได้เลือกคนการป้องกันเอาไว้ก่อนถือเป็นเรื่องที่ปลอดภัยมากที่สุด ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย คาดเอาไว้ก่อนไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือเดินทางไกลก็ตาม

        5. ขับรถดี มีน้ำใจ เคารพกฎจราจร

        ช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นช่วงที่คนใช้รถใช้ถนนกันเยอะ

การขับขี่โดยเคารพกฎจราจรถือเป็นเรื่องที่ทุกคนพึงปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยกับเพื่อนร่วมทางและตัวคุณเองการปฏิบัติตามกฎจราจรจะช่วยให้ทุกคนได้ท่องเที่ยวอย่างสนุกสนานถึงที่หมายและกลับบ้านได้โดยสวัสดิภาพ ขัยรถดี มีน้ำใจ ไม่แซงตรงที่ไม่ปลอดภัย ระวังเขา ระวังเรา

          6. ไม่ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

           ในช่วงเทศกาลปีใหม่ การจราจรคับคั่ง ถือเป็นเทศกาลที่เกิดอุบัติเหตุเยอะมากกว่าเทศกาลอื่นทั่วไป ดังนั้นจึงควรที่จะระมัดระวังการขับขี่ โดยการไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เพราะเราใช้รถใช้ถนนร่วมกันกับผู้อื่นการรักษาระดับความเร็วจะช่วยป้องกันทั้งเราและเพื่อนร่วมทาง การไม่ขับรถรถจนเกินไปยังช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย ให้ทุกคนถึงที่หมายไปด้วยกันในช่วงเทศกาลปีใหม่

         7. งดการใช้โทรศัพท์ระหว่างขับรถ

             เพราะเพียงชั่ววินาทีเดียว ก็สามารถเกิดอุบัติเหตุ

ได้ หากจำเป็นควรมีอุปกรณ์พร้อมโดยไม่ต้องใช้มิอจับโทรศัพท์

         8. ขับขี่อย่างมีน้ำใจกับเพื่อนร่วมทาง

          ในการขับรถช่วงเทศกาลปีใหม่ต้องเผชิญกับรถติด หรือการขับรถที่มีผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันหลายคัน เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ แบ่งปันการใช้รถใช้ถนนเพื่อให้ทุกคนได้ท่องเที่ยวได้ไปหาครอบครัว เพื่อให้เทศกาลปีใหม่นี้เป็นเทศกาลที่มีแต่ความสุข ไม่ขับรถตัดหน้า หรือแม้แต่การแซง

ต้องให้สัญญาณ ไม่แซงทางโค้งหรือที่ไม่ปลอภัย

         9. ตรวจสภาพรถให้ดี หริอนำเข้าศูนย์บริการก่อน

             ควรตรวจสภาพรถให้ดีก่อน เช่น ยางรถ ระบบเบรกคลัช หรือเกียร์ ระบบไฟเลี้ยวซ้ายขวา ไฟต่ำ ไฟสูง น้ำมันเครื่อง แอร์ น้ำปัดกระจก ว่าปกติไหม เพราะขับรถทางไกลมักจะติดขัด

             สรุปแล้ว ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อท้ายปีเก่า ต้นปีใหม่ เป็นช่วงวิกฤติชีวิต และมักจะวัดได้เสมอว่า ใครจะกลับบ้านเก่า (ตาย) หรือยังมีชีวิตอยู่ หรือประสบเคราะห์กรรมเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเกิดจากจราจรภัย  โจรภัย อัคคีภัยแม้โรคภัยจากเชื้อไวรัสโควิด 19 ก็ตาม อย่าประมาท เพราะคะนอง ทำให้พลาด ประมาททำให้ตาย มองให้ตลอดลอดแนวอย่าประมาทในระหว่างเดินทาง มีสติ ระลึกได้ และสัมปชัญญะรู้ตัวเสมอทุกขณะจิต

 

 

----------------------

 

 

 

 

 

 

 

 

แหล่งข้อมูล

https://play.google.com/books/reader?id=CExQMAAA

AEAJ&pg=GBS.PA0

https://bit.ly/3jgwb0s

https://bit.ly/3hE77QF

https://tiresbid.com/content/post/detail/5463

http://www.klonghaecity.go.th/networknews/detail/261083/data.html

https://www.dailynews.co.th/news/608134/