สิ่งที่เราจะเตรียมความพร้อมก่อนการให้คำปรึกษาเพื่อน
จะใช้เทคนิคใดบ้างที่เคยเรียนรู้มา
กระบวนการที่ช่วยให้เพื่อนมีภูมิคุ้มกันทางจิตใจ หากเราเป็นตัวกระตุ้นให้เพื่อนเครียดเพราะเพื่อนคิดว่าเราเรียนเก่งกว่าเพื่อน แต่เพื่อนต้องการให้เราช่วยจัดการปัญหาทางการเงิน
อย่างแรกคือพูดคุยทำความเข้าใจเกี่ยวกับความคิดของเพื่อน ที่คิดว่าเราเรียนเก่งกว่า ดูและสังเกตุว่าทำไมและเพราะอะไรถึงทำให้คิดแบบนี้จนถึงขั้นเก็บมาเครียด จากนั้นพูดคุยถึงปัญหาของเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา ถามคำถามที่ให้เพื่อนคิดทางแก้/ทางออกของปัญหาของตัวเองได้ จากนั้นชวนเพื่อนทำmeta model ที่จะช่วยทำให้เราคิดไตร่ตรองอย่างเป็นระบบ ทั้งเรื่องเครียดเรื่องเรียน และเรื่องการเงิน เนื่องจากส่วนของเรื่องการเงินนั้น เราไม่มีข้อมูลหรือความรู้ที่เพียงพอที่จะช่วยเพื่อนแก้ปัญหาได้ ที่เราทำได้คือทำให้เพื่อนของเราคิดด้วยตัวเอง ว่าตัวเองนั้นสามารถรับมือ จัดการเกี่ยวกับเรื่องการเงินนั้นได้มากแค่ไหน ถ้าไม่สามารถจัดการได้ ควรปรึกษาคนที่สามารถช่วยเรื่องนี้หรือมีความรู้ หรือพูดคุยกับบุคคลที่ให้เงินเราโดยตรง
ในวิชานี้เราได้ฝึกอะไรบ้าง
1.ฝึกการสังเกตคำพูดที่แสดงออกเพียงแค่7% แต่โทนเสียง และภาษากายนั้นแสดงออกถึง38% และ55%ตามลำดับ
2.ฝึกการรับฟังอย่างมีสติ ไม่ตัดสินไปก่อนที่จะฟัง และรับฟังอย่างempathy ฟังเพื่อที่จะช่วยเหลือเค้าจริงๆ
3.ฝึกการจับใจความในสิ่งที่ได้ฟัง
4.ฝึกการตั้งคำถามที่ช่วยให้ผู้พูดได้คิดทางแก้ปัญหาของตัวเองได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากปัญหาของใคร ปัญหาของคนนั้น เราไม่ได้รับรู้รายละเอียดของปัญหาที่เค้าเจอ
5.ฝึกProductive Meeting ในบทบาทของceo ได้ฝึกการฟังเพื่อนร่วมทีมและสรุปออกมาให้ครอบคลุมทุกประเด็นและฝึกการมอบหมายงานให้ตรงกับหน้าที่และความสามารถของเพื่อนร่วมทีม
6.ได้ฝึกการพูดหน้าชั้นเรียน
7.ได้ฝึกการหายใจและการผ่อนคลายความตึงเครียดของร่างกาย
เทคนิคที่ทำให้เราเกิดการรับฟังได้ดีที่สุด
1.เทคนิคการฟังแบบใช้หู ตา ใจ รับฟัง ทำให้เราสามารถจับประเด็นที่งที่เค้าตั้งใจเล่า และปัญหาที่แท้จริงได้
2.เทคนิคการถามคำถาม เนื่องจากเป็นการถามคำถามเค้าเพื่อให้เค้าคิดทางออกของตัวเองได้ เพราะสิ่งที่เราแนะนำเค้าไป เป็นสิ่งที่เราคิดว่าดี แต่มันอาจจะดีแค่สำหรับตัวเอง แต่ไม่เวิคสำหรับตัวเค้า ดังนั้นการที่มห้เค้าคิดทางออกได้ด้วยตัวเองจะมีประสิทธิภาพมากกว่า
3. เทคนิคการสังเกตnonverbal communication เนื่องจากภาษากายนั้นแสดงออกถึง55% การสังเกตภาษากายนั้นช่วยให้เรารู้ว่าเค้ารู้สึกอย่างไรจริงๆ เนื่องจากคำพูดเราสามารถพูดโกหกกันได้ แต่ภาษากายนั้นหลอกได้ยาก ทำให้เราเข้าใจถึงปัญหาของเค้าได้จริงๆ
ไม่มีความเห็น