ข้อที่ 1.
สิ่งที่เราจะเตรียมความพร้อมก่อนการให้คำปรึกษาเพื่อนคือการทำให้ตัวเองมีสติและสมาธิก่อน ใจเราไม่ได้โฟกัสไปกับสิ่งอื่นเพราะจะทำให้เราไม่ได้ใช้หัวใจในการฟังเพื่อน การฟังที่ดีคือเราจะต้องใช้หูตาใจรับฟัง
โดยมีการใช้เทคนิค 7 types Listening skills และสุจิปุริร่วมด้วย
- Informational (Concept) = จับประเด็นของข้อมูล
- Discriminative = ฟังแล้วแยกแยะข้อมูลว่าจริงหรือไม่จริง โดยการสังเกตแววตา น้ำเสียง ตำที่พูด
- Biased (Selective) = การตัดสินเองเลย เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- Sympathetic (Emotional) = ความรู้สึกสงสาร ซึ่งบางทีก็ร้องไห้ตาม
- Comprehensive = ภาษาที่ใช้
- Critical (Analysis + Solution) =
- Empathetic (Therapeutic) = มีอารมณ์ร่วมแต่เราต้องเข้มแข็งให้เร็วและช่วยทำให้เขาหาย เป็นสิ่งสำคัญที่เราควรมี
- เทคนิค สุจิปุริ
- สุ = ตั้งใจฟังด้วยหัวใจ
- จิ = คิดตาม
- ปุ = ตั้งคำถาม
- ริ = จดบันทึก
เทคนิคและกระบวนการที่เราช่วยเพื่อนให้มีภูมิคุ้มกันทางจิตใจได้ทักษะแก้ไขปัญหาชีวิตได้อย่างยั่งยืน ถ้าเราเป็นตัวกระตุ้นให้เพื่อนเครียดเพราะเพื่อนคิดว่าเราเรียนเก่งกว่า แต่เพื่อนต้องการให้เราช่วยจัดการความกังวลทางการเงิน
สิ่งแรกคือการเข้าไปพูดคุยกับเพื่อน โดยใช้เทคนิคหูตาใจรับฟัง
- สะท้อนคิด อาจใช้คำถาม มีอะไรที่ ผม/ฉันสามารถช่วยคุณได้บ้าง? อะไรที่คุณจำเป็นต้องทำตอนนี้? ฉันจะช่วยคุณอย่างไรให้เต็มที่?
- เงียบจับประเด็น ทวนซ้ำ
- สะท้อนความรู้สึก อาจใช้คำถามเช่น คุณรู้สึก… คุณทำ…เสมอ คุณต้องการ…อธิบายเหตุการณ์นี้ คุณไม่เคย…โดยไม่ตำหนิโทษตัวเอง ให้เขาลองเล่าในสิ่งที่จำเป็นต่อการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น
- พูดเนื้อหาที่เชื่อความรู้สึก “เห็นอกเห็นใจ”
- “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” จับอารมณ์บวกร่วมกับคิดครบระบบโดยใช้ META Model ตามรูปด้านล่างนี้
ข้อที่ 2. ในวิชานี้ เราได้ฝึกอะไรไปบ้าง
- น้ำเสียงในการพูดมีหลายชนิด ทั้ง Funny vs Serious, Formal vs Casual, Respectful vs Irreverent
- การนำเสนออย่างไรให้เป็นที่จดจำ โดยคนฟังจะจับ words ของเราได้ 7% โทนเสียง 38% และที่สำคัญคือ Body 55%
- พูดอย่างไรให้ไม่ไปกระทบจิตใจของผู้ฟัง เช่น จากไม่ได้ ไม่รู้ อย่าทำ แต่… เป็นได้ซิ เรียนรู้ดู ลองทำดูและ หรือ สู้ๆน่ะ เป็นสู้ๆน่ะ เป็นกำลังใจให้เพื่อนเสมอ
- การประชุมให้มีประสิทธิภาพใช้กฎ 20/50 คือตั้งใจประชุมแก้ปัญหาภายในเวลา 20 นาทีโดยอย่าเงียบอย่าบ่น หมดเวลาที่ 50 นาที
- กฎ 21/90 คิดดีขยันฝึกนิสัยเป็นคนใหม่ใน 21 วัน ก่อนที่จะหมดเวลาเพราะเราจะขี้เกียจใน 90 วัน
เทคนิคที่ทำให้เราได้เกิดทักษะการรับฟังได้ดีขึ้นมากที่สุดในสามอันดับแรก
- เทคนิค NVC (Non-verbal Communication) :อวัจนะภาษา โดยสังเกตภาษากาย อารมณ์สีหน้าท่าทาง การเคลื่อนไหวของผู้พูด ภาษาเสียง ลักษณะภายนอก ตา การสัมผัส เวลาบริบท วัฒนธรรมบริบทรอยสักหรือเครื่องประดับ และสิ่งแวดล้อม
- เทคนิคการใช้หูตาใจรับฟัง ซึ่งไม่เพิกเฉย แกล้งฟัง หรือเลือกฟัง โดยจะต้องมีการสะท้อนความคิด ความรู้สึก ความเห็นออกเห็นใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา
- เทคนิคการฟังอย่างไม่มีการ Biased คือการตัดสินเองเลยโดยดูแค่ลักษณะท่าทางภายนอกของเขา ไม่ได้ตั้งใจฟังเขา หรือฟังแบบผ่านๆ
หลังจากที่ได้เรียนในวิชาการฟังเพื่อการบำบัดนี้ ทำให้ดิฉันสามารถพัฒนาทักษะการฟังของตัวเองให้ดีขึ้นสามารถจับประเด็นได้ จากที่เมื่อก่อนไม่สามารถที่จะจับประเด็นหลักๆได้ อีกทั้งยังได้ฝึกให้ตัวเองมีอารมณ์ร่วมคิดบวก ซึ่งเมื่อก่อนเวลาที่ดิฉันฟังเรื่องที่เศร้าๆก็จะมีอารมณ์ร่วมและร้องไห้ตาม แต่หลังจากได้ฝึกให้ตัวเองมีEmphaty มากขึ้นนั้น เวลาฟังเราก็มีอารมณ์ร่วมแต่ก็ต้องทำให้ตัวเองเข้มแข็งและช่วยเหลือเขาให้ได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เป็นเรา ขอแค่เราพยายาม ซึ่งการที่ตัวเราจะมีสิ่งเหล่านี้ได้เราก็ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน ฝึกบ่อยๆอย่างน้อย21 ครั้ง และฝึกต่อไปอีก 90 ครั้งเพื่อให้มีทักษะนี้
จัดทำโดย : 6423032 ฮูดาซามีลา ดาโอ๊ะ